นนทบุรี เปิดใจอดีตเลขารัฐมนตรีแรงงาน ยืนยันเอาเรื่องทั้งทางแพ่งและอาญา หลังธนาคารดังทำโฉนดบ้านและที่ดินกว่า 50 ล้านหายไร้ร่องรอย
จากกรณีนายไพศาล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นางอุไรวรรณ เทียนทอง) ร้องเรียนผู้สื่อข้าวว่าตนเองได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และอยากขอความเป็นธรรมหลังจากตนเองได้นำโฉนดบ้านและที่ดิน 418 ตารางวา ไปจำนองกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด สำนักงานใหญ่ ย่านถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ เมื่อปี 48 เป็นจำนวนเงิน 40 ล้านบาท และผ่อนชำระใช้หนี้เรื่อยมา จนยอดเหลืออยู่ที่ 23.3 ล้านบาท หลังจากนั้นตนได้ประกาศขายบ้าน ในราคา 35 ล้านบาท โดยต้องเสียค่านายหน้า กว่า 1.3 ล้านบาทให้กับผู้ที่แนะนำคนมาซื้อบ้าน ตน และทางผู้ซื้อได้มัดจำเงินมาให้กับตนเองแล้วจำนวนเงิน 2 ล้านบาท โดยนัดทำสัญญาโอนกันในวันที่ 25 ธันวาคม 66
ต่อมาทางตนเองได้ติดต่อไปที่ธนาคาร เพื่อขอไถ่ถอนโฉนดบ้านและที่ดินคืน ทางธนาคารแจ้งว่าต้องวางเงินจำนวน 1.3 ล้านบาทมาที่ธนาคารก่อน ตนจึงได้นำเงิน มัดจำในการไถ่ถอนไปวางไว้ให้ตามที่ธนาคารแจ้งมา ส่วนที่เหลืออีก 22 ล้านบาท ได้เตรียมเงินไว้แล้วเพื่อที่จะจ่ายให้ธนาคาร เมื่อสอบถามโฉนดที่ตนเองจำนองไว้ และขอดูธนาคารกับแจ้งว่าโฉนดบ้านและที่ดินตนเองหายไปตั้งแต่ปี 64 แล้ว และบอกให้ตนเองไปคัดสำเนาใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลา อย่างเร็ว 30 วันอย่างช้า 60 วัน และต้องมีค่าใช้จ่าย อยู่หลายหมื่นบาท โดยธนาคารปฏิเสธความรับผิดชอบ บอกได้เพียงคำเดียวว่า “ขอโทษ” ตนถึงกับช็อคในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและรู้สึกว่า ธนาคารทำแบบนี้กับลูกค้าได้อย่างไร
ตนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะไม่สามารถขายบ้านที่ผู้ซื้อมัดจำไว้ 2 ล้านบาท แถมทางคนซื้อก็จะปรับที่ตนผิดสัญญาซื้อขาย เป็นเงินอีก 2 ล้านบาท เพราะทางผู้ซื้อเองเขาก็เดือดร้อนเพราะต้องไปกู้เงินเสียดอกมาซื้อบ้านตนเองในราคา 35 ล้านบาท อีกทั้งตนยังจะต้องควักกระเป๋าเสียค่านายหน้าให้กับผู้ที่แนะคนมาซื้อบ้านอีกเป็นเงิน ล้านกว่าบาท ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ลูกสาวตนเองได้วางมัดจำจำนวน 500,000 บาทเพื่อที่จะไปซื้อหมู่บ้านอีกแห่งในราคา 15 ล้านบาท โดยต้องใช้เงินจากการขายบ้านหลังนี้ของตนเอง เมื่อมาเจอปัญหาแบบนี้ทำให้เงินมัดจำจำนวน 500,000 บาทของลูกสาวก็ต้องถูกรีบไป
ต่อมาเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 15 ธันวาคม 66 ผู้สื่อข่าว ได้รับการเปิดเผยจากนายไพศาล ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตอนนี้ตนเองเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับทางธนาคารทั้งทางแพ่งและอาญา หลังทำตนเองเสียหาย และต้องเสียสิทธิ์ในการขายบ้าน ถูกผู้ซื้อ จะปรับที่ผิดสัญญา รวมทั้งต้องเสียค่านายหน้าให้กับผู้ที่แนะนำ ผู้ซื้อมาซื้อบ้านตนเอง ตนเชื่อว่าโฉนดที่ดินของตนเองหายไปอย่างมีเลศนัยต้อง เกิดจากคนภายในนำโฉนดของตนเองไปหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ หลังเกิดเรื่องเป็นข่าวทางธนาคารก็ยังนิ่งเฉย ไม่มีคำตอบให้กับตนเอง ตนได้รวบรวมหลักฐานเอกสารต่างๆ และตัดสินใจที่จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากับธนาคารแห่งนี้ ตนเคยเป็นบุคคลมีชื่อเสียงมีตำแหน่งหน้าที่การงานยังถูกกระทำขนาดนี้นับประสาอะไรกับคนธรรมดา ซึ่งไม่สามารถคาดเดาและพูดต่อได้เลย ยืนยันจะดำเนินการและดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหากทางธนาคาร ไม่สามารถนำโฉนด มาคืนตนเองได้



ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net