Tim Cook ซีอีโอ Apple สั่งเดินเครื่องพัฒนาแว่นตา Mixed-Reality ในปีนี้ แม้ทีมออกแบบยังไม่พร้อม

Tim Cook ซีอีโอ Apple สั่งเดินเครื่องพัฒนาแว่นตา Mixed-Reality ในปีนี้ แม้ทีมออกแบบยังไม่พร้อม

ทิม คุก ผลักดันให้ทีมออกแบบเร่งพัฒนาแว่นตา Mixed-Reality แบบเต็มสูบให้สำเร็จภายในปีนี้ แต่ในความเห็นของทีมออกแบบเห็นแย้ง เพราะยังไม่พร้อมและเร็วเกินไป

รายงานของสำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทมส์ เปิดเผยว่า การพัฒนาแว่นตา Mixed-Reality เป็นหนึ่งในหัวข้อของความขัดแย้งภายในบริษัทแอปเปิลไม่น้อย เมื่อทีมออกแบบที่ทำหน้าที่พัฒนา Mixed-Reality ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ยังไม่พร้อมสำหรับการเปิดตัว จนกว่าที่ทีมออกแบบจะทำให้แว่นตา AR มีน้ำหนักที่เบาลงกว่ารุ่นตัวต้นแบบ

แต่ในทางตรงกันข้าม ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล และเจฟฟ์ วิลเลียมส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ มีความต้องการให้แว่นตา AR ทันวางจำหน่ายในปี 2023

การลาออกของเซอร์ โจนี ไอฟ์ ที่เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบของแอปเปิลในปี 2019 ส่งผลให้งานของทีมออกแบบทั้งหมดจะต้องรายงานขึ้นตรงต่อเจฟฟ์ วิลเลียมส์ ซึ่งแตกต่างจากยุคของสตีฟ จ็อบส์ ที่ฝ่ายออกแบบจะรายงานขึ้นตรงต่อตัวจ็อบส์โดยตรง

พร้อมกันนี้ มีการตั้งข้อสังเกตของพนักงานว่า ในเวลานี้ฝ่ายปฏิบัติการได้เข้ามาควบคุมแนวทางการพัฒนาของฝ่ายออกแบบมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคของทิม คุก ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะว่าก่อนหน้าที่ทิม คุก จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของแอปเปิล เขาเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ มาก่อน

ว่ากันว่าแว่นตา Mixed-Reality ของแอปเปิล อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนามานานกว่า 7 ปี ซึ่งกินเวลาเป็นสองเท่าของการพัฒนา iPhone รุ่นแรกด้วยซ้ำ ทั้งนี้ ในมุมมองของทิม คุก แว่นตา AR ถือเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นสำคัญ นั่นเป็นเพราะนับตั้งแต่การวางจำหน่าย Apple Watch ซึ่งมาจากแนวคิดของสตีฟ จ็อบส์ สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ และวางจำหน่ายในปี 2015 นับจากวันนั้นแอปเปิลก็ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ ออกมาให้เห็นอีก

พร้อมกันนี้ ถ้าหากแว่น AR ประสบความสำเร็จ เท่ากับว่าทิม คุก ได้ทิ้งมรดกชิ้นสำคัญให้กับแอปเปิล เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งสตีฟ จ็อบส์ เคยประสบความสำเร็จเมื่อครั้งที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่าง iPod, iPhone และ iPad

ตามรายงานที่เคยมีออกมาก่อนหน้านี้ เชื่อกันว่า แอปเปิล ตั้งเป้ายอดขายแว่นตา Mixed-Reality เอาไว้ที่ 1 ล้านเครื่องสำหรับการวางจำหน่ายในปีแรก สนนราคาที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 แสนบาท) แม้ตัวเลข 1 ล้านเครื่องดูเป็นตัวเลขที่เยอะมาก แต่ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการวางจำหน่าย iPhone และ iPad ในปีแรก

ที่มา: FT
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,783 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed