ป.ป.ส. นำรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแคนาดา ศึกษาดูงานความร่วมมือยาเสพติด

ป.ป.ส. นำรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแคนาดา ศึกษาดูงานความร่วมมือยาเสพติด วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายนางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ Deputy Commissioner Dwayne McDonald รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแคนาดา และคณะผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติแคนา (Royal Canadian Mounted Police : RCMP) ศึกษาดูงานด้านยาเสพติด ณ วิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (วปส.) หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ณ จังหวัดเชียงราย คณะฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับภารกิจของ วปส. โดย นางสาวกรรณิกา วงศ์ขัติย์ ผอ.วปส. ในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีระหว่างประเทศ การสนับสนุนการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยาเสพติด การประสานความร่วมมือด้านวิชาการในการร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด ผ่านการส่งผู้แทนเข้าร่วมศึกษา อบรมหลักสูตรต่าง ๆ และแนวทางการพัฒนา วปส. สู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการฝึกอบรมบุคลากรด้านยาเสพติดในระดับภูมิภาค ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์และส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับชุมชนโดยรอบ รวมถึงรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและความร่วมมือในอนุภูมิภาคฯ โดยนายสรรพสิทธิ์ บุญเลิศ ผอ.มข. เพื่อปราบปรามยาเสพติด ภายใต้กลไกความร่วมมือศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย ทั้งนี้ RCMP ได้ความสนใจและชื่นชมความร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติดอย่างใกล้ชิดของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านและการมีบทบาทนำของสำนักงาน ป.ป.ส. ในภูมิภาคในการพัฒนาโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศในการสกัดกั้นยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ โดยเฉพาะในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โครงการความช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนให้การดำเนินการดังกล่าวมีประสิทธิภาพ ตลอดจนโครงการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ครอบคลุมรอบด้าน อีกทั้งชื่นชมนโยบายรัฐบาลและประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่เน้นด้านสาธารณสุข มีการนำผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติดเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา รวมถึงการทดลองปลูกพืชเสพติด เพื่อการศึกษาวิจัย และได้ร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ยาเสพติด ซึ่งแคนาดามีนโยบายยาเสพติดที่เน้นการลดอันตรายและระบบบำบัดรักษาโดยสมัครใจ และแม้กฎหมายอาญาควบคุมยาเสพติดบังคับใช้ทั้งประเทศ ทั้งนี้อนุญาตให้กระทรวงสาธารณสุขของแต่ละรัฐสามารถออกระเบียบบริหารของตนเองได้ เช่น รัฐบริติชโคลอมเบียมีโครงการทดลองอนุญาตให้ครอบครองยาเสพติดในปริมาณเล็กน้อยได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แคนาดากำลังเผชิญความท้าทายจากปัญหาการแพร่ระบาดของเฟนทานิล ซึ่ง RCMP รู้สึกยินดีที่ได้รับทราบว่าประเทศไทยโดย สำนักงาน ป.ป.ส. มีความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกามีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการเฝ้าระวังปัญหาเฟนทานิลในภูมิภาคนี้ จากนั้น คณะฯ ได้เยี่ยมชมแปลงสาธิตการปลูกพืชเสพติด อาคารที่พัก และห้องประชุมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ซึ่งสามารถรองรับการฝึกอบรมบุคลากรระหว่างประเทศของ วปส. และได้เข้าเยี่ยมชมหอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงประวัติความเป็นมา วิวัฒนาการและพิษภัยของยาเสพติด จากอดีตจนถึงปัจจุบันซึ่งคณะให้ความสนใจและชื่มชมถึงประโยชน์ของการใช้หอฝิ่นในการสร้างความตระหนักรู้ให้กับเด็ก เยาวชนและประชาชนผู้มาเยี่ยมชม นอกจากนี้ คณะฯ ได้ศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ณ นรข. จังหวัดเชียงราย และล่องเรือสำรวจลักษณะภูมิประเทศบริเวณลำแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่ง RCMP มีความสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการปฏิบัติการร่วมในแม่น้ำโขงระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยและลาว การคัดเลือกและพัฒนาบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ การใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีในการเฝ้าระวัง การติดตามเป้าหมาย และการจู่โจม ตลอดจนบริบทความท้าทายในพื้นที่ ทั้งการพัฒนาของคาสิโน การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการลักลอบลำเลียง การใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ เป็นต้น ในการนี้ คณะผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติแคนาดาได้กล่าวขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. อย่างยิ่งที่ได้จัดการศึกษาดูงานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสำเร็จในด้านบทบาทในการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคของประเทศไทย รวมทั้งความท้าทายและความร่วมมือในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมกันนี้คณะฯ ได้แสดงความพร้อมต่อการขยายความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีในการร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม และพร้อมให้การสนับสนุน วปส. ในด้านการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ และทักษะ ให้แก่เจ้ใจาหน้าที่บังคับใช้กฏหมายทั้งของประเทศไทยและประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป