นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่ฝ่ายค้านมีข้อกังวลในเรื่องการตั้งงบประมาณข้ามปีว่า เรื่องนี้นายจุลพันธ์ อมร วิวัฒน์ รมช.คลัง จะชี้แจงในรายละเอียดแต่ตนมีความมั่นใจว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8 หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อเป็นการยืนยันการดำเนินการต่างๆว่าเป็นไปตามกฎหมายว่า ทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้และต้องสุจริต
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึง ความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวของประชาชนในแอป พลิเคชัน “ทางรัฐ” ว่า เป็นระบบการยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยสูงสุด เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งในขณะนี้มีประชาชนเข้ามาโหลดและลงทะเบียนในแอปทางรัฐ เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อวัน มีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน KYC แล้วรวม 10 กว่าล้านคน ถือเป็นประโยชน์กับระบบมาก เพราะทำให้การโหลดเป็นไปอย่างราบรื่น จนถึง ปัจจุบันยังไม่มีปัญหาใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่ใกล้ถึงช่วงที่เงินเข้ากระเป๋าประชาชนแล้ว มั่นใจหรือไม่ ว่าสิ่งที่ดำเนินการไปจะไม่ถูกดำเนินคดี นายจุลพันธ์ หัวเราะและกล่าวว่า มั่นใจครับ มั่นใจมาก ไม่มีปัญหาใดๆเพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆครบถ้วน ข้อสังเกตต่างๆเรารับมาพิจารณาและปรับแก้มาเป็นลำดับ ตอนนี้ตัวโครงการอยู่ในจุดที่เชื่อมั่นว่าสิ้นปีนี้เงินถึงมือประชาชนแน่นอน โดยทั้งหมดเป็นไปตามกรอบกฎหมายทุกประการ
“วันที่ 30 ก.ค. ได้มีการเรียกคณะอนุกรรมการฯ เพื่อการซักซ้อมความพร้อมของระบบ รองรับการเปิดลงทะเบียนผู้มีสิทธ์ิในเวลา 08.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค.67 เป็นต้นไป จากเดิมคาดว่าจะเริ่มลงทะเบียนหลังเที่ยงคืนของวันที่ 31 ก.ค.นี้ เนื่องจากมีการกังวลว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่มาประจำการเพื่อตอบคำถามกรณีเกิดปัญหา ดังนั้น เพื่อความเรียบร้อย ที่ประชุมจึงกำหนดเริ่มต้น 08.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค. ลงทะเบียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงวันปิดการลงทะเบียน 15 ก.ย.67 สำหรับกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน และได้เตรียมเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์โทร.1111 ไว้ตอบคำถาม 24 ชั่วโมง และในช่วงวันที่ 31 ก.ค.นี้ ระบบการลงทะเบียนจะหยุดทำงานราว 2-3 ชั่วโมง เพื่อรีเซ็ตระบบเตรียมความพร้อมรับการลงทะเบียนวันที่ 1 ส.ค.แต่คนที่ดาวน์โหลดแอปทางรัฐ และยืนยันตัวตนไปแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูล การรีเซ็ตระบบเป็นการทำงานหลังบ้าน แต่ต้องการบอกให้ทราบว่า หากเข้าแอปทางรัฐไม่ได้ ไม่ต้องตกใจ และกังวลใจ”
สำหรับผู้ที่ไม่มีมือถือ รัฐบาลจะประกาศรายละเอียดการลงทะเบียนอีกครั้งในช่วงเดือน ก.ย. 2567 ส่วนรายละเอียด ขั้นตอน และคุณสมบัติของร้านค้า นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.พาณิชย์ จะแถลงในวันที่ 1 ส.ค.2567
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวต่อว่า กรณียังไม่ได้นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากหลายหน่วยงาน ที่สำนักงานเลขาธิการ ครม.ขอความเห็นเกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ตไป ขณะนี้มีเพียง 2-3 หน่วยงานที่ส่งความเห็นกลับมายัง ครม. อย่างไรก็ตาม ระบบการยืนยันตัวตน KYC ถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนระบบการชำระเงินยังไม่สมบูรณ์ แต่เชื่อว่าก่อนการเปิดใช้จ่ายเงินดิจิทัล ระบบการชำระเงินจะแล้วเสร็จอย่างแน่นอน และจะไม่กระทบไทม์ไลน์การใช้จ่ายในไตรมาส 4 ของปีนี้อย่างแน่นอน
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ส.ค.2567 หากผู้ที่ต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียน รัฐบาลได้กำหนดจุดให้บริการ (Walk- in) สอบถามข้อมูล และให้บริการช่วยรับลงทะเบียน 4 แห่ง ได้แก่ 1.ศูนย์ดิจิทัลชุมชน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ 2.ที่ทำการไปรษณีย์ 1,200 แห่งทั่วประเทศ (ยกเว้นไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ) 3.ธนาคารออมสิน 1,047 แห่งทั่วประเทศ 4.ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 1,238 แห่งทั่วประเทศ รวม 5,199 แห่ง.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
You have mentioned very interesting details! ps nice website.
Hey very nice web site!! Man .. Excellent .. Amazing .. I’ll bookmark your site and take the feeds also…I am happy to find numerous useful info here in the post, we need develop more strategies in this regard, thanks for sharing. . . . . .