เตือนภัย!! หนุ่มทรงดีอ้างตัวเป็นหม่อม นายทหาร จเรตำรวจ หลอกตีสนิทช่วยเหลือนักธุรกิจ สาวและเจ้าของกิจการ ถึงขั้นตรวจโรงพักที่สภ.พนมสารครามมาแล้ว

เตือนภัย!! หนุ่มทรงดีอ้างตัวเป็นหม่อม นายทหาร จเรตำรวจ หลอกตีสนิทช่วยเหลือนักธุรกิจ สาวและเจ้าของกิจการ ถึงขั้นตรวจโรงพักที่สภ.พนมสารครามมาแล้ว

เตือนภัย!! หนุ่มทรงดีอ้างตัวเป็นหม่อม นายทหาร จเรตำรวจ หลอกตีสนิทช่วยเหลือนักธุรกิจ สาวและเจ้าของกิจการ ถึงขั้นตรวจโรงพักที่สภ.พนมสารครามมาแล้ว วันที่ 31 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยข้อมูลและหลักฐานต่างๆจากผู้เสียหายนักธุรกิจสาวรายหนึ่ง ชื่อหมวย(นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ดูภูมิฐาน บุคลิกดี อายุ 30ปี ชาวสมุทรปราการ อ้างตัวโดยใช้ชื่อว่า “หม่อมกฤษ”เข้ามาทำความรู้จักและตีสนิทกับนักธุรกิจสาวคนดังกล่าว ว่าจะมาร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วยที่พัทยา พร้อมกับบอกว่า หากมีเรื่องหรือปัญหาอะไรสามารถช่วยเหลือเคลียร์ได้หมด เพราะตนเองรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ข้าราชการมากมาย ซึ่งพยายามแสดงออกให้รู้ว่ามีสัมพันธ์ที่ดีสนิทสนมกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ สร้างโปรไฟล์ในโลกออนไลน์สวยหรู ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อให้ช่วยเหลือ สุดท้ายกลับต้องเสียเงินไปเกือบ 500,000(ห้าแสนบาท) ซึ่งพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวมักจะหาเหตุผลมาอ้างต่างๆนานาว่า ตนรู้จักคนใหญ่คนโต และทำทีเหมือนคอยประสานงานเรื่องราวต่างๆให้รวมถึงเรื่องคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร เหมือนหลอกเอาเงินไปโดยใช้วิธีแอบอ้างแยบยล สร้างภาพให้ตัวเองดูน่าเชื่อถือตลอดเวลา โดยมักแสดงพฤติกรรรมกระทำแบบเดียวกันนี้กับเหยื่อผู้เสียหายหลายรายทั้งที่ กรุงเทพฯ จ.ฉะเชิงเทรา จ.ปราจีนบุรี จ.สมุทปราการ และที่ จ.ชลบุรี พัทยาล่าสุด โดยชายหนุ่มที่มักอ้างตัวเองชื่อ “หม่อมกฤษ” ได้ตระเวณแอบอ้าง ปรากฎตัวในแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่ ไม่เหมือนกัน บางครั้งได้อ้างตัวเป็นหม่อมราชวงศ์ บ้างครั้งก็อ้างตัวเป็นทหารเสนาธิการ (เสธ.) โดยยังมีการแอบอ้างตัวเป็นลูกชาย นายตำรวจชื่อดัง อดีตผบ.ตร.โดยจะเข้าตีสนิทกับเหยื่อเป้าหมาย ก่อนกล่าวอ้างตัวและจัดฉากเหมือนตัวเองเป็นชนชั้นสูง สร้างสถานการณ์หว่านล้อมให้หลงเชื่อ โดยมีทั้งปลอมแปลงเอกสารหลักฐาน ปลอมแปลงลายมือชื่อผู้เสียหาย ฉ้อโกงทรัพย์ หลอกขายรถ และมักแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน โดยการแอบอ้างตัวมีตำแหน่งใหญ่โต มีคดีความติดตัว มีผู้เสียหายมาแล้วหลายราย โดยทุกวันนี้ก็ยังคงลอยนวลวนเวียนตระเวนหาเหยื่อก่อเหตุอยู่เรื่อยมาถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ชายหนุ่มมิจฉาชีพคนดังกล่าวยังได้แอบอ้างตัวเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือ(จเรตำรวจ)แต่งกายดูภูมิฐานคล้ายนายตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสถานีตำรวจภูธรพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา มาเเล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่ามิจฉาชีพชายคนดังกล่าว จะใช้ภาหนะรถยนต์ 3 คัน เป็นรถตู้สีดำยี่ห้อฮุนไดป้ายแดง รถปิคอัพสีดำยี่ห้อฟอร์ด และรถยนต์เก๋งสีครีมยี่ห้อมาสด้า จะคอยสลับสับเปลี่ยนนำสวมทะเบียนกันใช้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีผู้เสียหายหลายคดี หากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความก็จะฟ้องร้องกลับและตามข่มขู่แอบอ้างเบื้องสูงตลอดจนผู้เสียหายหวาดกลัวไปหลายราย เกิดความท้อและยอมความในที่สุด โดยหากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใด พื้นที่ใดรับเรื่องแจ้งความช่วยเหลือทางผู้เสียหาย ก็จะหาทางกลั่นแกล้งแจ้งความเจ้าหน้าที่ในมาตรา 157 หรือหาทางไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานเพื่อสร้างความวุ่นวาย โดยเชื่อว่ากระทำการกันเป็นขบวนการ ซึ่งอาจมีผู้เกี่ยวข้องเชี่ยวชาญด้านกฎหมายคอยช่วยเหลืออยู่ จึงขอฝาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ช่วยตรวจสอบดำเนินคดีกับชายหนุ่มคนดังกล่าวและผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ พร้อมติดตามตัวมาสอบสวนและสืบค้นข้อมูลในเชิงลึก ถึงการกระทำความผิด และหาความเชื่อมโยงของผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีด้วย ก่อนจะย่ามใจคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่กระทำความผิดซ้ำซาก โดยไม่หน่วยงานใดกล้าแตะต้อง จนอาจทำให้มีประชาชนหลงกลตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นอีกได้

ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก

เว็บไซต์: https://kardchuek.net

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,618 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *