วันนี้ ( 21 มกราคม 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ โดยปัจจุบันได้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) มาใช้ในการสร้างเนื้อหาปลอมขึ้นมาเพื่อใช้ในการฉ้อโกง หรือสร้างความเสียหาย นั้น
ในห้วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพได้นำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการสร้างสื่อลามกปลอม โดยการนำภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา นักร้อง นักแสดง ต่าง ๆ ตลอดจนบุคคลทั่วไป มาใช้เป็นใบหน้าตัวอย่างให้ปัญญาประดิษฐ์นำไปสร้างภาพคลิปหรือภาพลามกที่ปรากฎหน้าของบุคคลดังกล่าวขึ้น จากนั้นนำไปเผยแพร่ หรือขายผ่านช่องทางต่าง ๆ
โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปความผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้องกับ ผู้ที่ผลิต เผยแพร่ และส่งต่อสื่อลามกปลอมที่สร้างด้วย AI จะเข้าข่ายความผิดทางอาญา 6 ฐานความผิด ตามกฎหมายดังต่อไปนี้ความผิดฐาน “หมิ่นประมาท” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326ความผิดฐาน “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328ความผิดฐาน “ผลิต มีไว้ ซึ่งสื่อลามก เพื่อการค้า เพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287(1)ความผิดฐาน “โฆษณาหรือไขข่าวว่าจะหาสื่อลามกได้จากบุคคลใด หรือวิธีการใด” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287(3)ความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(4) หรือ มาตรา 14(5) แล้วแต่กรณีความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย” – ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16นอกจากความผิดทางอาญาที่ได้กล่าวไปข้างต้น ผู้เสียหายที่ถูกนำภาพมาใช้เป็นภาพใบหน้าของบุคคลในสื่อลามกดังกล่าว ยังสามารถฟ้องเรียก “ค่าสินไหมทดแทน” จากผู้ที่กระทำ “ละเมิด” ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 อีกด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนมายังพี่น้องประชาชน ที่นำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นสนุก หรือหยอกล้อผู้อื่น รวมไปถึงผู้ที่ผลิตหรือพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อนำมาใช้ผลิตสื่อลามกจากภาพใบหน้าของบุคคลอื่น เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ให้หยุดการกระทำในลักษณะดังกล่าวทันที เพราะการกระทำของท่านเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย และต้องระวางโทษสูงสุดถึง จำคุก 5 ปี และ ปรับสูงสุดถึง 200,000 บาทส่วนผู้ที่คิดจะซื้อสื่อลามกของบุคคลมีชื่อเสียง ท่านอาจถูกหลอกจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้างสื่อลามกดังกล่าวสุดท้าย หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net
can i buy viagra in india
viagra medication