พล.อ.วิชญ์ เลขาฯโอลิมปิกไทย และ ผศ.พิมล ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมรักบี้ โน้มน้าวใจ “บิ๊กต้น” พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ สำเร็จ ตัดสินใจนั่งนายกรักบี้ต่อจนครบวาระ พร้อมวางแผนนำเงินจากโครงการ 1 สมาคมกีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ จาก ปตท.(OR) จำนวน 7 ล้าน ตั้งเซมิโปรลีกรักบี้กึ่งอาชีพชิงเงินรางวัล เพื่อให้นักปล้ำลูกหนำเลี๊ยบไทยมีรายได้จากการแข่งขัน นอกจากนี้ยังปิดดีลเซ็นสัญญาไทยเป็นเจ้าภาพรักบี้เอเชียซีรีส์ 3 ปี ปูทางสู่การเป็นเจ้าภาพเวิลด์ซีรีส์ ที่ตอนนี้สหพันธ์รักบี้โลกกำลังประเมินความพร้อมของไทยอยู่
“บิ๊กต้น” พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยมีคณะกรรมการบริหารสมาคม และสโมสรสมาชิกเข้าร่วมด้วย ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์
จากในรอบปี 2566 ที่ผ่านมาสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ดำเนินกิจกรรมของสมาคมอย่างมีแบบแผนและประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการส่งแข่งในนามทีมชาติไทยของรักบี้ประเภท 7 คน ที่เป็นนโยบายหลักในการพัฒนา ทั้งทีมชาย และทีมหญิง โดยที่ ทีมชายสามารถคว้าแชมป์รักบี้เอเชียโทรฟี่ แล้วได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นในระดับเอเชียซีรีส์ ส่วนทีมหญิงชุดรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ก็สามารถคว้าแชมป์เอเชีย ขณะที่ทีมหญิงชุดใหญ่คว้าอันดับ 4 เอเชียซีรีส์ และแพ้รอบชิงอันดับ 3 ของเอเชียนเกมส์ เพราะการตัดสินที่ผิดพลาดในจังหวะสำคัญของทีมไทย จึงเป็นเหตุให้ตอนนั้น พ.ต.ท.กุลธน ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคม และ ตำแหน่งที่ปรึกษาประธานรักบี้เอเชีย ทว่าประธานรักบี้เอเชีย กับ คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ไม่ยินยอมให้ พ.ต.ท.กุลธน ลาออกจากทั้ง 2 ตำแหน่ง
เรื่องนี้ยังยืดเยื้อมาจนถึงก่อน วันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคม ซึ่งคณะกรรมการบริหารสมาคมและสโมสรสมาชิกก็ยังยืนกรานไม่ยินยอมให้ พ.ต.ท.กุลธน ลาออกจากการเป็นนายกสมาคมฯ และต้องการให้อยู่ในตำแหน่งต่อจนครบวาระในอีก 2 ปีต่อจากนี้ โดย พ.ต.ท.กุลธน ได้แจ้งในที่ประชุมว่า เมื่อปีที่ผ่านมา ตนพยายามต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมหรือความผิดพลาดในการตัดสินของกรรมการที่เกิดขึ้นกับทีมรักบี้หญิงไทยในศึกเอเชี่ยนเกมส์ การตัดสินที่ผิดพลาดในหลายจังหวะจนทำให้ทีมหญิงไทยเสีย คะแนนจากการวางทรัย ไปถึง 10 คะแนน เป็นอย่างน้อย จนเป็นเหตุให้แพ้ฮ่องกงในรอบชิงเหรียญทองแดง ซึ่งการลาออกในตอนนั้นก็เพื่อที่จะเอาตัวเองไปต่อสู้ และเรียกร้องให้มีการพิจารณาการตัดสิน โดยที่ลาออกก็เพื่อไม่อยากให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของสมาคมรักบี้ไทยในการประท้วง
พ.ต.ท.กุลธน กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นข่าวใหญ่พอสมควร ที่วงการกีฬาไทยให้ความสนใจ และ ลามไปจนถึงเอเชียรักบี้ ที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาดูภาพวีดีโอย้อนหลังในเหตุการณ์ ร่วมกับคณะกรรมการผู้ตัดสินของไทย โดยที่ประชุมได้สรุป ว่าเกิดจากความผิดพลาดของผู้ตัดสินจริง และทางเอเชียรักบี้ก็ยอมรับมติในที่ประชุมร่วมกัน ซึ่งตนก็รู้สึกพอใจ ในผลการประชุม แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีหนังสือสรุป ผลการพิจารณาร่วมอย่างเป็นทางการ มายังสมาคมฯรักบี้ไทยแต่อย่างใด จนทำให้รู้สึก เหนื่อย และ สงสาร เด็กๆนักกีฬา ที่ถูกปล้นชัยชนะ ชวดเงินอัดฉีดจากรัฐบาลไป จึงอยากวางมือในตอนนั้น
“บิ๊กต้น” ยังกล่าวต่อว่า จนเมื่อประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมประจำเดือนล่าสุดทางคณะกรรมการบริหารสมาคมทุกท่านยังยืนกรานไม่ยอมให้ลาออกและให้เป็นนายกสมาคมต่อจนครบวาระ อีกทั้งยังได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพื่อพูดคุยเรื่องโครงการ 1 สมาคมกีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ และ สมาคมรักบี้ฯ ยังได้มีโอกาสเชิญ ท่านพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เข้าชมรักบี้ฮ่องกงเซเว่นส์ เพื่อ ให้เห็นความยิ่งใหญ่และการนำรายได้มหาศาลเข้าประเทศของฮ่องกงจากการแข่งขันกีฬารักบี้ระดับโลก อีกทั้ง ยังมีโอกาส เข้าพบกับ John Jeffry รองประธานสหพันธ์รักบี้โลก และ Alan Gilpin ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสหพันธ์รักบี้โลก เพื่อพูดคุยเสนอไทยเป็นเจ้าภาพรักบี้เวิลด์ซีรีส์ ซึ่งทางเวิลด์รักบี้เองก็ยอมรับว่ากำลังจับตาดูไทยเหมือนกันในเรื่องการเป็นเจ้าภาพ เพราะล่าสุดทางเอเชียรักบี้ลงมติให้ไทยเป็นเจ้าภาพเอเชียซีรีส์ 3 ปีติดต่อกันแล้ว
พ.ต.ท.กุลธน ยังเผยต่อว่า หลังจากนั้นเมื่อ พล.อ.วิชญ์ กับ ผศ.พิมล รู้ว่าตนจะลาออกจากการเป็นนายกสมาคมรักบี้ ทั้ง 2 ท่านจึงได้ทัดทานการตัดสินใจของตน โดยให้เหตุผลว่าจะลาออกทำไม วงการรักบี้ไทยกำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขอให้อยู่ต่อจนครบวาระแล้วพัฒนาวงการรักบี้ต่อไป ทำให้ในวันนี้ผม ตัดสินใจ ที่จะอยู่ต่อ เพื่อทำในสิ่งที่ตั้งใจ ไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้วที่ตอนรับตำแหน่งใหม่ๆ แต่ยังทำไม่สำเร็จ 2-3 เรื่อง เช่น การจัดตั้ง ลีกกึ่งอาชีพ หรือ การมีสนาม home เป็นของสมาคมรักบี้เอง เป็นต้น
“ต้องขอขอบคุณ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, ชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ที่ให้การช่วยเหลือสมาคมรักบี้ในโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ และขอขอบคุณ นาย ดิสทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร ปตท OR ที่ให้สมาคมรักบี้จับคู่กับ ปตท. ซึ่งจะได้เงินสนับสนุนปีละ 7 ล้านบาทในการพัฒนาสมาคมรักบี้ ผมจะนำเงินก้อนนี้มาทำรักบี้กึ่งอาชีพ หรือ เซมิโปรลีกชิงเงินรางวัล มีทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง ในต้นปีหน้า 2568 เพื่อจะให้นักรักบี้ที่เข้าแข่งขันมีรายได้จากการเล่นรักบี้ อาชีพ ที่ประเทศเพื่อนบ้านมีกันหมดแล้ว โดยได้มอบหมายให้ ภัคพงศ์ จักษุรักษ์ ประธานฝ่ายการแข่งขันเริ่มคิดและ จัดการเรื่องนี้แล้ว”
“ส่วนเรื่องสนาม ต้องขอขอบคุณ ท่าน พล.อ.อ.มนัท ชวนะประยูร อุปนายก ที่กำลังทำงานอย่างหนักในการปิดดีลกับผู้ใหญ่หลายๆท่าน ซึ่งน่าจะมีข่าวดีให้กับวงการรักบี้ เร็วๆนี้ และที่สำคัญที่สุดต้องขอขอบคุณ ท่านเลขาธิการสมาคมฯ พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน รองบัญชาการทหารสูงสุด ที่ทุ่มเทและบริหารจัดการกิจการของสมาคมฯ ในทุกๆเรื่อง ขอขอบคุณท่านอุปนายกและกรรมการสมาคมทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ และนักกีฬาทีมชาติไทยที่ช่วยกันพัฒนาและทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ หลังจากนี้ผมอยากขอความร่วมมือและความสามัคคีของพี่ๆน้องๆ ทุกสโมสรสมาชิกให้รวมเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งเพื่อวงการรักบี้ไทย “ พ.ต.ท. กุลธน กล่าว
jowpAnfMWUFrZY