โอลิมปิก ตั้ง “สุวรรณ​า” แทน “พิชัย ชุณหวชิร” ซีเกมส์ใช้งบ 2 พันล้าน

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการประชุมกรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ครั้งแรก หลังจากที่ได้มีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม โดยมีคณะกรรมการบริหารเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ที่ห้องประชุม 1 คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ บ้านอัมพวัน ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ
ซึ่งก่อนการประชุม ผศ.พิมล ได้นำคณะกรรมการบริหารทั้งหมด ร่วมพิธีสักการะ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” และ ศาลพระภูมิ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงาน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (บ้านอัมพวัน) เทเวศร์ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ก่อนร่วมกันปฎิบัติหน้าที่ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ของผู้บริหารชุดใหม่ทุกคน
โดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้แจ้งที่ประชุมได้รับทราบถึงแนวทางการทำงานของคณะกรรมการโอลิมปิกชุดใหม่ ที่จะต้องทำงานเชิงรุก และเป็นที่พึ่งของสมาคมกีฬาต่างๆ ทั้งฤดูร้อน และ ฤดูหนาว เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาวงการกีฬาไทยให้ทำผลงานดีในระดับนานาชาติ ตามด้วยวาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมกรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิก (ชุดเดิม) เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568
วาระที่ 3 นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานฯ ได้สรุปผลการเลือกตั้งและการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และการชี้แจงต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ซึ่งจบสมบูรณ์แล้ว โดยทางไอโอซี. ได้มีการตอบกลับขอบคุณที่ได้ชี้แจงข้อมูลขั้นตอนต่างๆ ครบถ้วน รวมทั้งไอโอซีก็ได้อัพเดตข้อมูลทั้งหมดของโอลิมปิกไทยในเว็บไซต์แล้ว
จากนั้น นายธนา ไชยประสิทธิ์ เลขาธิการฯ รายงานเรื่องการไม่รับตำแหน่งรองประธานฯ ของนายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ที่ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการโอลิมปิก เนื่องจากมีภารกิจสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นที่ประชุมจึงเสนอให้ ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา นายกสมาคมกีฬาเคิร์ลลิ่งฯ เป็นรองประธานฯ แทน โดยที่ประชุมรับรอง รวมทั้งเรื่องตัวแทนนักกีฬาโอลิมปิก ชนาธิป ซ้อนขำ หมดคุณสมบัติ ซึ่งทางสมาคมกีฬานักกีฬาโอลิมปิกได้คัดเลือก นายเทวินทร์ หาญปราบ ทำหน้าที่ตัวแทนนักกีฬาโอลิมปิกในคณะกรรมการบริหารโอลิมปิกแห่งประเทศไทย แทน ซึ่งที่ประชุมได้ให้การรับรอง
วาระที่ 4 นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองเลขาธิการฯ แจ้งที่ประชุมเพื่อทราบถึงการดำเนินงานของคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ทั้งโครงสร้างการบริหารงาน นโยบายประจำปี 2568-2571 และแนวทางการดำเนินงานตามนโยบาย เพื่อให้การบริหารงานของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์จึงได้กำหนดนโยบายการบริหารงานออกมา 9 ข้อ
ถัดมา นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รายงานความก้าวหน้าของสมาคมสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการเตรียมนักกีฬา และเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ที่กรุงเทพฯ, จ.ชลบุรี และ จ.สงขลา โดยทาง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แจ้งเรื่องหนังสือเชิญไปยังชาติต่างๆ และเทคนิคอลแฮนด์บุ๊กใกล้ที่จะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ อีกทั้งยังได้รายงานความพร้อมด้านต่างๆ ทั้งในส่วนของโลโก้ แมสคอต สนามแข่งขัน สนามฝึกซ้อม ซึ่งได้ประสานงานกับสมาคมกีฬาต่างๆ ที่จัดการแข่งขัน รวมทั้งโรงแรมที่พักสำหรับนักกีฬาที่ได้มีการกำหนดเรียบร้อยแล้ว ในส่วนงบประมาณจัดการแข่งขันอยู่ที่ราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งก็จะดำเนินการยื่นของบประมาณกลางปี 2569 เพื่อนำมาใช้จัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังมีการรายงานความก้าวหน้าการเตรียมการส่งคณะนักกีฬาไทยไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 20-31 ตุลาคม 2568 รวมทั้งเรื่องการแต่งตั้งกรรมการมูลนิธิโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (ชุดใหม่) อีกด้วย
สุดท้าย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้ให้การยืนยันว่า การประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ คิดว่าทุกพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนตัวจะคุยกับคณะกรรมการว่าจากนี้ไปจะต้องทำงานเชิงรุก เป็นทีม และ มีผลงานออกมา ต้องเป็นที่พึ่งของวงการกีฬาไทย เรื่องสำคัญก็คือ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่กำลังจะมาถึงปลายปีนี้ ซึ่งเหลือเวลาเตรียมการอีกราว 7 เดือน เราจะต้องเตรียมพร้อมให้ดี จะต้องเป็นซีเกมส์ที่อยู่ในความทรงจำของนักกีฬาที่จะมาแข่งขันทุกคน ที่ผ่านมาเราเคยเจอปัญหาไอแมค (เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ต)มาแล้ว ครั้งนี้เราจะต้องใช้ การแข่งขันกัฬาซีเกมส์ พลิกสถานการณ์ พลิกภาพลักษณ์ของประเทศไทย ให้เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับกีฬา เราจะต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ด้วยการจัดการแข่งขันที่ดี ทุกประเทศที่เดินทางมาจะต้องเกิดความประทับใจ และ ที่ขาดไม่ได้ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้คือเหรียญทองที่เราจะต้องทำให้ได้มากที่สุด ต้องเต็มที่ ที่จะเป็นเจ้าเหรียญทอง ซึ่งในอดีตเราก็เคยเป็นมา

ผู้นำเสนอข่าว

อาจารย์จุ้ย