กระต่ายเนื้อ ขายได้ทุกส่วน สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ คู่แข่งน้อย

กระต่ายเนื้อ ขายได้ทุกส่วน สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ คู่แข่งน้อย

ในโอกาสดิถีขึ้นปีเถาะหรือปีกระต่าย ส่วนใหญ่เรามักนึกถึงแต่การเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม แต่ในอีกมุมยังมีอีกหลายประเทศนิยมบริโภคเนื้อ

โดยเฉพาะประเทศมุสลิม ที่ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกวัน ด้วยรสชาติดี จึงเป็นอีกทางเลือกในการสร้างงานสร้างอาชีพของคนไทย เพราะราคาเนื้อขายปลีกในตลาดสูงถึง กก.ละกว่า 300 บาท ตลาดเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียรับไม่อั้น แต่กลับยังมีคนทำน้อยในบ้านเรา

“ทำฟาร์มปศุสัตว์มากว่า 10 ปี มีทั้งแพะ วัว มีกระต่ายเล็กน้อย กระทั่ง 2-3 ปีที่แล้ว เริ่มทำกระต่ายจริงจังขึ้น มีทั้งกระต่ายแฟนซีสวยงาม และกระต่ายเนื้อ โดยกระต่ายสายเนื้อ ได้แก่ พันธุ์นิวซีแลนด์และนิวแบล็ก เพราะโตไวและเนื้อนุ่มเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน เลี้ยงง่ายเหมือนกันหมด ในบรรดากระต่ายพันธุ์เนื้อ พันธุ์นิวซีแลนด์นิยมเลี้ยงกันแพร่หลายที่สุด ด้วยขนสีขาวสวยงามทั้งตัว หน้าสั้น สะโพกใหญ่ ไหล่กว้าง ส่วนหลังและสีข้างใหญ่ เนื้อเต็ม เนื้อนุ่ม ทำให้ถูกอกถูกใจผู้บริโภค ที่สำคัญให้ลูกดก เลี้ยงลูกเก่ง”

ไพศัล เจ๊ะดือราแม แห่งไพศัลฟาร์ม ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เล่าถึงที่มาของการทำฟาร์มปศุสัตว์ ก่อนมาเลี้ยงกระต่ายเนื้ออย่างจริงจัง…หลังพบกระต่ายเนื้อเลี้ยงง่าย ราคาดี ตลาดต้องการตลอด และที่สำคัญคู่แข่งยังน้อย

วิธีการเลี้ยงของที่นี่ จะเลี้ยงในกรงตับยกสูงจากพื้น วัสดุที่ใช้สร้างกรงแล้วแต่ความสะดวก อาจเป็นไม้ พลาสติก หรือเหล็ก แต่พื้นล่างต้องมีช่องว่างให้มูลกระต่ายตกลงไป เพื่อไม่ให้กรงสกปรก กรงกระต่ายขุนขนาด 30×60 ซม. สูง 45 ซม. ส่วนกรงของแม่พันธุ์จะใหญ่กว่านิดหน่อย โดยมีขนาด 50×60 ซม. แต่สูงเท่ากัน เลี้ยงกรงละตัว แต่ต้องสร้างหลังคาไว้กันแดดกันฝน

ให้อาหารวันละ 2 มื้อ มื้อเช้าให้หญ้าตามปกติเสริมด้วยอาหารข้น โดยใช้อาหารหมูใหญ่ 1 กระสอบ ผสมกับอาหารกระต่าย 5 กระสอบ คลุกให้เข้ากัน โดยให้เป็นอาหารเสริมครั้งละ 1 ขีดต่อตัว และมื้อเย็นให้อาหารหยาบ อาทิ หญ้าซิกแนล หรือหญ้าเนเปียร์สับเป็นท่อน ส่วนของการให้น้ำ จะให้ 2 ระบบคือ ระบบออโต้ต่อสายยางที่มอเตอร์ขนาดเล็กเหนือกรง เมื่อกระต่ายดูดน้ำมอเตอร์จะดึงน้ำลงมาสู่สายยาง และระบบขวดน้ำใส่จุก

ทั้งนี้นอกจากต้องหมั่นดูแลน้ำและความสะอาดให้กับกระต่ายแล้ว ยังต้องระวังเกี่ยวกับโรคถ่ายท้อง เพราะอาจทำให้กระต่ายตายได้ โดยเฉพาะในลูกกระต่าย ที่หากเกิดโรคแล้วอาจตาย 100% ฉะนั้นต้องหมั่นรักษาความสะอาดของอาหารอย่าให้มีสิ่งปนเปื้อน อีกโรคที่ต้องระวังคือโรคผิวหนังอย่างโรคกลาก หากพบต้องรีบรักษาด้วยยาสำหรับทาภายนอกโดยเฉพาะ

ส่วนการเพาะพันธุ์…กระต่ายแทบทุกสายพันธุ์ตั้งท้องแค่ 1 เดือน หลังจากนั้น 15 วัน จะฉีดยาถ่ายพยาธิและยาบำรุงให้พ่อแม่พันธุ์ ถัดมาอีก 5 วัน ก็ผสมพันธุ์ใหม่ได้ ฉะนั้นกระต่ายจึงเป็นสัตว์ที่แพร่พันธุ์ได้เร็วมาก ส่วนลูกก็จะนำไปขุนต่อ คัดเลือกตัวที่เหมาะสมทำพ่อแม่พันธุ์ต่อไป

ด้านการตลาด ผู้บริโภคนิยมกระต่ายเนื้อขนาด 2.5-3 กก. ที่ใช้เวลาเลี้ยงแค่ 3-4 เดือนเท่านั้น เนื้อจะส่งให้ร้านอาหารต่างๆ โดยเฉพาะร้านอาหารป่าในพื้นที่ภาคใต้ และ 3 จังหวัดชายแดน ราคาขายปลีก กก.ละ 350 บาท รวมถึงส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย ส่วนเครื่องในคนเลี้ยงปลาจะมารับ เพื่อนำไปเป็นอาหารปลา ขณะที่ หนังกระต่ายมีคนมารับซื้อถึงฟาร์มด้วยเช่นกัน

ที่มา:สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.08-3658-9478, 08-7398-7789 หรือทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/paisanc hedueramae.9 และเพจไพศัล ฟาร์ม.

ผู้นำเสนอข่าว

ยัยแม่มด

Written by:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *