กลุ่มแม่บ้านหนองกุลา นำแห้วนาผลผลิตที่ปลูกหลังว่างเว้นจากการทำนา นำไปแปรรูปทั้งทำเป็นแป้งและขนมขายทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้ครอบครัว เผยล่าสุด ทำเป็นเส้นผัดไทยที่มาจากแห้วนาแทนเส้นก๋วยเตี๋ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า ที่บริเวณที่ทำการกลุ่มแม่บ้านหนองกุลา เลขที่ 18 หมู่ที่ 4 บ้านหนองกุลา ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก นางสมพร คำเสาร์ ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหนองกุลากับพวก ให้การต้อนรับคณะดูงานที่เป็นกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร อ.เมือง จ.ตาก ที่พากันเดินทางมาเยี่ยมชมการขุดแห้วนาและผลผลิตจากแห้วนาที่ผ่านการแปรรูปแล้ว หลังจากได้บรรยายความเป็นมาและให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปลูกและการขุดแห้วนาแล้ว ได้พากันเดินทางไปดูการขุดแห้วนาของชาวบ้านที่แปลงปลูกของ นายชุติพงษ์ ฟักปั้น อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 18 บ้านเกาะกร่าง ต.หนองกุลา ซึ่งมีเนื้อที่ในการปลูกจำนวน 6 ไร่ พบว่ามีชาวบ้านพากันมาขุดแห้วนาจำนวน 10 คน โดยวันนี้เจ้าของแปลงปลูกอนุญาตให้ชาวบ้านขุดแห้วนาได้ฟรี เพื่อนำไปขายให้กับกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรหนองกุลา
สำหรับการปลูกแห้วนาของชาวบ้าน ต.หนองกุลา นั้น เนื่องจากสภาพพื้นที่มีอากาศร้อนและแล้งจัด หลายพื้นที่ต้องงดทำนา เนื่องจากขาดแคลนน้ำ จึงรวมกลุ่มกันมาปลูกพืชทนแล้งเพื่อหารายได้เข้าครอบครัว โดยชาวบ้านที่บ้านหนองหลวง หมู่ 5 ต.หนองกุลา ได้ตั้งกลุ่มร่วมกันเป็นกลุ่มแรกที่วัดหนองหลวง ในการทำโครงการปลูกแห้วนาตามอัตลักษณ์ นิคมสร้างตนเองบางระกำ เพื่อหารายได้เพิ่มให้ครอบครัวไว้ใช้จ่ายในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำนา มีสมาชิกประมาณ 30 คน พากันออกหาแห้วนา ตามนาข้าว คันนา ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ จากนั้นก็นำมาดำในนาข้าวของทางวัดตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม เมื่อปี พ.ศ.2558 ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ถึงฤดูร้อนจึงเก็บเกี่ยวได้โดยการขุดดินค้นหาหัวแห้วสด เพื่อส่งขายให้กับทางเกษตรอำเภอบางระกำ เพื่อนำไปเพาะปลูกเป็นกล้า และนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในตำบล เพื่อขยายพื้นที่ปลูกต่อไป ก่อนที่จะเริ่มมีการแปรรูปเป็นแป้งแห้ว เพื่อนำไปทำเป็นขนมวุ้นรับประทานกัน
ขณะที่วิธีปลูกก็ไม่ยาก เพียงแค่นำกล้าไปปักดำในนาคล้ายการทำนาทั่วไป จากนั้นก็ทิ้งไว้ได้เลยไม่ต้องให้น้ำ เพียงแต่ต้องคอยดูแลเรื่องวัชพืช ต้องคอยดึงออกไม่เช่นนั้นวัชพืชเหล่านั้นจะไปแย่งอาหารแห้ว ทำให้แห้วเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ จะทำให้หัวแห้วมีขนาดเล็กเพราะถูกแย่งอาหาร ส่วนช่วงที่เหมาะกับการขุดแห้วก็จะเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด ดินแห้ง ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม เพราะแห้วเป็นพืชที่ชอบสภาพอากาศแล้ง ใน 1 ปี ก็จะสามารถทำนาแห้วได้เพียง 1 ครั้งคือช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว แห้วนาจึงนับได้ว่าเป็นพืชที่สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเกษตรกร ในช่วงที่ไม่สามารถทำนาปลูกข้าวได้เป็นอย่างดี
นางถนอม จันทร์เพ็ง อายุ 73 ปี ชาวบ้านดงกวาง หมู่ 3 ต.หนองกุลา เปิดเผยว่า ออกหาขุดแห้วนาเป็นอาชีพเสริม เพื่อให้มีรายได้ไปใช้จ่ายในครอบครัว และขุดแห้วนาเป็นประจำทุกปี ปีนี้แป้งแห้วนาราคาจะลดลงเล็กน้อย คนรับซื้อบอกว่าราคารับซื้ออยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 500-600 บาทเท่านั้น จากปกติเมื่อปีที่ผ่านมา เคยขายแป้งแห้วนาได้กิโลกรัมละ 700 บาท สาเหตุเนื่องมาจากว่า คนรับซื้อน้อยลงแต่ผลผลิตมีจำนวนมากขึ้น เพราะมีเกษตรกรปลูกแห้วนากันหลายแปลงใน ต.หนองกุลา
ชาวบ้านที่ขุดหาหัวแห้ว กล่าวต่อว่า สำหรับตนขุดแห้วนาได้เฉลี่ยปีละเกือบ 30 กิโลกรัม โดยนั่งขุดตั้งแต่เช้าไปจนถึงเย็นใกล้ค่ำ จากนั้นนำแห้วสดไปทำความสะอาดแล้วใส่ครกตำหรือใช้เครื่องบด แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางกับน้ำ รอให้แป้งนอนก้นภาชนะ จากนั้นนำแป้งไปตากแดดจนกระทั่งมันแห้ง ก็จะได้เนื้อแป้งนำไปจำหน่ายได้ โดยแห้วสดที่ขุดได้ 4 กิโลกรัม จะนำไปทำแป้งแห้วได้ 1 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนการจัดแบ่งรายได้กับเจ้าของแปลงนานั้น จะแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างขุดแห้วได้ 3 กิโลกรัม จะเป็นของเจ้าของนา 1 กิโลกรัม บางทีก็คิดค่าขุดจากแห้วที่ขุดได้กิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งการขุดหาแห้วไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด เพราะใน 1 วันจะขุดได้ไม่มากนัก เฉลี่ยแล้วประมาณ 4 กิโลกรัม หากนำไปขายสดจะได้กิโลกรัมละ 100 บาท
ด้าน นางสมพร คำเสาร์ ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหนองกุลา กล่าวว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม เมื่อถึงฤดูกาลขุดแห้ว ก็จะมีกลุ่มชาวบ้านเข้ามาขุดในพื้นที่ที่ทำนาแห้ว โดยแบ่งสัดส่วนกับเจ้าของแปลงตามข้อตกลง บางแปลงก็ให้ชาวบ้านเข้าไปขุด โดยคิดวันละ 50 บาท ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหนองกุลา มีการทำนาแห้วมากขึ้น มีผู้ปลูกประมาณ 30 ราย โดยเฉลี่ยก็พื้นที่ปลูกกว่า 50 ไร่ ปีหนึ่งได้แป้งแห้วจำนวนมาก เจ้าของแห้วนาบางคนสามารถนำไปขายได้โดยตรง แต่บางรายก็นำส่งกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหนองกุลา ซึ่งจะมีการสต็อกแป้งแห้งไว้ เพื่อนำมาทำขนมจำหน่ายตลอดทั้งปี โดยแป้งแห้วสามารถจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วประเทศแล้ว
ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหนองกุลา กล่าวด้วยว่า คุณสมบัติของแห้วนาสามารถกินสด หรือนำไปต้มให้สุก บางรายก็นำมาทำเป็นยา เนื่องจากแห้วมีคุณสมบัติให้ฤทธิ์เย็น ช่วยในการปรับสมดุลของร่างกาย หัวแห้วมีแป้งจำนวนมาก เปลือกให้สีและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยแห้วสามารถทำอาหารได้หลายอย่าง โดยเฉพาะในกลุ่มขนมไทย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปรีดทำเป็นเส้นแป้ง เพื่อทำก๋วยเตี๋ยวผัดไทยจำหน่ายได้ ทั้งนี้ ก็มีผู้ติดใจชื่นชอบแป้งที่ทำจากแห้วจำนวนมาก ผู้ที่สนใจแป้งแห้วนา ติดต่อได้โดยตรงกับตน ทางโทรศัพท์หมายเลข 081 – 8884015.
ที่มา:ไทยรัฐ