พ่อค้าตลาดจุดธูปเงินกองทุนตลาด120 ล้านเหลือเพียง 844 บาทยังไม่มีใครตอบได้เงินหายไปไหนนนทบุรี

พ่อค้าตลาดจุดธูปเงินกองทุนตลาด120 ล้านเหลือเพียง 844 บาทยังไม่มีใครตอบได้เงินหายไปไหนนนทบุรี

พ่อค้าตลาดจุดธูปเงินกองทุนตลาด120 ล้านเหลือเพียง 844 บาทยังไม่มีใครตอบได้เงินหายไปไหน
นนทบุรี เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2567 ที่ตลาดพิชัย ต.ปาก้กร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเกียรติคุณ ต้นยาง กรรมมาธิการ การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษชนสภาผู้แทนราษฏร เข้าตรวจสอบหลังได้รับการร้องเรียน ประชาชนนำเงินเข้าออมกับสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 หลังประชาชนเข้าไปเบิกเงินทางสถาบันการเงินไม่มีเงินให้เบิกความเสียหาย 120 ล้านบาท เหลือเงินในบัญชี844 บาท รวมผู้เสียหาย 138 ราย และย้ายสถาบันการเงินชุมชน ไปอยู่ที่อื่นโดยไม่แจ้งประชาชนที่นำเงินเข้าไปออม

นายเกียรติคุณ ต้นยาง กรรมมาธิการ การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษชนสภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ทางผู้เสียหายของสถาบันการเงินปากเกร็ดร่วมใจ2 ได้ร้องผ่านทาง ส.ส. ปิติ ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.นนทบุรี ซึ่งตนเป็นกรรมธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ไปร้องคดีไม่คืบ เพราะว่าไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ดไว้ และทั้งในอ.ปากเกร็ด ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี DSI กองปราบ ตำรวจเศรษฐกิจ ซึ่งไปแจ้งทุกหน่วยงาน แต่ไม่มีความคืบหน้า ตนจึงรับเรื่องเข้ากรรมธิการการกฎหมายไว้ เพื่อที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม ว่าติดขัดล้าช้ายังไง วันนี้จึงมาลงพื้นที่อีกครั้งว่าตามที่เขามาร้องเป็นยังไง เพื่อที่จะกลับไปแจ้งกับกรรมธิการ ซึ่งมาพบว่ากองทุนที่อยู่ตรงนี้ได้ย้ายที่ทำการไปแล้ว จากการสอบถามว่าทำไมถึงย้ายเจ้าของตลาดก็แจ้งว่าพ่อค้าแม่ค้ามาเรียกร้องตรงนี้เป็นจำนวนมาก ก็กลัวเสียหาย เพราะกองทุนที่อยู่ที่นี้ ไม่เคยจ่ายค่าเช่าเลยตั้งแต่มาอยู่ และทางเจ้าของตลาดก็ไม่เก็บค่าเช่า เพราะว่าทางตลาดเห็นว่ามีประโยชน์กับพ่อค้าแม่ค้าก็เลยอนุญาติให้อยู่ พอหลังๆพ่อค้าแม่ค้ามาขอถอนเงินกลับถอนเงินไม่ได้ พอทวงมากๆ ทางตลาดก็กลัวจะเสียหาย กลัวโดนกล่าวว่ารู้เห็นเป็นใจ เลยให้ทางกองทุนย้ายออกไป ซึ่งก็บอกให้ย้ายไปตั้งแต่ ปี 64 ให้ย้ายไป แต่กองทุนไม่เคยบอกสมาชิกว่าจะต้องย้าย และชาวบ้านก็มารู้วันที่ตนมาว่ากองทุนได้ย้ายไปแล้ว ตนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเวลามีการดำเนินการเรื่องราว ในจุดสำคัญทำไมถึงย้าย ทำไมไม่บอกสมาชิก ตนเป็นห่วงเรื่องเอกสารสำคัญของกองทุนกับการย้ายครั้งนี้อย่าบอกว่าหาย เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญของคดีในการหาผู้กระทำความผิด จะทำให้ชาวบ้านสมาชิกเงินทุน อดออมวันล่ะ 100 วันล่ะ 1000 จนสะสมเป็นเงิน หมื่นเงินแสน เงินเขาก็จะหายไปกลายเป็นว่าเอกสารหายไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้ ก็อยากให้รับเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็ใช้อำนาจหน้าที่ของกรรมธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนของสภาผู้แทนราษฎร ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ส่งข้อมูลข้อเท็จจริงมา ตามที่แม่ค้า พ่อค้า พี่น้องประชาชน ชาวตลาดพิชัย กองทุนปากเกร็ดร่วมใจ2 ที่ได้ร่วมกันสะสมกองทุน พอถึงเวลากองทุนไม่สามารถให้เบิกถอนเงินได้ ซึ่งความเสียหายที่รวบรวมได้อยู่ที่ประมาน 120 ล้านบาท ซึ่งเงินตรงนี้หายไปไหนและอยู่กับใคร ใครมีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวน สืบสวน ทุกๆหน่วยงานโปรดมาช่วยชาวบ้านด้วย ว่าจะต้องทำยังไงให้เงิน 120 ล้านบาทมาคืนสู่พี่น้องประชาชน 100 กว่าราย ซึ่งเงินในบัญชีจากเดิม 88 ล้าน ตอนนี้เหลือ 844 บาท ความเสียหายรวม 120 ล้านบาท

นายมานะ รัตนวิเชียร อายุ 59 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนไม่ได้เงินคืนเลยที่ฝากๆออมไว้ก็โดนแขวนไว้นิ่ง และเงิน ที่ตนและญาติฝากออมเอาไว้เกือบ5,000,000 บาท ซึ่งมีผู้เสียหาย 138 คน มูลค่าเงิน 120 ล้านบาท ซึ่งได้ตรวจสอบแล้ว เฉพาะครอบครัวของตนก็ เกือบ 5 ล้านบาท ตนจะเบิกคืนก็เบิกไม่ได้ ซึ่งทำมาทั้งชีวิต ทั้งแม่ และภรรยาตน ตนเดือดร้อนมากๆ เป็นแบบนี้มา 2 ปีเต็ม ตนเคยไปถามก็โดนแขวนไว้นิ่ง ตนก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน สอบสวน ก็มีแต่ปากชาวบ้านพูด เอาเงินไปละลาย รักษาตัวบ้าง ยักยอกบ้าง และที่สำคัญมี 3 คนที่เซ็นเอาเงินออกไป ไม่รู้ว่าเอาเงินออกไปทำอะไร เขาก็มั่งมีทุกคนอยู่ดีกินดียันทุกวันนี้ แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ พวกตนก็ไปแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเริ่มแจ้งตั้งแต่ สภ.ปากเกร็ด DSI กองปราบ กระทรวงยุติธรรม พอไปแล้วตนต้องขอบอกตรงๆว่าโยน ตนไปที่อำเภอเขาก็บอกว่าเรื่องวนอยู่ในกระทะจับจุดไม่ได้ นายอำเภอก็ให้ลูกน้อง ปลัดรับรอง ซึ่งนายอำเภอก็บอกกับตนว่ามีหน้าที่แต่เขาไม่มีอำนาจถ้าเขาลงไปทำเขาจะผิด และมี ดร.ไพรบูลย์ ท่านเป็นกรรมธิการ ตนก็ไปที่ผู้ว่าจังหวัดนนทบุรี ท่านก็ลงมาดูแลให้กำชับทางนายอำเภอ ก็ช่วยกันดูแลก็ปัดกันไปปัดกันมา ตนอยากให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบตรงนี้มาซับพอตเพราะตรงนี้เพราะประชาชนเสียหาย ไม่มีเงินจริงๆ เสียชีวิตไปก็หลายคนไม่สบายก็หลายคน รอเงินที่จะรักษาอยู่ คนแก่ที่ทำมาทั้งชีวิต เช่นแม่ของตน อายุ86 ปี ท่านก็ทำมาทั้งชีวิตกว่าจะได้เงินล้านมาเก็บ ตนก็อยากรู้ว่าตั้งมาทำไม ดูแลรับผิดชอบไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ก็ย้ายหนีไปแล้ว

นายประกิต จุฬาโรจน์มนตรี กรรมการการตลาด กล่าวว่า ตนเห็นครงนี้เป็นเงินทุนของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด เวลามีคนมาฝากออม และเอาเงินตรงนี้ไปให้แม่ค้ากู้ในดอกเบี้ยต่ำ เขาก็ขยานกิจการของเขาได้ เพราะในตลาดที่นี้สมัยก่อนแขกเยอะมาก มาปล่อยกู้เดือนละ 20 ตนเห็นกองทุนตรงนี้มาและยังดอกเบี้ยงต่ำตนเลนสนับสนุนแต่ตอนหหลัง ตนก็ไม่รู้ว่ากองทุนมีปัญหาอะไรทำไมทางตลาดก็เลยเชิญออกจากตลาด เพราะว่าแม่ค้า มาชุมนุมกัน เพราะเบิกเงินไม่ได้ และมาบอกว่าทางตลาดมาสนับสนุนกองทุนเกี่ยวข้องกับกองทุนหรือไม่ เอาเงินกองทุนไปใช้ไหมซึ่งตลาดไม่เคยยุ่งกับกองทุนเลย ตนก็เลยแจ้งกองทุนให้ออกก็ใช้เวลาเป็นปี กว่าเขาจะย้ายออกไป ทางกองทุนก็จ่ายค่าน้ำค่าไฟเอง ชั้น 2 ก็เป็นห้องประชุมเขาก็ใช้ปกติ พี่น้องประชาชนที่มาเยี่ยมตลาด พ่อค้าแม่ค้าทุกท่านยินดีต้อนรับทุกคน แต่กองทุนตรงนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางตลาด

ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก

เว็บไซต์: https://kardchuek.net

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,262 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *