ย้อนเส้นทางชีวิตสุดเศร้าของ “น้องทีน” เจ้าของร้าน “อ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด” เด็กหนุ่มที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ จากความสูญเสียตั้งแต่เด็ก จนสุดท้ายจากไปอย่างสงบ
จากกรณีที่โลกโซเชียลได้ร่วมไว้อาลัย การจากไปของ “น้องทีน” หรือ นายสดายุ ศุภผลศิริ เจ้าของร้าน “อ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด” ที่เสียชีวิตลง โดยคาดว่ามีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากแผลพุพองที่เท้า ดังที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
สำหรับ “น้องทีน” นั้น เป็นเด็กหนุ่มผู้สู้ชีวิต ที่มีเรื่องราวสุดเศร้า เนื่องจากตั้งแต่เด็กถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ต้องอาศัยอยู่กับย่าเพียง 2 คน ต่อมาย่าก็ล้มป่วย จนเข้าโรงพยาบาล แล้วเสียชีวิตลงในที่สุด แล้วน้องทีนในวัย 14 ปี ก็ต้องพบกับข่าวเศร้าอีกครั้ง เมื่อบ้านที่เคยอาศัยอยู่นั้น ถูกญาติขายทิ้งไป โดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่องราว ทำให้ต้องออกมานอนข้างถนน ในซอยหมู่บ้านและใช้ชีวิตตามลำพังกว่า 3 วัน
แต่โชคดีที่มีผู้ใจบุญ คือ นายต่อศักดิ์ รุ่งทอง หรือ พี่ต่อ บังเอิญมาพบเข้าในช่วงตี 2 ของคืนหนึ่ง จึงพาเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้าน เลี้ยงดูและรับอุปการะ เหมือนเป็นน้องชายคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นผู้ที่สอนวิชาการทำอาหารหาเลี้ยงชีพ จนทำให้น้องทีนได้เปิดร้านขายกะเพราเพื่อหารายได้ให้ตนเอง ตั้งแต่อายุ 16 ปี
จากนั้นเรื่องราวชีวิตของน้องทีน ก็โด่งดังในโลกออนไลน์ขึ้น ในช่วงปี 2022 เมื่อรายการช่วยด้วย ของ ตี๋อ้วนชวนหิว ได้เข้ามาสัมภาษณ์ และช่วยเหลือน้อง ทั้งมอบทุน ซื้อเสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ รวมถึงอุปกรณ์และวัตถุดิบทำอาหารให้ อีกทั้งยังทำป้ายพร้อมตั้งชื่อร้านให้ใหม่ว่า “อ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด” รวมถึงแบ่งปันสูตรการทำอาหารเพื่อให้น้องทีนไปประกอบอาชีพ ทำให้มีคนไปติดตามและอุดหนุน จนเป็นที่รู้จักและขายอาหารดีขึ้นเรื่อยมา
แต่ต่อมาน้องทีน ก็เริ่มล้มป่วยลง เนื่องจากอาการติดเชื้อจากบาดแผลพุพองที่เท้า โดยมีพี่ต่อ คนที่รับอุปการะมากว่า 8 ปี เป็นผู้ดูแลอยู่ไม่ห่าง พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และคอยอัปเดตอาการรักษาต่อเนื่อง มากว่า 1 เดือน ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ต่อศักดิ์ รุ่งทอง
ซึ่งก่อนที่น้องทีนได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย เนื่องจากไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จนสุดท้ายก็ได้รับบัตรประจำตัวประชาชน และเข้ารับการรักษาอาการแผลที่เท้า แต่อาการของน้องทีน ก็เริ่มทรุดลงเรื่อยๆ
จนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา พี่ต่อได้แจ้งข่าวเศร้าว่า น้องทีนนั้นได้จากไปแล้วอย่างสงบ โดยมีทีมแพทย์และพยาบาล พยายามยื้อชีวิตไว้ก็ไม่สำเร็จ สร้างความตกใจให้กับคนในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ต่อศักดิ์ รุ่งทอง, ตี๋อ้วนชวนหิว, Srawuth Puyati Reekprakhon , TikTok@teeuaneat
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/