หนุ่มเพชรบูรณ์ ดัดแปลงแบลงค์กัน ขายปืนปากกา ออนไลน์โดดหนีไม่รอด

เมื่อเงลา 08.00 น. วันที่ 4 พ.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พ.ต.อ.นิพล บุญเกิด รอง ผบก.สอท.3 รรท.ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 สั่งการให้ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 โดย พ.ต.ต.คมคิด บำเพ็ญบุญ สว.กก.4 บก.สอท.2 ร.ต.อ.ทรงกฤช อินทร์ชัยศร รอง สว.กก.4 บก.สอท.2 ร.ต.อ.โชคชัย พิณะเวศน์ รอง สว.กก.4 บก.สอท 2 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 นำหมายค้นศาลจังหวัดพิจิตร ที่130/2566 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 332/1 ม.12 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งผลิต และดัดแปลงอาวุธปืนแบลงค์กัน ปืนปากกา ผ่านทางสื่อออนไลน์

โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกปิดล้อมบริเวณรอบบ้านเนื่องจากตัวบ้านไม่มีรั้วทำให้เข้าออกได้หลายทาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายค้นให้เจ้าของบ้านดูอยู่บริเวณหน้าบ้าน กำลังอีกส่วนที่ทำการปิดล้อมบริเวณบ้านอยู่สังเกตุเห็นชายต้องสงสัยวิ่งออกมาจากตัวบ้านเจ้าหน้าที่จึงวิ่งติดตามและจับกุมตัวเอาไว้ได้ทราบชื่อนายปริญญา เพ็ชรจินดา อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง ปืนปากกาขนาด .38 จำนวน 4 กระบอก เครื่องกระสุนขนาด .38 จำนวน 6 นัด มี่ถือติดมือออกมาเพื่อจะโยนทิ้ง

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 332/1 ม.12 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ที่บริเวณหลังบ้านพบอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงแล้ว 1 กระบอก อุปกรณ์ทดลองอาวุธปืน เหล็กสำหรับทำลำกล้องปืน 26 ชิ้น เข็มแทงชนวน 20 ชิ้น แม็กกาซีน 23 อัน ลูกเลื่อน 2 อัน สปลิงแม็กกาซีน 3 ชิ้น สปลิงนก 3 ชิ้น และเครื่องมือที่ใช้ในการดัดแปลงปืนแบลงค์กัน ปืนปากกา รวม 43 รายการ และยังพบยาบ้าบรรจุใส่ถุงซิบใสซุกซ่อนอยู่ในกระบอกปืนอัดลมจำนวน 7 เม็ด

การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบานของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องได้ทำการสืบสวนหาข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนชนิด ปืนปากกา และ ปืนไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนปืน ผ่านทางสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 ได้ทำการสืบสวนหาข่าวและแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มลับที่ซื้อขายจำหน่ายอาวุธปืนดัดแปลง ปืนปากกา จนทราบที่ตั้งของแหล่งผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนผิดกฏหมาย ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดพิจิตร เข้าค้น จับกุมคนร้าย และตรวจยึดของกลาง เอาไว้ได้

จากการสอบถาม นายปริญญา ยอมรับว่าเป็นคนทำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ชนิดปืนปากกา และนำปืนแบลงค์กันมาดัดแปลงเป็นอาวุธปืน เพื่อจำหน่ายมาเป็นเวลากว่าสองปี โดยจำหน่ายปืนปากกาไปประมาณ 4-5 กระบอกต่อเดือน ในราคากระบอกละ 1,200 – 1,500 บาท ส่วนปืนแบลงค์กันที่นำมาดัดแปลงเป็นอาวุธปืน จะขายในราคากระบอกละ 15,000 บาท โดยจำหน่ายผ่านกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์ซื้อขายจำหน่ายปืนเถื่อน ซึ่งในกลุ่มจะมีทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย หากผู้ใดสนใจอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ชนิดปืนปากกา หรือจะนำปืนแบลงกันมาดัดแปลงเป็นอาวุธปืน ก็จะให้ทักไลน์ส่วนตัว เพื่อตกลงราคาจากนั้นจะผลิตอาวุธปืนตามที่ลูกค้าต้องการและทำการจัดส่งพัสดุ ช่องทางบริษัทขนส่งเอกชน บางครั้งก็จะมีพ่อต้าด้วยกันส่งงานมาให้ทำก่อนจะนำกลับไปขายให้ลูกค้าตัวเิง เงินที่ได้จากการจำหน่ายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์นั้น ได้นำมาผ่อนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์ 2 คัน และใช้ส่วนตัว

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบอาวุธปืนที่พบไม่มีใบอนุญาต ป.4 เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทับคล้อ ดำเนินคดีตามกฏหมาย และขยายผลไปยังผู้ซื้อเพิ่มดำเนินการตามกฏหมายต่อไป