“นายกฯอันวาร์” ดันความร่วมมือร่วมลงทุนไทย-มาเลเซีย ภายใต้ระบบฟาสต์แทร็ก ใน 3 อุตสาหกรรมรถยนต์อีวี-พลังงาน-ดิจิทัล ให้เห็นผลใน 6 เดือน เล็งสร้างเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษร่วมสองประเทศ “เกียงไกร” ชี้ 2 ประเทศผนึกกำลังกันจะสร้างตลาดการค้าขนาดใหญ่ได้
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวปราศรัยในหัวข้อ “The Future of ASEAN” ในงานหอการค้ามาเลเซีย-ไทย (MTCC) ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 9-10 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมทั้งตอบคำถามตัวแทนนักธุรกิจ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย-ไทย ว่า หลังจากการก้าวขึ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ให้ความสำคัญกับอาเซียนเป็นอันดับสูงสุด พร้อมได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะยกระดับการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ใน 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมพลังงาน และอุตสาหกรรมดิจิทัล
“ได้หารือกับนายกฯของไทย ว่าเราไม่ต้องมาทำเอ็มโอยู (บันทึกความเข้าใจ) กันแล้ว แต่ให้ลงมือทำเลย โดยให้ความร่วมมือร่วมลงทุนนี้เห็นผลใน 6 เดือนจากนี้ไป โดยทั้งสองประเทศพร้อมจะเร่งรัดการดำเนินการให้เกิดความร่วมมืออย่างเร่งด่วนในแบบฟาสต์แทร็ก เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรค และสร้างความร่วมมือระหว่างกันโดยเร็วที่สุด”
สำหรับความเป็นไปได้ในการจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ไทย-มาเลเซีย Thailand-Malaysia Special Economic Corridor (TM-SEC) ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย และพื้นที่รัฐฝั่งเหนือของประเทศมาเลเซีย ได้มีความตั้งใจที่จะดำเนินการเรื่องนี้โดยต้องเริ่มจากการสร้างบรรยากาศทางการค้า และความเข้าใจที่ดีของประชาชนทั้งสองประเทศโดยพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาจุดที่อ่อนแอที่สุดในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะร่วมกันพิจารณาโครงการเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) กลับมาอีกครั้ง
นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยังได้กล่าวไม่เห็นด้วยกับปัญหาความรุนแรงในเมียนมาว่า ชาติสมาชิกอาเซียนควรมีฉันทามติ และส่งสารถึงรัฐบาลพม่า ว่าในยุคนี้ไม่ควรดำเนินนโยบายแบบเลือกปฏิบัติ และใช้ความรุนแรงต่อประชาชน อีกทั้งความขัดแย้งและความโหดร้ายต่อชนกลุ่มน้อยในเมียนมา ส่งผลกระทบให้เกิดผู้ลี้ภัยมายังประเทศสมาชิกอาเซียน
“ในเรื่องนี้อาเซียนต้องสามารถทำความสะอาดบ้านของตนเองได้ก่อนที่ประเทศนอกภูมิภาคจะก้าวเข้ามาจัดการกับความโหดร้ายที่รัฐบาลทหารพม่ากระทำต่อประชาชนของตนเอง เพราะเราไม่ต้องการให้คนนอก เช่น สหรัฐฯ และยุโรปบอกเราว่าต้องทำอะไร เราต้องกล้าหาญพอที่จะแก้ไขปัญหานี้”
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยกับมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านกันถ้าร่วมมือกันจะสร้างตลาดการค้าขนาดใหญ่ ตลาดอาเซียนถือว่ามีความสำคัญอย่างมากที่สมควรมีตลาดในภูมิภาคอาเซียนที่แข็งแรงในภาวะที่เกิดความไม่แน่นอนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนในปัจจุบัน ทั้งนี้ มาเลเซียถือว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญต่อไทย มีมูลค่าทางการค้าระหว่างกันสูงที่สุดในอาเซียน ในอนาคตสามารถที่จะพัฒนาความร่วมมือกันในอีกหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งเพิ่มความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศได้ ซึ่งการค้าข้ามชายแดนยังทำได้อีกมาก ซึ่งนายกฯมาเลเซียเน้นย้ำว่าต้องสร้างบรรยากาศทางการค้า และแก้ปัญหาไม่ให้มีความตึงเครียดทางชายแดนต่อกัน.