รวบตัวการใหญ่เป็นธุระจัดหาเปิดบัญชีม้า

  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี, พ.ต.ท.วิวัฒนชัย คลื่นแก้ว , พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ , พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ รอง ผกก.5 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.

ร่วมกันจับกุม นายอาเจาเต๋อฯ หรือกวาง อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา
ที่ 2216/2565 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2565 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบสินเชื่อรายย่อยส่วนบุคคลภายใต้กำกับของกระทงการคลังโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันปลอมและร่วมกันใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม,ร่วมกันกระทำการอั้งยี่ หรือซ่องโจร,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกระทำการโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรม หรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรม หรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว”

จับกุม บริเวณหน้าบ้าน ใน ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณกลางปี 2564 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และประชาชนจำนวน 4 ราย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก. 5 บก.ปอศ. ด้วยมีกลุ่มผู้กระทำผิดได้แอบอ้าง โดยเปิดแอปพลิเคชัน บีบาท (BeeBaht) และแอปพลิเคชัน DD Cash และโฆษณาผ่านเพจเฟซบุ๊ก ว่าประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล แสดงตัวว่าชื่อ บริษัท บีบาท จำกัด ปลอมใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และมีประชาชนหลงเชื่อ ไปทำการกู้เงินกับกลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าว เป็นเหตุให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

กระทรวงการคลัง และประชาชนได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการ ทำการสืบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ร่วมขบวนการจำนวน 16 ราย และจากการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม พบว่า นายอาเจาเต๋อฯ เป็นธุระจัดหาบัญชีม้า โดย ชักชวนให้กลุ่มผู้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้ เปิดบัญชีม้าเพื่อใช้ในการหลอกลวง
โดยก่อนทำการกู้เงินต้องโอนเงินค่าประกันการกู้ยืมเงินก่อน เมื่อผู้เสียหายได้ทำการโอนเงินเข้าไปยังบัญชีเงินฝากของกลุ่มผู้ต้องหาแล้วก็ไม่มีการโอนเงินกู้ให้แก่ผู้เสียหายแต่อย่างใด รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 190,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและติดตาม จนพบเบาะแสว่า นายอาเจาเต๋อฯ ได้มากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.พิมาย จว.นครราชสีมา จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนทำการจับกุมตัว
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับของศาลอาญา เข้าทำการจับกุมตัว นายอาเจาเต๋อฯ ได้ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป