ดร.มหานิยม เวชกามา เลขานุการคณะกรรมาธิการศึกษาจัดทำและติดตามงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร จัดสัมมนาพระสงฆ์และไวยาวัจกรวัด เพื่อ
ช่วยแก้ปัญหาการบริหารการเงินของวัดอย่างสร้างสรรค์ ไม่ผิดกฎหมาย
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 13.30 น.ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ดร.นิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดสกลนคร พรรคเพื่อไทย ในนามคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดสัมมนา เรื่อง การจัดทำและบริหารงบประมาณเพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาและพัฒนาบุคลากรจังหวัด สกลนคร ประจำปี 2566 ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้เล็งเห็นว่าสถาบันศาสนา วัดและพระสงฆ์ ถือเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน เพราะพระสงฆ์นอกจากจะมีบทบาท เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ คุณธรรม และจริยธรรมของคนในสังคมแล้ว พระสงฆ์ ยังมีบทบาทต่อสังคมส่วนรวมในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาสังคม การสังคมสงเคราะห์ ผู้ตกทุกข์ได้ยากในยามวิกฤติก็ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม และพระสงฆ์ ยังมีบทบาทต่อการเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ซึ่งจะช่วยสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ในการนี้ พระเทพโสภณ (ปรีชา อภิวณฺโณ ป.ธ.9) เจ้าคณะภาค 8 เจ้าอาวาสวัดราชบูรณราชวรวิหาร เป็นประธานและวิทยากร พระสิริพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ถวายเครื่องนมัสการ
ทั้งนี้ สืบเนื่องตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา การบริการจัดการวัดและพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช 2505 มาตรา 33 แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย ศาสนาสมบัติกลาง คือ ทรัพย์สินของกรมการศาสนา ซึ่งมิใช่ของวัดใดวัดหนึ่ง และศาสนสมบัติของวัด คือ ทรัพย์สินของวัดใดวัด หนึ่ง การนี้ การดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติกลางให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ส่วนการดูแลรักษาจัดการศาสนสมบัติของวัด ให้วัดเป็นผู้จัดการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ซึ่งต้องมีขอบข่ายครอบคลุมการดูแลจัดการและการจัดหาประโยชน์ในที่วัด ที่พื้นที่ใช้ประโยชน์ และศาสนสมบัติอื่น ๆ ของวัดด้วย ดังนั้นวัด พระสงฆ์ไวยาวัจกร และประชาชนทั่วไปผู้ที่เกี่ยวข้องในการการจัดการเงินและทรัพย์สินของวัดต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในการการบูรณาการหรือการจัดการด้านงบประมาณและเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคณะกรรมาธิการฯ กับคณะสงฆ์ไวยาวัจกรและ ประชาชนทั่วไป ในด้านการบูรณาการงบประมาณแผ่นดินเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจการคณะสงฆ์และกิจการในพระพุทธศาสนาทั้ง 6 ด้านคือ ด้านการปกครอง ด้านการศาสนา ศึกษา ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ด้านการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ด้านการสาธารณูปการ และด้าน สาธารณสงเคราะห์มีการจัดหมวดหมู่ทรัพย์สินของวัด ที่เรียกว่า ศาสนสมบัติ ด้วย
สส.ดร.นิยม กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้ามาร่วมฟังกันเยอะๆ เพราะเราได้เชิญวิทยากรที่มีองค์ความรู้หลายหลากสาขา ได้แก่ พระเทพโสภณ (ปรีชา อภิวณฺโณ ป.ธ.9) เจ้าคณะภาค 8 เจ้าอาวาสวัดราชบูรณราชวรวิหาร, นายสมเด็จ จุลราช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดขอนแก่น สส.ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปและวัฒนธรรม , ผศ.ดร.เมธาพันธ์ โพธิ์ธีรโรจน์ , ดร.ณพลเดช มณีลังกา เป็นต้น เพราะการที่ทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการจัดทำ ติดตาม และการบริหารงบประมาณ ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ปัญหาต่างๆที่ประสบอย่างที่ผ่านมา ก็จะลดน้อยลงอย่าให้งบประมาณของชาติสูญเปล่าไปในแต่ละปี โดยทีไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ การสัมมนาครั้งนี้ มีพระสงฆ์ เจ้าอาวาส และประชาชนที่เป็นไวยาวัจกร เข้าร่วม 500 คน
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 081 9541528
ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net