รวบแก็งกันน็อกแดงเขียวตระเวนลัก จยย.ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑลส่งเอเยนต์ออกนอก
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 เวลา ประมาณ 12.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ชุดลาดตระเวนออนไลน์ประกอบด้วย พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.1 บก.สส.บช.น. และ ด.ต.อุทัย กิ่งแก้ว ผบ.หมู่ กก.สส.1ฯ ลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว และติดตามพฤติกรรรม เบาะแสและแผนประทุษกรรมของกลุ่มคนร้ายซึ่งก่อเหตุในคดีนี้ โดยพบว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 ราย ขับรถจักรยานยนต์ตระเวนออกลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีตำหนิพิเศษโดยคนร้ายทั้งสองมักจะใส่หมวกกันน็อกสีเขียวและสีแดงออกตระเวนลักทรัพย์ฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้สืบสวนและจับกุมตัว
1. นายเจษฏาพร หรือบอล ไพรเวหา อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี
ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 71/2566 ลงวันที่ 12 มกราคม 2566
2.นายธรรมนูญ หรือแบงค์ เลิศชัย อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บาดสวาย อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี
ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 72/2566 ลงวันที่ 12 มกราคม 2566
3.นายพจน์ รุ่งแสง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.8 ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จว.นครราชสีมา
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม”
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3 ว่า รับของโจร
พร้อมยึดของกลาง
1. รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 2 คัน
2. รถจักรยานยนต์ที่ลักมาจำนวน 2 คัน
3. รถจักรยานยนต์จำนวน 6 คัน จากการตรวจสอบพบว่าได้แจ้งหายในพื้นที่ กรุงเทพฯ
3. เสื้อผ้า หมวกกันน็อก
4.อุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุรวมทั้งสิ้นกว่า 25 รายการ
จับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 306 , 309 บ้านเลขที่ 29/44 แขวงคูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุตระเวนลักรถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดในพื้นที่เปลี่ยว ปลอดคน และตามบ้านพักในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ อาทิ เขตสายไหม คันนายาว พหลโยธิน และบางเขน และพื้นที่ อ.คูคต , อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี รวมเป็นจำนวนกว่า 14 คัน โดยก่อนออกก่อเหตุ นายบอลฯ จะให้หมวกกันน็อกสีเขียว นายแบงค์จะใส่หมวกกันน็อกสีแดง เสริมความโชคดี ซึ่งรอดพ้นจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาโดยตลอด ซึ่งทั้งสองจะมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดย นายเจษฏาพร หรือบอล ทำหน้าที่คนขับรถตระเวนหาเหยื่อและรถ ส่วนนายธรรมนูญหรือ แบงค์ ทำหน้าที่ลักรถจักรยานยนต์ออกนอกพื้นที่และทำการต่อสายตรงโดยใช้เพียงแค่ลวดต่อวงจรไฟฟ้า (ลักษณะคล้ายการต่อฟิวส์ไฟฟ้าบ้าน) จากนั้นทั้งสองจะขับรถจักรยานยนต์มาซุกซ่อนและขายต่อให้ลูกค้าประจำในพื้นที่ จว.นครราชสีมา โดยตนจะได้รับจากการขายรถจักรยานยนต์คันละ 10,000 – 17,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถและการตกลงกับลูกค้า แต่สุดท้าย ดวงโจรตก ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการบรรทุกรถจักรยานยนต์ที่ลักมาขึ้นรถบรรทุกตู้จะนำไปส่งให้ผู้จ้างวานในพื้นที่ จว.นครราชสีมา เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้รับค่าจ้างในการขนส่งคันละ 1,000 บาท โดยได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 6 คัน จากการตรวจสอบพบว่าได้แจ้งหายในพื้นที่ กรุงเทพฯ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการสืบสวนและติดตามกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากการขยายผลตอนนี้พบพยานหลักฐานสำคัญหลายรายการ ซึ่งเราจะมีการขยายผลดำเนินคดีทั้งขบวนการจนถึงที่สุด เพื่อตัดวงจรขบวนการส่งรถออกนอกประเทศนี้ ซึ่งจากข้อมูลที่ บก.สส.บช.น. ได้รวบรวมจากการก่อเหตุลักษณะนี้จะพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุจะมีการคัดเลือกรถตลาดที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป เพราะขายได้ราคาและลักได้ง่าย และจะนำขายต่อให้กับกลุ่มรับซื้อ ก่อนขนส่งออกนอกประเทศทางช่องทางธรรมชาติ โดยกระบวนการทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 วัน จึงขอแนะนำประชาชนหากเป็นไปได้ ให้จอดรถในที่ที่ปลอดภัย และควรเพิ่มมาตรการป้องกันเช่น ล็อกคอรถ การใช้กุญแจล็อกดิสเบรค หรืออาจเป็นอุปกรณ์ล็อกล้อ เป็นต้น และขอฝากว่าหากพบเบาะแสของกลุ่มมิจฉาชีพลักษณะนี้ สามารถแจ้งเข้ามาที่เพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะไม่เป็นคดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.
ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net