รัฐบาลจีน สั่งจำกัดการเข้าถึง ChatGPT เพราะอาจเป็นโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลสหรัฐฯ

หน่วยงานกำกับดูแลของจีน ออกคำสั่งจำกัดการเข้าถึงการใช้บริการแชตบอตชื่อดังอย่าง ChatGPT เนื่องจากอาจถูกใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลสหรัฐฯ และการให้ข่าวในแง่ลบต่อรัฐบาลจีน

ประเด็นการมาของ ChatGPT ได้ทำให้ทั่วโลกต้องจับตามอง เพราะด้วยความสามารถอันเอกอุ จนทำให้บริษัทบิ๊กเทค (Big Tech) ทั้งหลายต้องหันมาพัฒนาแชตบอตในรูปแบบเดียวกับ ChatGPT เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นรวมถึงบริษัทชั้นนำจากประเทศจีนด้วย

ควรต้องกล่าวด้วยว่า ในเวลานี้ ChatGPT ซึ่งพัฒนาโดยโอเพนเอไอ (OpenAI) ยังไม่ได้ให้บริการในประเทศจีน เนื่องจากรัฐบาลจีนมีไฟร์วอลล์ (Firewall) ขนาดยักษ์ ทำหน้าที่เซนเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนก็สามารถเข้าถึง ChatGPT ได้ผ่านช่องทางของ VPN และนักพัฒนาบุคคลที่สาม ที่ได้พัฒนาโปรแกรมสำหรับเข้าใช้งาน ChatGPT โดยเฉพาะ

ในเวลาต่อมา มีรายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นเทนเซ็นต์ (Tencent) และแอนต์ กรุ๊ป (Ant Group) ตัดการเข้าถึง ChatGPT พร้อมกับให้เหตุผลว่า นี่อาจเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพของสหรัฐอเมริกา สำหรับการเผยแพร่ข่าวปลอม ข่าวที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

ขณะที่ สำนักข่าวไชน่าเดลี ตีพิมพ์บทความซึ่งมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับซินเจียงใน ChatGPT โดยคำตอบที่ได้มักจะเป็นคำตอบที่สอดคล้องกับโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

แต่รัฐบาลจีน ปฏิเสธข่าวการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียงทุกครั้งที่มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาถกเถียงในที่สาธารณะ

สำหรับบริษัทชั้นนำในประเทศจีนเวลานี้ ต่างขะมักเขม้นพัฒนาแชตบอตในลักษณะเดียวกับ ChatGPT ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ไป่ตู้, อาลีบาบา, เจดี ดอตคอม และเทนเซ็นต์ รวมถึงมหาวิทยาลัยในประเทศจีน

ที่มา: The Guardian

ผู้นำเสนอข่าว

Lemon