สวนสัตว์พาต้า ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสน ล่าตัวคนบุกทำลายทรัพย์สิน ร้องปล่อยบัวน้อย

สวนสัตว์พาต้า ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสน ล่าตัวคนบุกทำลายทรัพย์สิน ร้องปล่อยบัวน้อย

“สวนสัตว์พาต้า” ประกาศตั้งเงินรางวัลนำจับ 1 แสน เพื่อล่าตัวกลุ่มคนบุกรุกทำลายทรัพย์สิน โดยพ่นสีใส่ผนังอาคาร เป็นข้อความในเชิงต่อต้านการครอบครอง “บัวน้อย”

เฟซบุ๊ก สวนสัตว์พาต้า โพสต์ข้อความเรื่อง “คำแถลงการณ์สวนสัตว์พาต้า กรณีการประกาศเรื่องต่อสู้และดำเนินคดีความกับผู้ต่อต้านและบุกรุก” โดยระบุว่า ประกาศ สวนสัตว์พาต้า ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท เพื่อตามล่ากลุ่มคนทำลายทรัพย์สิน ร้องปล่อยตัว บัวน้อย

เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของเช้าวันที่ 6 มีนาคม 2566 ได้มีกลุ่มผู้กระทำความผิด จำนวน 5 คน บุกรุกพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าพาต้า โดยใช้การปีนสะพานลอยผ่านเข้ามายังขอบอาคารชั้น 3 ด้านหน้าห้างฯ และทำลายทรัพย์สินของบริษัทด้วยการพ่นสีใส่ผนังอาคาร เป็นข้อความในเชิงต่อต้านการครอบครองลิงกอริลลาของสวนสัตว์พาต้า โดยเขียนว่า “Free Buanoi” และอักษรภาษาอื่นๆ เป็นทางยาวกว่า 20 เมตร

ทั้งนี้ ทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหาย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของบริษัทเป็นอย่างมาก ทั้งที่การประกอบกิจการของสวนสัตว์พาต้านั้น อยู่ในความดูแลของหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องและผ่านขั้นตอนการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ โดยเหตุการณ์การต่อต้านเรื่องการครอบครองลิงกอริลลาของห้างฯ พาต้านั้น มีมานานกว่า 20 ปี และเพิ่งจะได้รับความเข้าใจจากประชาชน โดยส่วนใหญ่เมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา จากแถลงการณ์ครั้งแรกของบริษัทฯ ถึงเหตุผลต่างๆ และที่มาที่ไปของบัวน้อย ลิงกอริลลา เพศเมีย วัยชรา ที่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีตลอดมา ที่แม้ทางบริษัทจะประสบภาวะขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่อง แต่ทางผู้บริหารก็ยังไม่เคยทอดทิ้ง หรือตั้งราคาบัวน้อยในราคา 30 ล้าน ตามที่เป็นข่าว

ล่าสุดทางฝ่ายบริหารของทั้งห้างและสวนสัตว์พาต้า ได้เคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยจะขอนำเรื่องการบุกรุกและทำลายทรัพย์สินของบริษัทในครั้งนี้ เป็นกรณีตัวอย่างของการละเมิดสิทธิ์ที่ผิดกฎหมาย ที่บุคคล กลุ่ม หรือองค์กรพิทักษ์สัตว์มากมาย ทั้งในและต่างประเทศได้กระทำกันมาช้านาน ทั้งการโพสต์โซเชียลมีเดียถึงการวิจารณ์ไปในทางหมิ่นประมาทและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อสวนสัตว์พาต้า, การรวมตัวกันเรียกร้องให้ปิดสวนสัตว์และปล่อยตัวบัวน้อย ด้วยการใช้ภาพถ่ายเน้นลูกกรงให้ดูเศร้า รวมถึงการปรับเล่นกับโทนสีของภาพให้ดูหม่นหมอง เพื่อการเรียกร้อง และนำภาพบัวน้อยไปใช้กันอย่างแพร่หลาย จนนำไปสู่การขอรับบริจาคในโครงการของตนเองหลายต่อหลายครั้ง โดยไม่มีการแจ้งถึงยอดเงินดังกล่าวอย่างเป็นทางการว่าได้นำเงินนั้นไปใช้ในทิศทางใด

ดังนั้น สวนสัตว์พาต้า ขอใช้โอกาสและพื้นที่ตรงนี้เพื่อแจ้งว่า “สวนสัตว์พาต้า ไม่เคยรับทราบถึงที่มาที่ไปของเงินบริจาคดังกล่าว ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีการเรี่ยไรกระทำการกันอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี” รวมไปถึงนักอนุรักษ์สัตว์บางรายที่เคยฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ต่อต้านสวนสัตว์พาต้า โดยกระทำการอบรมให้ข้อมูลแก่เยาวชนถึงในสถานศึกษา เพื่อใช้เด็กและเยาวชนเป็นแรงสนับสนุน มุ่งไปที่การ “ปล่อยตัวบัวน้อย” ให้เด็กๆ ซึมซับว่าบัวน้อยได้รับความทุกข์ทรมาน โดยที่เด็กและเยาวชนเหล่านั้น อาจไม่รู้ และไม่เคยมาเที่ยวสวนสัตว์พาต้าเลยสักครั้งในชีวิต ซึ่งถือเป็นการมอมเมาเด็กและเยาวชนจากหลักฐานที่ผู้ต่อต้าน ชี้แนะให้เด็กๆ จำนวนมาก เห็นสิ่งที่สวนสัตว์พาต้ากระทำตลอดมา ว่าเป็นความผิด ทั้งที่การประกอบกิจการทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้กฎหมาย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายกับสวนสัตว์พาต้าตลอดมา วันนี้ทางสวนสัตว์ฯ จึงประกาศตัว เพื่อตอบโต้ความไม่เป็นธรรมทุกรูปแบบ โดยเริ่มจากการตามล่าหาตัวกลุ่มคนผู้กระทำผิด ทั้ง 5 คน ที่ทำการบุกรุกทำลายทรัพย์สินของห้างฯ พาต้า ปิ่นเกล้า เพื่อมาลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งทางฝ่ายกฎหมายของบริษัทฯ ได้นำรูปพรรณของกลุ่มคนดังกล่าวที่เก็บหลักฐานได้จากกล้อง CCTV ไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายที่สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อีกทั้งยังได้มีการจัดตั้งแผนกพิเศษเฉพาะกิจ เพื่อรวบรวมหาเบาะแสของเรื่องราวทั้งหมด โดยเริ่มจากการนำรายชื่อของผู้ที่เคยแสดงตัวต่อต้าน โจมตีสวนสัตว์พาต้า ไปยื่นส่งให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรายชื่อนั้นมีตั้งแต่ ผู้ที่โพสต์ด่าทอให้เกิดความเสียหาย ไปจนถึงกลุ่มหรือบุคคลนักอนุรักษ์ทั้งที่มีและไม่มีหน่วยงานรองรับ, ดารานักแสดงบางคน บางกลุ่ม ที่ออกมาต่อต้านปราศรัยโดยไม่เกรงกลัวการใช้คำพูดที่ละเมิดสิทธิและผิดกฎหมาย รวมไปถึงผู้ที่เรียกตนเองว่า เซเลบริตี้ หรือบุคคลระดับไฮโซ ที่เคยใช้วิธีการต่อต้านอย่างผิดหลักการมาโดยตลอด เพียงเพราะไม่ได้รับการตักเตือน ตอบโต้ บนรากฐานของกฎหมายแห่งความยุติธรรม

ทั้งนี้ ทางผู้บริหารยังมีมติว่า จะไม่ลบข้อความที่ถูกกลุ่มคนดังกล่าวขีดเขียนให้เกิดความเสียหายออกจากหน้าตัวอาคารจนกว่าจะสามารถจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิด หรือจนกว่าจะถึงเวลาบูรณะซ่อมแซมอาคารของห้างฯ ที่เพิ่งจะมีกำหนดการของการปรับปรุงอาคารตามที่แจ้งไว้ในข่าวสารออนไลน์ เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา

สุดท้ายทางสวนสัตว์พาต้าขอแจ้งให้ทราบว่า แถลงการณ์นี้ ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการเตือน แต่จัดทำขึ้นเพื่อประกาศถึงนโยบายการต่อสู้และดำเนินคดีทางกฎหมาย ที่สวนสัตว์พาต้าได้ประกาศเริ่มต้นขึ้นกับทุกหลักฐานของทุกท่านผู้กระทำการจนก่อให้เกิดความเสียหาย ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง และมีผลเสียต่อภาพลักษณ์และภาคธุรกิจของทางบริษัทฯ มาช้านาน ด้วยผู้บริหารชุดปัจจุบันของห้างสรรพสินค้าและสวนสัตว์พาต้าที่ถูกแต่งตั้งเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ขจัดเรื่องราวไม่ยุติธรรมเหล่านี้โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม ทางสวนสัตว์ฯ ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับ จำนวน 100,000 บาท สำหรับทั้งประชาชนหรือบุคคลใด ที่ให้เบาะแสจนนำพาไปสู่การจับกุม กลุ่มคนผู้บุกรุกและทำลายทรัพย์สินของทางบริษัทฯ ตลอดจนผู้บงการในเรื่องนี้ (หากมี) เพื่อให้กรณีที่เกิดขึ้นนี้ เกิดความยุติธรรมกับทางสวนสัตว์ฯ โดยเร็ว ซึ่งท่านผู้มีเบาะแส สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 095-062-1515 (ผู้จัดการทั่วไป) และ 094-957-2883 (ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์).

ขอบคุณเฟซบุ๊ก สวนสัตว์พาต้า
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,262 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *