นนทบุรี วงจรปิด สาวร้องสื่อ พ่อวัย 67 ปี ถูกวัยรุ่นทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสเข้าห้องผ่าตัด
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 6 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.ปรางทิพย์ ใยบัวเทศ อายุ 31 ปี ว่าวันที่ 4 เม.
ย. 66 เวลา 22.00 น. ทางพ่อหรือนายศักดิ์ชัย ใยบัวเทศ อายุ 67 ปี ถูกนายประธาน จิตรเที่ยง อายุ 36 ปี ทำร้าร่างกาย บริเวณโป๊ะท่าเรือย่านปากเกร็ด ทำให้ได้รับบาดเจ็บ กรามแตก ฟันโยกประมาณ 4 ซี่ คิ้วแตก ต้องรอหมอผ่าตัดกราม นอนโรงพยาบาลมาแล้ว 4 วัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย เคยมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง ทางผู้เสียหายจึงร้องเรียนเข้ามาเพราะอยากได้รับความเป็นธรรมให้กับพ่อที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ ซึ่งทางผู้เสียหายพบปลอกมีดตกอยู่ที่เกิดเหตุจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อส่งให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพวันที่ 9 ก.พ. 66 เวลาประมาณ 18.53 น. จับภาพกลุ่มคู่กรณีเข้ามาที่หน้าบ้านประมาณ 10 กว่าคน เข้ามารวมกลุ่ม เพื่อมาถามหาพ่อของผู้เสียหาย หลังจากนั้นประมาณ 5-10 นาที ทางกลุ่มคู่กรณีได้ขับรถออกหน้าบ้านหายจากกล้องวงจรปิดไป
จากการสอบถาม น.ส.ปรางทิพย์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดเหตุที่มีปัญหากันมาเป็นเรื่องเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เหตุเกิดบริเวณถนนภูมิเวท บริเวณวินวัดกลาง ว่ามีวินเข้ามาหาเรื่องพ่อของตน และใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย แต่เพื่อนพ่อเห็นว่าท่าไม่ดีเขาจึงไล่คู่กรณีกลับไป หลังจากนั้นน้องชายตนได้ขี่รถจยย.มารับพ่อกลับบ้าน และแวะเข้าไปถามว่ามีเรื่องอะไรกับพ่อของตน แต่แฟนของคู่กรณีได้ไล่กลับไปและบอกว่าเดี๋ยวจะโดนส้นตีนของผัวเขา หลังจากนั้นน้องชายได้ขับรถมาส่งพ่อที่บ้าน น้องชายได้ออกไปอีกครั้งไปเจอหน้ากันและเข้าไปมีปัญหาเข้าไปทะเลาะกัน ตีกันกับคู่กรณี ทางคู่กรณีจึงเข้าไปแจ้งความ ตอนนี้เรื่องก็อยู่ในคดีความ แต่เรื่องก็ยังไม่จบเพราะทางคู่กรณีได้บุกมาบ้านหลายครั้ง เข้ามาเรียกพ่อ เข้ามาหาเรื่อง มีการเข้ามาถีบรถพ่อและฉี่ใส่รถ เรื่องก็ยังไม่จบ พอไปเจอกันก็ด่าทอกัน และทางคู่กรณีได้พูดข่มขู่ ผ่านไปประมาณ 1 เดือน คู่กรณีได้ติดต่อกลับมาว่าอยากจบเรื่อง และให้ไปคุยกันที่โรงพัก โดยเรียกเงินค่าเสียหายที่น้องชายไปตีเขา 4-5 หมื่นบาท แต่ตนจ่ายไม่ไหวเพราะไม่ได้เป็นคนก่อเหตุทำร้ายเพราะเขาหัวแตก แต่ตนยื่นเสนอไปในราคา 5,000 บาท แต่ไม่รับข้อเสนอ ผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ ทางคู่กรณีได้เข้ามาที่บ้านอีกครั้ง เพื่อถามหาพ่อแต่พ่อตนมาตกกุ้งบริเวณท่าน้ำ ทางคู่กรณีจึงเดินไปหาพ่อที่ท่าน้ำ จังหวะที่เจอกัน คู่กรณีได้เดินเข้ามาต่อยพ่อของตน และมีมีดคัตเตอร์ จะเข้ามาทำร้ายพ่อของตน แต่ได้มีพี่ที่ขับเรือรับจ้างเข้ามาห้ามและมาส่งพ่อตนที่บ้าน หลังจากที่ตนทราบเรื่องก็รีบเข้ามาหาพ่อที่บ้าน เห็นสภาพพ่อแล้วรับไม่ได้ จากที่ตนสอบถามพ่อทราบว่าเคยมีเรื่องกันมาก่อนหลายครั้ง สาเหตุเพราะทางคู่กรณีหาว่าพ่อตนไปหาเรื่องก่อน จึงมองว่าเป็นไปไม่ได้เพราะพ่ออายุเยอะแล้ว จะไปหาเรื่องชกตีกับคนอื่นเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่มีปัญหากันก็ไปแจ้งความทุกรอบแต่รอบนี้หนักสุดเพราะมีการทำร้ายร่างกาย ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะถูกระรานและทางคู่กรณีมีพวกเยอะ ตนจึงอยากจะเดินเรื่องให้ไวที่สุดเพราะพ่อต้องเข้าห้องผ่าตัด อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเรื่องให้อยากให้เขาออกหมายเรียกเพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย เพราะทางคู่กรณีมาบอกว่าเขามีปืน และบอกกับตนว่าไม่กลัวกฎหมาย ตนจึงมั่นใจว่าเขาคงมีอิทธิพล เพราะเขาก่อคดีมาหลายรอบแล้ว ซึ่งก็มีป้าอีกคนที่ถูกไปบุกบ้านเช่นเดียวกัน ซึ่งเขาเข้ามาหาเรื่องที่บ้านรวมๆแล้วประมาณ 5-6 ครั้ง ทางคู่กรณีก็บอกว่าอยากจบแต่ตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยกพวกมาหาที่บ้าน 10 กว่าคนทุกครั้ง ซึ่งตนมองว่าสาเหตุที่เกิดเพราะแค่มองหน้าไม่น่าทำกันถึงขนาดนี้ ตอนนี้ตนจะไม่ยอมความแล้วเพราะมองว่าเป็นการรังแกคนแก่ ซึ่งเขาก็รู้ว่ากระทำอะไรลงไป ไปประกาศบอกว่าต่อยพ่อตน ตนก็อยากจะให้เขาสำนึกผิดบ้าง
ทางด้าน นางเอ นามสมมุติ (ขอเบลอหน้า) เคยถูกกลุ่มคู่กรณีเข้ามาตะโกนด่าที่บ้าน เล่าว่า เขาเคยเข้ามาหาที่บ้านมาถามหาลูกชายของตน แต่ตนบอกว่าลูกชายไปต่างจังหวัด เขาได้เข้ามาหาตน 2 รอบ ให้ตนโทรตามลูก ซึ่งตนไม่โทรก็มาด่าทอตนด้วยความหยาบคาย ว่าทำไมไม่โทร อีดอกทอง และจะเข้ามาทำร้ายตน และถ้าไม่ตามลูกชายมาให้บ้านตนจะอยู่ไม่สงบ ซึ่งตนและลูกชายไม่เคยมีปัญหากับเขามาก่อนและห่วงเรื่องความปลอดภัย และอยู่บ้านด้วยความหวาดกลัว
ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net
