ตร.บางซื่อรวบแก๊งอ้างเป็นตำรวจลักทรัพย์แรงงานเมียนมาร์ ย่านหมอชิต
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 23 ก.พ.ที่สน.บางซื่อ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย คือ นายมานะ หรือออฟ หอมมาก อายุ 37 ปี, นายอนุวัฒน์ หรือตาม ชลสงคราม อายุ 29 ปี, นายธนาธร หรืออ้วน พิมดี อายุ 25 ปี, นายพันธกานต์ หรือแฮก น้อยจันวง อายุ 21 และนายธงชัย หรือตู่ อาธร อายุ 35 ปี พร้อมเงินของกลาง จำนวน 5,000 บาท ในข้อกล่าวหา”ร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปในวลากลางคืน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น”
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 22 ก.พ. นางมะขอและผู้เสียหายอีก 3 คน สัญชาติเมียนมาร์ นั่งรถโดยสารสาธารณะจาก อ.แม่สาย จ.เชียงใหม่ มาลงที่ขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางต่อไปยังเขตบางบอน เพื่อทำงาน เมื่อลงจากรถทัวร์ได้มีชายจำนวน 2 คน อ้างตัวว่าเป็นคนขับรถแท็กซี่ และชักชวนผู้เสียหาย ขึ้นรถแท็กชื่ จากนั้นได้พาไปบริเวณลานจอดรถหน้าทางเข้าขนส่งหมอชิต(ขาเข้า) เมื่อถึงรถแท็กซี่ผู้เสียหายและเพื่อน ได้เข้าไปนั่งในรถแท็กซี่ พร้อมกับนายธนาธร 1ในผู้ต้องหา ในตำแหน่งคนขับพร้อมกับล็อกรถและลดกระจกลง จากนั้นได้มีชายทราบชื่อภายหลังว่า นายอนุวัฒน์ยืนอยู่ใกล้เคียงรถแท็กซี่ได้เข้ามาบอกกับผู้เสียหายว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตรวจค้นกระเป๋าของผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นการตรวจค้นยาเสพติด และขอตรวจเอกสารของกลุ่มผู้เสียหาย โดยยึดเอากระเป๋าเงินของทั้งหมดไป ในการตรวจค้นผู้ต้องหายืนอยู่นอกรถโดย นายมานะทำหน้าที่ส่องไฟฉาย นายธงชัยยืนคุมเชิงอยู่ด้านข้าง
เมื่อนายอนุวัฒน์ทำการตรวจค้นเสร็จ ได้ส่งกระเป๋าคืนผู้เสียหายไป กระทั่งผู้เสียหายเดินทางกลับมาถึงที่พักและตรวจสอบทรัพย์สินภายในกระเป๋า ปรากฏว่าเงินสดจำนวน 18,000 บาทได้หายไป จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงสายของวันที่(23 ก.พ.66)
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงสถานที่เกิดเหตุ จนทรายตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ก่อนติดต่อผู้ต้องหาทั้งหมดให้มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับว่า.เป็นผู้ก่อเหตุจริง และได้นำเงินสดของกลางมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ผู้เสียหายมาดูหน้าผู้ต้องหาดังกล่าว เพื่อยืนยันว่าทั้งหมดเป็นบุคคลที่ก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดของตนเองไปจริงหลังจากชี้ตัวผู้ก่อเหตุ
ด้าน นายสา กล่าวว่า ตามวันเวลาดังกล่าว ได้มีชายฉกรรจ์มาบอกว่า เดี๋ยวเรียกแท๊กซี่ให้ทางนี้ก็ปฏิเสธไป เค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไรกดมิเตอร์เอา ทางนี้ก็ตกลง พอขึ้นรถไปก็มีชายฉกรรจ์มาบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนะ ขอดูเอกสารดูพาสปอต พอให้ดู แล้วชาย 4 คนนั่นก็บอกว่า เอกสารไม่ครบนะ พอขอตรวจกระเป๋าเพื่อค้นดูว่ามียาเสพติดมั้ย แต่กลับตรวจแต่กระเป๋าตังอย่างเดียว แล้วก็เอาไปตรวจ อีกคนก็ส่องไฟ แล้วบอกว่า เอกสารไม่ครบนะ ต้องเสียค่ากาแฟนิดนึงนะ แล้วคนขับก็บอกว่า เค้าเป็นตำรวจจริงนะ เสียให้เค้าไปเถอะ แล้วทางนี้เค้าไม่ให้ เค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไร แต่ข้างหน้าก็มีด่านนะ รอบนี้ให้อภัย แล้วคนขับแท๊กซี่ก็บอกว่า ค่ารถคนละ 380 บาท ทางนี้ก็บอกว่า อะไร ไม่ให้ แล้วก็ต่อรองเหลือคนละ 200 ก็ได้ ก็จะลงจากรถ แล้วชายฉกรรจ์ก็มาล้อมบอกว่าไม่ได้ต้องขึ้นรถคันนี้เท่านั้น แต่ทางนี้รู้แล้วว่าเงินออกจากกระเป๋าไปแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่ พอกลับถึงบ้านตอนเช้ามารู้ว่าหายเท่าไหร่กัน แม่หาย 7 พัน ลูก 1 หมื่น 1 พัน และอีกคนมีสร้อยคอ ดูแล้วแต่ไม่ให้
นายสา กล่าวอีกว่า เลยปรึกษากันเลยพากันไปแจ้งความ เค้าไม่กล้ากันเพราะเป็นพม่า ตนเป็นกลุ่มช่วยเหลือชาวพม่าอยู่แล้ว เรื่ิองเลยเพิ่งมาถึงตน เพราะชาวพม่าโดนกันเยอะที่หมอชิต หลังจากแจ้งความเสร็จตำรวจก็ทำงานไวมาก รู้ทะเบียนรถแท๊กซี่ บอกเดี๋ยวให้ ไม่เกิน 3 ชั่วโมง จับตัวแก๊งค์รีดไถได้ต้องชื่นชมตำรวจ ทำงานดีมากไวมาก
เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา: สำนักข่าวคาดเชือก
เว็บไซต์: https://kardchuek.net
Awsome info and right to the point. I don’t know if this
is in fact the best place to ask but do you guys have any thoughts on where to employ some professional writers?
Thanks 🙂 Escape room lista