ทนายดังเดินหน้าแจ้งความเอาผิด นศ.อาชีวะโพสต์คลิปหมิ่นเข้าข่ายหลวงพี่น้ำฝน

ทนายดังเดินหน้าแจ้งความเอาผิด นศ.อาชีวะโพสต์คลิปหมิ่นเข้าข่ายหลวงพี่น้ำฝน

ทนายดังเดินหน้าแจ้งความเอาผิด นศ.อาชีวะโพสต์คลิปหมิ่นเข้าข่ายหลวงพี่น้ำฝน

ทนายคนดัง ในฐานะนายกสมาคมไวยาวัจกรณ์แห่งประเทศไทย เดินหน้าเข้าแจ้งความเอาผิด 2นักศึกษาอาชีวะ หลังพบมีการแอบอัดคลิบและนำไปแชร์ ประสานนักข่าวหลังไม่พอใจที่หลวงพี่น้ำฝน ออกโรงตำหนิหนัก โดยหลวงพี่น้ำฝนแจง เด็กก้าวร้าวต้องใช้ไม้หนักก่อนสั่งสอนแต่เอาโซเชียลมาแก้ต่าง ส่วนทนายแจงหลวงพี่น้ำฝนไม่คิดแจ้งแต่ศิษย์ไม่ยอมและต้องดำเนินคดีให้เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นใหม่อย่าใช้สื่อในทางที่ผิด

จากกรณีคลิปเสียงหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมจัดหนักนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ได้ถูกแพร่ไปในโลกโซเชียล จนเป็นกระแสที่มีการวิจารณ์แตกเป็นสองฝั่งซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการตำหนิในการอบรมดังกล่าว ซึ่งคณะศิษย์และอาจารย์วิทยาลัยดังกล่าวได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีนักศึกษาบางคนประพฤติตัวไม่เหมาะสมถึงจึงมีการงัดไม้แข็งเข้ามาเพื่อกดแรงต้านจากเด็กที่เข้ารับการอบรม

โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศภายในวัดไผ่ล้อม คณะผู้บริหาร อาจารย์ ของวิทยาลัยที่เกิดปัญหา ได้นำนักศึกษาในกลุ่มที่มีการบันทึกคลิบไปเผยแพร่มาพบเพื่อทำความเข้าใจกับพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โดยได้มีการอธิบายถึงขึ้นตอนการอบรมที่จำเป็นต้องมีการดำเนินการในระดับขั้นหนักไปจนถึงการให้ความรู้ แต่เกิดเป็นประเด็นในช่วงที่มีการอบรมช่วงของการละลายพฤติกรรม โดยไม่ได้มีการฟังข้อมูลทั้งหมดก่อนที่จะนำคลิบดังกล่าวไปเผยแพร่

โดยหลวงพี่น้ำฝน ได้เปิดให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรกหลังกจากเกิดเหตุการณ์ว่า ทางผู้บริหารได้ทำหนังสือมาเพื่อขอให้ทางวัดอนุเคราะห์ให้จัดกิจกรรมจิตอาสาและอบรมให้ความรู้กับนักศึกษาที่มีปัญหาในเรื่องการเข้าร่วมกิจกรรมซึ่งอยู่ในหลักสูตรน้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังใช้ไม่ได้ซึ่งมีการหารือกันว่าจะต้องมีการละลายฤติกรรมก่อนที่จะจบการศึกษาและออกไปศึกษาต่อและทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาอบรมไปแล้ว 300-400 คน จาก 600 คน ซึ่งก็มได้มีปัญหาอะไร ก่อนจะมาเกิดปัญหากับเด็กไม่กี่คน ซึ่งทราบมาว่ามีลักษณะต่อต้าน หัวแข็งและบางคนเป็นแกนนำในเรื่องปลุกระดมเพื่อนๆ ให้เกิดแรงต้าน โดยที่ผ่านมาคณะครูก็ตกเป็นเหยื่อในโลกโซเชียลและถูกนำไปด่าแต่ก็ทำอะไรไม่ได้และต้องมาเจ็บช้ำน้ำใจ

“ขั้นตอนมีการจัดหนักไปหาเบา บางคนต่อต้านก็ต้องใช้ไม้แข็งก่อนที่จะมีการให้ความรู้สั่งสอน และใจจริงตั้งใจที่จะจัดให้มีการจบการศึกษาแน่ๆ โดยใช้เวลาเพียง 4 วัน จากที่เขาไม่ใส่ใจมาทั้งปี แต่บางคนก็ต้อบคำถามด้วยความท้าทายกระบวนการก็เกิดขึ้นและมาใช้โซเชียลโจมตีอาตมา ถามว่ากลัวไม่ส่วนตัวคือไม่กลัวเพราะถือว่าตั้งใจทำความดีให้หกับเด็กๆ โดยตอนนี้ได้จัดหลัก บวร คือบ้าน วัด โรงเรียน มาใช้ปรับความเข้าใจ คือวัดกับโรงเรียนร่วมมือกันอยู่แล้ว ส่วนบ้านก็จะเชิญผู้ปกครองมารับทราบปัญหาร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาผู้ปกครองก็ไม่รู้เรื่องดังกล่าวก็คิดว่าลูกหลานเราเป็นคนดี ตรงนี้ก็จะต้องนำเรื่องมาถกปัญหาร่วมกัน” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว

ขณะที่ นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร นายกสมาคมไวยวัจกรณ์แห่งประเทศไทย ทนายความ กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าววันนี้ได้เข้ามาหารือกับหลวงพี่น้ำฝนแล้ว เบื้องต้นท่านไม่ประสงค์จะให้มีการแจ้งความเอาความผิดกับนักศึกษาที่สืบดูแล้วว่ามีพฤติกรรมที่ไม่ชอบหลวงพี่น้ำฝนอยู่แล้ว ซึ่งคนหนึ่งถ่ายคลิปและอัดเสียงไว้ อีกคนเป็นคนโพสต์ลงโซเชียลและประสานนักข่าวให้มาติดตามทำข่าว ตรงนี้จากหลักฐานพบว่าทั้ง 2 คนมีความผิดร่วมกันคือ หมิ่นประมาทและพรบ.คอมพิวเตอร์

นายกสมาคมไวยาวัจกรณ์แห่งประเทศไทย กล่าวต่ออีกว่า แต่หลังจากตรวจสอบดูข้อมูลแล้ว พบว่ามีการวางแผนและช่วยกันทำงานลักษณะพยายามจะให้เกิดประเด็นซึ่งจำเป็นต้องมีการดำเนินคดีเพื่อให้เป็นตัวอย่างวันนี้ตนเองได้รวบรวมหลักฐานและได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เพื่อเข้าหารือและประสงค์แจ้งความเอาความผิดกับนักศึกษาทั้ง 2 คนรวมถึงผู้ที่เข้ามาคอมเม้นท์ในแพลทฟอร์ม โซเชียลTiktok เพจแบบกลุ่ม ซึ่งมีภาพใบหน้าและแอคเคาท์นำมาแจ้งความแล้ว ซึ่งขอเตือนนักศึกษาและคนที่จะมือลั่นไปพิมพ์วิพากษ์วิจารณ์ใครว่ามีกฎหมายรองรับและเป็นกฎหมายที่แรงด้วย หากเกิดปัญหาควรพูดคุยกันเพื่อแก้ไขไม่เช่นนั้นจะเป็นกรณีที่ต้องดำเนินคดีให้เป็นแบบอย่าง

ปนิทัศน์ มามีสุข จ.นครปฐม

ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,818 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *