27 ธันวาคม 2565 เวลา 19:09 น.
27 ธ.ค.2565 – รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ปรารภตอนหนึ่งถึงนโยบายหาเสียงของบางพรรคการเมืองว่า การจะหาเสียงอะไรช่วยดูงบประมาณประเทศด้วย ใครเป็นนายกฯ หรือรัฐบาลต่อปวดหัวแน่นอนถ้าหาเสียงแบบนี้ ตนก็เข้าใจและอยากดูแลประชาชนเหมือนกัน แต่บางเรื่องเช่น ล้างหนี้ ยกให้หมดจะเอาเงินมาจากไหน รวมถึงได้ปรารภถึงเรื่องฉายา ปี65 ที่สื่อมวลประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งว่า โดนกันหมด นายดอน ปรมัถต์วินัย รมว.ต่างประเทศ ยังโดนฉายา ลุ่มๆดอนๆ เจออย่างนี้ใครจะไม่โมโห โดนหาว่าทำเอเปคสู้ครั้งก่อนไม่ได้ แต่เวลาตนไปต่างประเทศก็มีแต่คนชื่นชม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งที่ประชุมหารือถึงวาระการแต่งตั้ง อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอรายชื่อนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ในตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวง โดยนายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ยกมือทักท้วงไม่เห็นด้วย ทำให้นายกฯ ถามไปยังเลขาฯครม.ว่า สามารถทักท้วงในที่ประชุมได้หรือไม่ โดยเลขาฯครม. ชี้แจงว่า ทำได้ จากนั้นที่ประชุมผ่านการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปประชุมเรื่องอื่นต่อ จนกระทั่งจบการประชุมในวาระต่างๆแล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารืออีกครั้ง โดยระบุว่า ตนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ และได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ยืนยันเสนอ นายสุพิศ
ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แย้งว่า ตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงฯ เป็นโควตาในกำกับของรัฐมนตรีพลังประชารัฐ และได้ตกลงกับนายเฉลิมชัย แล้วว่าจะเป็นคนอื่น
จนกระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องออกความเห็นว่า ในที่ประชุมครม.เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรยกเรื่องโควตาพรรคมาพูดกัน และตามกฎหมายผู้มีอำนาจแต่งตั้งอธิบดีคือปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทำให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พูดสนับสนุน พล.อ.ประวิตร ว่า เมื่อมีการแบ่งงานกันแล้วก็ควรให้เกียรติรมช.ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ไม่เช่นนั้นจะมีรมช.ไว้ทำไม
ขณะที่นายนายจุรินทร์ ยังยืนยันหลักการเดิมว่า เป็นสิทธิของรัฐมนตรีว่าการในการแบ่งงานในกระทรวง จะมอบหมายให้ใครทำอะไร ทำให้นายกฯ ตัดบทว่าให้ครม.ผ่านเรื่องดังกล่าวไปก่อนพร้อมกับตำแหน่งอื่นๆ ทั้ง11 คน ระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเปลี่ยนแปลงได้
โดยหลังการประชุมครม. พล.อ.ประวิตร ได้เรียกเลขาฯ ครม. ไปคุยค่อนข้างนาน และมีรัฐมนตรีหลายคนเข้าไปพูดคุยด้วย