นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการยื่นแบบชำระภาษีบุคคลธรรมดา (ภงด.) ประจำปี 2565 แล้ว 2.4 ล้านราย โดยในจำนวนนี้มีผู้ประสงค์ขอคืนภาษี 1.4 ล้านคน โดยกรมสรรพากรได้คืนภาษีให้แล้วประมาณ 70% ส่วนอีก 30% อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งในจำนวนที่เหลือนั้นพบว่า 10-15% มีความผิดปกติในการยื่นแบบชำระภาษี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยจำนวนที่ยื่นแบบภาษีดังกล่าวเป็นการยื่นแบบทางระบบออนไลน์ 95% และคาดว่าปีนี้จะมีผู้ยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 11 ล้านคน ในจำนวนนี้ เป็นผู้เสียภาษีประมาณ 4 ล้านคนเท่านั้น
“ปีนี้จะเป็นปีที่กรมสรรพากรจะตรวจสอบการคืนภาษีด้วยความรอบคอบและเข้มข้นมากขึ้น โดยนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามาช่วย หากพบความผิดปกติ ก็จะขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้เกิดความล่าช้าในการคืนภาษี โดยปกติแล้วหากไม่พบความผิดปกติในการยื่นแบบชำระภาษี ทางกรมจะคืนภาษีภายใน 3 วันทำการเท่านั้น แต่หากพบความผิดปกติ การคืนภาษีจะล่าช้ากว่านั้นหรือเกินกว่า 7 วันทำการ”
นายลวรณกล่าวต่อว่า กรมสรรพากรได้ประเมินการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในปีนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเปิดให้ผู้มีเงินได้เข้ามายื่นแบบชำระภาษี นับตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.ของทุกปี ส่วนการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น เปิดให้ทยอยยื่นผ่านการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลปีละ 2 ครั้ง และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ชำระทุกเดือน จึงเห็นยอดการชำระภาษีที่มีแนวโน้มดีขึ้น สะท้อนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนั้น กรมสรรพากรยังได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยจัดทำโครงการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษีด้วยการนำบริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” มาใช้ยืนยันตัวตนก่อนเข้าถึงบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย.
Wow, wonderful weblog format! How lengthy have you been running
a blog for? you make blogging look easy. The full look of your site
is fantastic, let alone the content! You can see similar here sklep internetowy