เจอครบ 8 ศพ เรือระเบิดร่างเละ จ่อฟันเจ้าของอู่เยียวยา “128 ราย”

เจอครบ 8 ศพ เรือระเบิดร่างเละ จ่อฟันเจ้าของอู่เยียวยา “128 ราย”

เจออีก 6 ศพ ลูกเรือเมียนมาสังเวย เหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันระเบิดคาอู่ต่อเรือปากแม่น้ำแม่กลองหลังทีมกู้ภัยระดมนักประดาน้ำค้นปูพรมรัศมี 3 กม. จากจุดเกิดเหตุ พบแต่ละรายมีแผลฉีกขาด จมสยองอยู่ใต้น้ำลึก ญาติร่ำไห้รอรับศพ ทำให้ยอดรวมมีคนตายถึง 8 ศพ พ่อเมืองสมุทรสงครามสั่งเร่งสำรวจ บ้านที่ได้รับผลกระทบ 128 ราย ด้านตำรวจจ่อเอาผิดท่าเทียบเรือกับอู่ซ่อมเรือ ขณะที่ชาวบ้านผวามาตรการความปลอดภัย อยากให้ย้ายท่าเรือไปอยู่ที่อื่น

จากเหตุการณ์สยองเรือบรรทุกน้ำมันเตาชื่อสมูธซี 22 ขนาด 2,996 ตันกรอส เกิดระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขณะจอดซ่อมบำรุงบริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง หน้าอู่ต่อเรือรวมมิตรด็อคยาร์ด หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เมื่อตอนสายวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เศษซากเรือกระเด็นไปไกลเสียงระเบิด ได้ยินไปไกลกว่า 10 กม. และเกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ระดมทั้งรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงเข้าสกัดกั้นเปลวไฟนานเกือบ 3 ชม. หลังเพลิงสงบพบคนงานเมียนมาถูกฉีกร่างเละ 2 ศพ บาดเจ็บ 4 คน และสูญหาย 6 คน อานุภาพแรงระเบิดทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากสะเก็ดไฟจากการอ๊อกเหล็กตกใส่ถังน้ำมันจนเกิดการระเบิดขึ้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ม.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายมูลนิธิได้สนธิกำลังออกค้นหาร่างผู้สูญหายต่อเนื่อง เน้นปูพรมทั่วแม่น้ำแม่กลองและบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุเรือระเบิด มีการผลัดเปลี่ยนกำลังกันลงดำน้ำเพื่องมหาผู้สูญหายชุดละ 10 นาย แต่ด้วยความมืด ประกอบกับน้ำลึกและไหลเชี่ยว อีกทั้งน้ำค่อนข้างเย็นทำให้การทำงานของทีมกู้ภัยค่อนข้างยากลำบาก กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 18 ม.ค. เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหาชั่วคราว โดยนายชลธี เลาหกรรณวณิช หัวหน้าชุดปฏิบัติการกู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า วันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่จะร่วมกันประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าการค้นหาจะเป็นอย่างไร อาจใช้วิธีค้นหาทางบกควบคู่กับการดำน้ำค้นหา
ต่อมาช่วงเช้าหน่วยกู้ภัยร่วมกันค้นหาผู้สูญหายอีกครั้งในรัศมี 3 กม.จากจุดเกิดเหตุ กระทั่งพบร่างผู้สูญหายอยู่ใต้แม่น้ำแม่กลองอีก 6 ศพ ทั้งหมดเป็นแรงงานชาวเมียนมา ก่อนนำศพไปขึ้นที่ท่าท้ำวัดปากสมุทร ต.แหลมใหญ่ เพื่อส่งไปชันสูตร ศพแรกพบในเวลา 09.05 น. ชื่อนายวินโบ อยู่ใกล้กับเรือที่เกิดเหตุ ศพที่ 2 เวลา 10.09 น. ชื่อนายดูแง สภาพใบหน้าฉีกขาด ท้องน้อยมีแผลเหวอะหวะ ศพที่ 3 เวลา 11.00 น.ชื่อนายซอมิน สภาพศพสมบูรณ์ ศพที่ 4 เวลา 11.50 น. ชื่อนายวิน สภาพใบหน้าเละและขาขวาหัก ศพที่ 5 เวลา 13.10 น. ชื่อนายโซล และศพที่ 6 เวลา 13.30 น. ชื่อนายตี่ละ จมอยู่ใต้หัวเรือลึกกว่า 4 เมตร ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบร่างผู้สูญหายครบแล้ว จึงยุติภารกิจการค้นหา โดยมียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดรวมเป็น 8 ศพ

ที่กองอำนวยการชั่วคราวหน่วยกู้ภัยสว่างเบญจธรรมหน้า อบต.แหลมใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม มีแรงงานชาวเมียนมามาเฝ้ารอดูศพผู้เสียชีวิตตั้งแต่เช้าบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีนายตันฮเว (Mr.Than Htwe) อุปทูตและอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย เดินทางไปให้กำลังใจญาติผู้สูญเสีย ขณะที่นายสมนึก พรหมเขียว ผวจ.สมุทรสงคราม สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด อบต.แหลมใหญ่ กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตรวจสอบตามบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

นายอมรศักดิ์ ฉัตรระทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ เปิดเผยว่า อบต.พร้อมสนับสนุนภารกิจการค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่ รวมถึงเปิดรับลงทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เบื้องต้นมีชาวบ้าน ใน ต.แหลมใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุมาลงทะเบียน ทั้งหมด 97 ราย ต.บางจะเกร็ง 27 ราย และเทศบาลเมืองสมุทรสงครามอีก 4 ราย ทั้งนี้ สำนักงานเจ้าท่าจังหวัดสมุทรสงคราม และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่กรมเจ้าท่าแต่งตั้งขึ้นจะประชุมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนบริษัทเรือเข้าร่วมด้วย เพื่อติดตามมาตรการ เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากผู้ประกอบการ รวมถึงตรวจสอบเรื่องใบอนุญาตและมาตรการความปลอดภัยขณะซ่อมบำรุงที่เป็นประเด็นสำคัญ เพื่อหาข้อสรุปภายใน 1 สัปดาห์

ด้าน พ.ต.อ.ศยาม อินทสุวรรณโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้บาดเจ็บ 4 ราย และทยอยสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตที่มีการยืนยันศพแล้ว นอกจากนี้ ยังรอเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่ามาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อสอบสวนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีใครกระทำการประมาทบ้าง ขณะนี้เจ้าท่ากำลังรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อดูว่าจะแจ้งความในข้อหาใดบ้าง สำหรับเจ้าของเรือเบื้องต้นยังไม่พบความผิด เพราะเป็นผู้ที่นำเรือมาจ้างให้ซ่อมบำรุง ส่วนผู้ที่เข้าข่ายมีความผิดก็จะมีฝ่ายท่าเทียบเรือและผู้รับเหมาซ่อมเรือ

ที่สำนักสงฆ์โพธิ์ทะเล ต.บ้านปรก อ.เมืองสมุทรสงคราม นายวาสุกี ด้วงกำเนิด อายุ 48 ปี และนางไพรินทร์ ด้วงกำเนิด 40 ปี สองผัวเมียผู้ประกอบการหอยดองและปลาหมึกแห้งเลขที่ 7/8 หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือระเบิด ทำให้เจ้าคิงคอง สุนัขพันธุ์อเมริกันบลูลี่ที่ซื้อมา 50,000 บาท ตกใจเสียงดังระเบิดจนช็อกตายสลด ครอบครัวได้นำศพสุนัขมาประกอบพิธีทางศาสนา โดยนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาสวดและทำพิธีเผาศพสุนัข นายวาสุกีเผยว่า เลี้ยงเจ้าคิงคองได้ 1 ปีแล้ว รักมากนอนกอดทุกคืน ความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้สุนัข ทรัพย์สินในบ้าน รวมถึงวัตถุดิบหอยปลาหมึกเสียหายมูลค่าเกือบ 200,000 บาท อยากให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบในส่วนนี้ทั้งหมด

ขณะที่นางอารี สุวรรณาราม อายุ 32 ปี แม่ค้า ขายอาหารทะเลสด บ้านเลขที่ 153/1 หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร พาผู้สื่อข่าวดูร่องรอยความเสียหายจากเหตุระเบิดดังกล่าว พบว่าฝ้าเพดานพังเสียหาย จากนั้นเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังทำอาหารอยู่ในบ้าน จู่ๆได้ยินเสียงระเบิดรอบแรกดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ฝ้าร่วงมาแตกกระจาย จากนั้นเกิดระเบิดรอบที่ 2 ดังกึกก้องจนบ้านสั่นสะเทือนฝ้าตกลงอีกชุดใหญ่ ตกใจมากรีบไปดูลูกที่วิ่งเล่นอยู่ข้างบ้าน ระหว่างนั้นมีฝาถังน้ำมันตกลงมาอีก โชคดีพาลูกวิ่งหลบหนีไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกวิตกกังวลในความปลอดภัย ไม่อยากให้ท่าเรือตั้งใกล้ชุมชนแบบนี้ อยากให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น
ที่ อบต.แหลมใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เย็นวันเดียวกัน นายสมนึก พรหมเขียว ผวจ.สมุทรสงคราม แถลงปิดศูนย์กู้ภัยชั่วคราวเหตุเรือบรรทุกน้ำมันเตาระเบิด มีผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย บาดเจ็บ 4 ราย สำหรับศพรายที่พบในเรือที่ถูกไฟไหม้ต้องรอผลพิสูจน์อัตลักษณ์ คาดว่าเป็นศพนายวิเชียร บุญเลิศ และนายทุย แรงงานชาวเมียนมา ส่วนความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุระเบิดดังกล่าวให้ อบต.แหลมใหญ่ เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม และ อบจ.สมุทรสงคราม คอยอำนวยความสะดวกในการรับเรื่องต่างๆ ส่วนพื้นที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย ต.แหลมใหญ่ ต.บางจะเกร็ง หมู่ 1 ถึงหมู่ 5 ล่าสุดจังหวัดประกาศเป็นเขตอัคคีภัยกรณีฉุกเฉินแล้ว

ที่มา:thairath

ผู้นำเสนอข่าว

ยัยแม่มด

Written by:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *