นพ.ชัยสิทธิ์ คุปตวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาวดี เป็นประธานเปิดกิจกรรม “Age Well Live Well” ภายใต้แนวคิด “โรคใกล้ตัวในวัยเก๋า… ป้องกันงูสวัดขึ้นตา” เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคงูสวัดและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง พร้อมทั้งการรักษาและวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคงูสวัด โดยได้รับเกียรติจาก พญ.ฤทัยรัตน์ วินิจฉัย จักษุแพทย์ สาขาต้อหิน ประจำโรงพยาบาลวิภาวดี และ คุณพิมลวรรณ หุ่นทองคำ พิธีกรและนักแสดงมากความสามารถ มาร่วมแบ่งปันแชร์ประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการเจ็บป่วยจากโรคงูสวัดให้แก่ผู้สนใจรวมทั้งนักกีฬาเข้ารับฟังกันเป็นจำนวนมาก
พญ.ฤทัยรัตน์ วินิจฉัย กล่าวว่า โรคงูสวัด เกิดจากการฟื้นตัวของเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใส โดยจะหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกาย และกลับมาแสดงอาการอีกครั้งเมื่อภูมิคุ้มกันลดลง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มากกว่า 90% ที่เคยเป็นอีกสุกอีใส เป็นเชื้อไวรัสตัวเดียวกันกับที่ทําให้เป็นงูสวัด ทำให้พบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง อาการเริ่มต้นของโรคมักมีผื่นและตุ่มน้ำใสตามแนวเส้นประสาท ซึ่งหากเชื้อไปกระทบเส้นประสาทบริเวณตา อาจทำให้เกิดกระจกตาอักเสบ เป็นแผลที่กระจกตา อาจรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้
ขณะที่ คุณพิมลวรรณ หุ่นทองคำ พิธีกรและนักแสดงมากความสามารถ ที่เพิ่งจะหายจากอาการอีสุกอีใสกล่าวว่า อีสุกอีใสเป็นความรู้สึกที่หลายคนมองว่าเป็นโรคไกลตัว แต่ที่จริงแล้วเป็นโรคที่น่าหวาดกลัวหากเกิดกับใครก็ตาม ตนเองเป็นผู้ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ทั้งการพักผ่อนอย่างเพียงพอและออกกำลังกายมากกว่านักกีฬาบางประเภทด้วยซ้ำ สุดท้ายก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อยากบอกว่าเมื่อเป็นงูสวัดแล้วอาการเป็น-ตาย เท่ากัน ที่สำคัญไม่คิดว่าโรค”งูสวัด”จะมีความรุนแรงมากเช่นนี้
ฝากเตือนถึงประชาชนทั่วไปให้ดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะนักกีฬาทีมชาติขณะนี้การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ใกล้จะถึงแล้ว ไม่อยากให้เป็นโรค “งูสวัด” เพราะมีผลเสียต่อร่างกาย กระทบต่อการฝึกซ้อม และยังบั่นทอนความแข็งแรงของร่ายกายอย่างมาก จึงขอให้หมั่นดูแลสุขภาพให้ดี มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เต็มที่ตามโปรแกรมที่ถูกกำหนด ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาเสริมสร้างเพื่อต่อต้านโรคร้าย รวมถึงการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ตามหลักโภชนาการ
โรคงูสวัดเป็นโรคที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรงในระยะแรก แต่สามารถก่อให้เกิดความเจ็บปวดและภาวะแทรกซ้อนที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตได้อย่างมหาศาล ไม่เว้นแม้กระทั่งนักกีฬาที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ดังนั้นประชาชนคนธรรมดาจึงต้องหมั่นดูแลร่างกายตนเองเป็นพิเศษอีกด้วย
สำหรับการป้องกันโรคงูสวัดสามารถทำได้โดยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ที่เป็นโรคโดยตรง รวมถึงการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นวิธีสำคัญในการลดความเสี่ยง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง วัคซีนสามารถช่วยลดโอกาสเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ






This is really interesting, You’re a very skilled blogger. I’ve joined your feed and look forward to seeking more of your magnificent post. Also, I’ve shared your site in my social networks!
This is the amicable of glad I get high on reading.