นนทบุรี คลิป แพ้เสียงแตร หนุ่ม รปภ.หัวร้อนด่าหยาบคายหลังหนุ่มส่งหนังสือพิมพ์บีบแตรเตือน
จากกรณีเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6” โพสต์คลิปโดยระบุข้อความว่า “แพ้เสียงแตร หมวกกันน็อคก็ไม่ใส่ ผมไปลงบันทึกประจำวันไว้ เขายังไม่ได้ทำร้ายร่างกายเราเลยทำอะไรไม่ได้ ได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ครับ เหตุเกิด 04.50 น. หน้าขนส่งนนทบุรี”
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 เม.ย. 66 ที่บริเวณหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดนนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสมควร บัวหอม อายุ 43 ปี อาชีพขี่จยย.ส่งหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่ถูกรปภ.หัวร้อนด่าทออย่างหยาบคาย และนายสมควรได้ถ่ายคลิปไว้ก่อนนำไปโพสต์ในเพจดังกล่าว
นายสมควร เล่าว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 66 ช่วงเวลา 05.00 น. ตนได้ขี่จยย.เพื่อออกไปทำงานส่งหนังสือพิมพ์ ขณะวิ่งมาถึงหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดนนทบุรี มีชายแต่งกายชุดรปภ. ขี่จยย. จำได้แต่เลขทะเบียน 4 ขฎ 9675 กรุงเทพ โดยขี่รถอยู่ที่ด้านหน้าตน และกำลังเปลี่ยนเลนจากซ้ายไปเลนขวาโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ตนจึงบีบแตรไป 1 ครั้ง ทำให้ชายหนุ่มรปภ. เกิดความไม่พอใจ ตะโกนด่าตนว่า “มึงจะกดทำเหี้ยอะไร” ตนจึงบอกไปว่าให้ใจเย็นๆอย่าใช้อารมณ์ บ้านเมืองมีกฎหมาย ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับหนุ่ม รปภ.คนดังกล่าว เมื่อตนขี่มาถึงบริเวณแยกสนามบินน้ำ เขาได้จอดรถรอ และ กวักมือเรียกตนเอง เข้ามาด่าอีกพร้อมทั้งพูดว่า “มึงอย่าให้กูเห็นมึงอีกนะ เดี๋ยวยิงแม่งทิ้งเลย” จากนั้นก็ใช้ขาถีบหัวรถจยย.ของตนไป 1 ครั้ง เพื่อระบายอารมณ์ ตนจึงรีบถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเลี้ยวซ้ายไปทางสนามบินน้ำ ซึ่งตนเองก็ต้องเลี้ยวซ้ายไปทางนั้นเช่นกันเพื่อไปส่งหนังสือพิมพ์ที่หมู่บ้านเศรษฐสิริ ก็เจอชาย รปภ.คนนี้ จอดรถรออยู่อีก พร้อมทั้งบอกว่า “มึงจะตามกูมาทำเหี้ยอะไร มึงอยากลองดีใช่ไหม เดี๋ยวยิงแม่งทิ้งเลย” ตนจึงเลี้ยวรถเข้าไปหาป้อมรปภ.ของหมู่บ้าน ชายดังกล่าว จึงรีบขี่จยย. มุ่งหน้าออกไปทาง ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี มุ่งหน้าถนนรัตนาธิเบศร์ ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เพราะถ้าหากมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นก็เชื่อแน่ว่าเกิดจากการกระทำของชายดังกล่าว เนื่องจากตนเองไม่มีศัตรูที่ไหนและอยากให้เขารับผิดชอบกับการกระทำ ไม่อยากให้ไปแสดงพฤติกรรมแบบนี้กับคนอื่นอีก เพราะถ้าเขาไปเจอวัยรุ่นเลือดร้อน ตนคิดว่า คงต้องมีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตกันไปข้างหนึ่ง
ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net