ทยอยกลับกทม. หลบรถติดขาเข้า แห่ดูแสงแรกรับศักราชใหม่ อุบัติเหตุ 3 วัน สังเวย “146ศพ”

ทยอยกลับกทม. หลบรถติดขาเข้า แห่ดูแสงแรกรับศักราชใหม่ อุบัติเหตุ 3 วัน สังเวย “146ศพ”

ท่องเที่ยวไทยคึกคัก คนแห่รอชมแสงตะวันแรกรับปีใหม่ 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามอุทยานแห่งชาติล้นทะลัก ก่อนทยอยเดินทางกลับกรุง ขณะที่ ศปถ.ชี้หยุดฉลองปีใหม่แค่ 3 วันแรก ยอดตายจากอุบัติเหตุทางถนนพุ่งดับสะสมแล้ว 146 ศพ บาดเจ็บ 1,182 ราย เฉพาะคืนส่งท้ายปีตาย 59 ศพ ด้าน ผบ.ตร.สั่ง ตร.พร้อมให้การอำนวยความสะดวกการจราจรและลดอุบัติเหตุ ย้ำบูรณาการทุกภาคส่วน เข้มจับเมาแล้วขับ ใช้ความเร็วเกินกำหนด พอใจสถิติอุบัติเหตุลดลงกว่าปีก่อน รวมถึงงานเคาต์ดาวน์ขนาดใหญ่-งานสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศผ่านฉลุย ไม่มีเหตุร้ายแรง

ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566 ที่ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยว เฉลิมฉลองศักราชใหม่ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวทุกภูมิภาคแน่นขนัดไปด้วยผู้คน และเกิดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง

ทยอยกลับกทม. หลบรถติดขาเข้า แห่ดูแสงแรกรับศักราชใหม่ อุบัติเหตุ 3 วัน สังเวย “146ศพ”

แห่ชมแสงแรกของปี 66

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ต่อเนื่องวันที่ 1 ม.ค.2566 ตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วทุกภาค มีนักท่องเที่ยวแห่มาร่วมเคาต์ดาวน์และรอชมแสงอาทิตย์แรกของวันเริ่มต้นศักราชใหม่กันเนืองแน่น โดยที่บริเวณผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี จุดที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้คำนวณดวงอาทิตย์ขึ้นของประเทศไทยด้วยการเห็นแสงแรกเริ่มของตะวัน ณ เส้นแวงที่ 105 องศา 37 ลิปดา 17 ฟิลิปดา จึงถือว่าเป็นจุดแรกที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศกว่า 2,000 คน เดินทางไปรอรับแสงตะวันแสงแรกของปี 2566 เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลและรอชมความสวยงามของแสงพระอาทิตย์ยามเช้าท่ามกลางอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ปีนี้พระอาทิตย์ได้พ้นสันเขาจาก สปป.ลาว มาให้ชาวไทยได้ยลแสงเวลา 06.35 นาที

สัมผัสหนาวรอดูแสงตะวัน

ส่วนที่จุดชมวิวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีนักท่องเที่ยวกว่า 3,500 คน พากันขึ้นเที่ยวชมทิวทัศน์ตะวันขึ้นสามแผ่นดิน คือขึ้นจากฝั่งประเทศ สปป.ลาว ลอยข้ามเข้าไปในเขตประเทศราชอาณาจักรกัมพูชา ก่อนที่จะลอยเข้ามาในเขตประเทศไทย และต่อด้วยการทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ส่วนที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง นักท่องเที่ยวกว่า 1,500 คน เดินเท้าขึ้นพิชิตยอดภูกระดึง ตั้งแต่เมื่อวานเพื่อรอชมแสงแรกของปีใหม่ ที่ผานกแอ่น พร้อมสัมผัสอากาศหนาว อุณหภูมิ 8 องศาฯ ท่ามกลางหมอกที่ขาวโพลน เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ
จ.เลย มีนักท่องเที่ยวจับจองกางเต็นท์นอนและบ้านพัก รอเวลาสิ้นปี 2565 ข้ามสู่เวลาใหม่ของปี 2566 กว่า 3,000 คน

ต่อคิวชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

ขณะที่ จ.ยะลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวทั้งไทยและมาเลเซียจำนวนมากต่างหลั่งไหลเดินทางมาท่องเที่ยวมาชมแสงแรกปี 2566 พร้อมสัมผัสรับลมหนาวในวันปีใหม่ที่สกายวอล์ก ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง โดยนักท่องเที่ยวต่างเดินทางออกจากตัวเมืองเบตงตั้งแต่เวลา 05.00 น. เข้าคิวต่อแถวรอขึ้นสกายวอล์ก เพื่อชมความงามของทะเลหมอกอันแสนงดงามอลังการ แบบพาโนรามา 360 องศา และชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ารับแสงแรกของวันและของปี เช่นเดียวกับที่ จ.กระบี่ ทั้งเกาะพีพี เกาะลันตา หาดอ่าวนาง อ่าวไร่เลย์ ฯลฯ ต่างเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รอชมแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นแสงสุดท้ายของปี 2565 ก่อนจะเข้าสู่วันปีใหม่ 2566 ทำให้ร้านขายของฝาก ร้านอาหาร ผู้ให้บริการรถรับจ้าง และอีกหลายอาชีพกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

สาธุชนแห่รับปฏิทินพระดัง

ส่วนที่วิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ต.คชสิทธิ์ อ.หนองแค จ.สระบุรี ตั้งแต่กลางดึกวันที่ 31 ธ.ค.ต่อเนื่องถึงช่วงสายวันที่ 1 ม.ค.เนืองแน่นไปด้วยสาธุชนเข้ามากราบไหว้ขอพรปีใหม่จากหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ และรอรับปฏิทิน ปี 2566 รูปหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ มีการเข้าแถวต่อคิวยาวร่วม 2 กม. ทั้งนี้ นายบัญชา ไพบูลย์ภิญญาเลิศ ประธานมูลนิธิหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ เปิดเผยว่า ทุกปีมูลนิธิฯจะทำปฏิทินแจกประชาชนทั่วไปที่มานมัสการกราบไหว้หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ เป็นเวลา 16 ปีแล้ว เพื่อเป็นของขวัญ ของชำร่วย ของที่ระลึกให้กับลูกศิษย์ลูกหาหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ เอาไปบูชาที่บ้าน เพื่อเป็นสิริมงคล มีผู้เลื่อมใสศรัทธามารอรับปฏิทินเป็นคนแรกตั้งแต่เวลา 23.00 น.วันที่ 31 ธ.ค.2565 ทั้งที่เริ่มแจกปฏิทินตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ปีนี้คณะกรรมการมูลนิธิฯ เตรียมปฏิทินปีใหม่ของหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ไว้ประมาณ 4.5 หมื่นใบ คาดว่าประชาชนวันที่ 1 ม.ค.จะมารอรับแจกไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน

ทยอยกลับกทม. หลบรถติดขาเข้า แห่ดูแสงแรกรับศักราชใหม่ อุบัติเหตุ 3 วัน สังเวย “146ศพ”

สวดมนต์ข้ามปีกว่า 16.9 ล้านคน

ขณะที่การสวดมนต์ข้ามปี เมื่อดึกวันที่ 31 ธ.ค.2565 ต่อเนื่องวันที่ 1 ม.ค.2566 พบว่า ตามวัดวาอารามทั่วประเทศที่จัดกิจกรรมนี้ มีพุทธศาสนิกชนมาร่วมพิธีจำนวนมาก ต่อมานายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทยส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2566 ทั่วประเทศ โดยสำนักงานสถิติของจังหวัดได้ประมวลผลการจัดงานพบว่า วัด ศาสนสถาน ในกรุงเทพฯและส่วนภูมิภาคจัดงาน จำนวน 24,351 แห่ง วัดในต่างประเทศจัดกิจกรรม จำนวน 79 วัด มีผู้ร่วมสวดมนต์ จำนวน 11,565,730 คน และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ จำนวน 5,377,220 คน รวมมีผู้ร่วมงานทั้งสิ้น 16,942,950 คน ทั้งนี้ ยังสามารถสวดมนต์ได้ในทุกสถานที่ ทุกช่วงเวลาตามอัธยาศัย ทางเว็บไซต์สวดมนต์ข้ามปี www.prayer2566.com

คืนส่งท้ายปีตายเพิ่ม 59 ศพ

จากนั้นในช่วงสาย วันที่ 1 ม.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ศปถ.) แถลงสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 ว่า อุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31 ธ.ค.2565 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 466 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 467 คน ผู้เสียชีวิต 59 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ถนนกรมทางหลวง ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01-19.00 น. ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,878 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,205 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 424,745 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 67,203 ราย ผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,964 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 18,116 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 8,497 ราย

3 วันตายสะสม 146 ศพ

นายโชตินรินทร์กล่าวว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (19 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (20 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (7 ราย) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (29-31 ธ.ค.65) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,183 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 1,182 คน ผู้เสียชีวิต รวม 146 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 18 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ สุราษฎร์ธานี (42 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สกลนคร (46 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (10 ราย)

กำชับดูแลเข้มเส้นทางรอง

นายโชตินรินทร์กล่าวอีกว่า ยังอยู่ในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ ประชาชนยังคงเดินทางท่องเที่ยวและทำบุญตามสถานที่ต่างๆ ศปถ.ได้เน้นย้ำให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายกวดขันผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านชุมชนเข้มข้น รวมถึงเข้มข้นดูแลเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านและอำเภอ ที่ใช้เป็นทางลัดออกสู่ถนนสายหลัก

คดีเมาแล้วขับพุ่งไม่หยุด

ด้านนายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีคดีทั้งสิ้น 40 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 40 คดี เนื่องจากศาลส่วนใหญ่ปิดทำการ ทำให้ยอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ 3 วัน ที่มีการควบคุมเข้มงวด ระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค.2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,842 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 1,687 คดี คิดเป็นร้อยละ 91.58 คดีขับเสพ 144 คดี คิดเป็นร้อยละ 7.86 คดีขับรถประมาท 11 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.6

ทยอยกลับกทม. หลบรถติดขาเข้า แห่ดูแสงแรกรับศักราชใหม่ อุบัติเหตุ 3 วัน สังเวย “146ศพ”

“นนท์-สมุทรปราการ” ทะลุร้อยคดี

อธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ นนทบุรี 120 คดี สมุทรปราการ 105 คดี และกรุงเทพมหานคร 93 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่งานคุมประพฤติในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (31 ธันวาคม) พบว่าคดีขับรถในขณะเมาสุรา ปี พ.ศ.2564 จำนวน 1,723 คดี และปี พ.ศ.2565 จำนวน 40 คดี ลดลงจำนวน 1,683 คดี คิดเป็นร้อยละ 97

ผบ.ตร.พร้อมรับมือคนแห่กลับกรุง

ส่วนที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.กล่าวหลังฟังการบรรยายสรุปข้อมูลการป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. ถึง 31 ธ.ค.65 มียอดเกิดอุบัติเหตุสะสม 715 ครั้ง สถิติผู้เสียชีวิต 85 ราย สถิติผู้บาดเจ็บ 714 คน ถือว่าลดลงกว่าปีก่อน พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้หน่วยปรับแผนการตั้งจุดตรวจ เน้นการตรวจจับความเมาบนถนนสายรอง รวมทั้งรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย เพื่อป้องกันความสูญเสียรุนแรง ส่วนถนนสายหลักเน้นการตรวจจับความเร็ว ส่วนวันแรกของการเดินทางของประชาชนกลับเข้า กทม. ได้สั่งการให้ตำรวจเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก จัดการจราจร ทั้งตามสัญญาณไฟแดงการเปิดช่องทางพิเศษให้เกิดการคล่องตัวมากที่สุด ส่วนพื้นที่จัดงานเคาต์ดาวน์ขนาดใหญ่ เช่น Bangkok Count down 2023 ห้างเซ็นทรัลเวิลด์, เมกาบางนา, ไอคอนสยาม รวมถึงงานสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศ ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุร้ายแรงแต่อย่างใด

ชม ตร.ภ.3-4 ทำงานดี

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ให้ตำรวจบูรณาการกับหน่วยเกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกการเดินทาง และการแก้ไขป้องกันอุบัติเหตุ ตร.ได้ดำเนินการตามสั่งการรัฐบาลมาต่อเนื่อง ทำให้สถิติอุบัติเหตุปีนี้ลดลง เพราะทุกหน่วยมีการวางแผน ทั้งการป้องกัน การบังคับใช้กฎหมาย และการประชาสัมพันธ์ มีการวิเคราะห์อุบัติเหตุในพื้นที่ นำมากำหนดเป็นแผนในการทำงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ ภ.3, 4 ทำได้ดี

ทยอยคืนบ้านที่ฝาก ตร.

สำหรับโครงการฝากบ้าน การฝาก-คืนบ้านในพื้นที่ทั่วประเทศ วันที่ 26 ธ.ค. 2565-1 ม.ค.2566 มีการฝากบ้านเข้าโครงการทั้งหมด รวม 7,695 หลัง แบ่งเป็นลงทะเบียนผ่าน สน./สภ. 1,157 หลัง และลงทะเบียนผ่าน App OBS 6,538 หลัง ขณะนี้ได้มีประชาชนเดินทางกลับและได้ทำการคืนบ้านไปแล้ว 246 หลัง คงเหลือบ้านที่ยังไม่คืนอีก 7,449 หลัง ต่อมาเวลา 13.30 น. ผบ.ตร.และคณะได้เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดบริการประชาชนในพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญเพื่อให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ทยอยกลับกทม. หลบรถติดขาเข้า แห่ดูแสงแรกรับศักราชใหม่ อุบัติเหตุ 3 วัน สังเวย “146ศพ”

แต่งชุดทหารม้าเจ้าตากส่งคนกลับ

จากนั้นตลอดช่วงบ่ายถึงค่ำวันที่ 1 ม.ค.ถนนสายหลักที่มุ่งหน้าเข้า กทม.ทั้งถนนพหลโยธิน เส้นทางหลัก เชื่อมภาคเหนือตอนบนและภาคกลาง ก็กลับมาหนาแน่น เมื่อประชาชนทยอยขับรถยนต์ส่วนตัวกลับ กทม.ซึ่งกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 14 ค่ายวชิราการ อ.เมือง จ.ตาก ได้นำม้าตรวจการณ์ชายแดน พร้อมนายทหารแต่งเป็น “อัศวานึก” ทหารม้าพระเจ้าตาก คาดดาบคู่ไพล่หลัง นำเครื่องดื่มมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ขับรถมีสติและปลอดภัย พร้อมส่งกำลังใจให้ผู้ใช้เส้นทางจากภาคเหนือกลับกรุงเทพฯ เดินทางโดยสวัสดิภาพ

นครสวรรค์เปิดช่องพิเศษเร่งระบายรถ

ขณะที่ถนนตัวเมืองนครสวรรค์ บริเวณเชิงสะพาน เดชาติวงศ์ ผู้คนทยอยเดินทางกลับจากฉลองปีใหม่ ทำให้รถราเพิ่มมากขึ้น ถนนทางหลวงหมายเลข 117 (นครสวรรค์-พิษณุโลก) และถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 122 การจราจรขาล่องเพิ่มมากขึ้น และชะลอตัวเล็กน้อยในช่วงทางขึ้นสะพาน เนื่องจากรถที่วิ่งมา 4 ช่องทางการจราจรถูกบีบให้ขึ้นสะพานเหลือเพียง 3 ช่องทางการจราจรเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนครสวรรค์ ต้องเปิดช่องทางการจราจรพิเศษอีก 1 ช่องทางบริเวณสะพานกลาง เพื่อเร่งระบายรถ ไม่ให้ติดขัดสะสม

มิตรภาพขาเข้ารถหนาแน่น

เช่นเดียวกับถนนมิตรภาพ เส้นทางหลักจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาภาคกลาง โดยเฉพาะช่วง กม.60 ต่างระดับเขาใหญ่ ในเขต อ.ปากช่อง จ.นคร ราชสีมา กม.58 และ กม.54 หน้าด่านกักสัตว์บันไดม้า ซึ่งเป็นทางขึ้นมอบันไดม้า การจราจรกลับมาหนาแน่นและติดขัดเป็นระยะ โดยเฉพาะรถบรรทุก ตำรวจทางหลวง และ จนท.หมวดทางหลวงกลางดง ได้เปิดช่องทางพิเศษให้รถไปวิ่งสวนทางขาเข้านครราชสีมา 1 ช่องทาง ส่วนที่บริเวณถนนมิตรภาพ ช่วง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เป็นทางลงเนินเขา ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุง ทำให้ถนนมิตรภาพขาเข้าสระบุรี ช่วง กม.ที่ 36 จด 27 เขต อ.แก่งคอย มีรถมาก และรถชะลอตัวบางช่วง เพราะลงเขาเนินจัน และเขาวัดชับบอน

ประชาชนทยอยถึง กทม.

ส่วนที่สถานีรถไฟหัวลำโพง กทม. ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 1 ม.ค. ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและไปเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่มีวันหยุดยาวหลายวัน ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯเพื่อเตรียมตัวกลับมาทำงานอีกครั้งหลังหมดช่วงวันหยุดยาว และเป็นภาพที่ชินตาเหมือนทุกปีที่หลายคน หรือกลุ่มที่มากันเป็นครอบครัวจะนำข้าวของสัมภาระ จำพวกข้าวเหนียว ข้าวสาร อาหารแห้ง ติดมือกลับมาด้วย เพื่อเป็นการประหยัดค่าครองชีพในเมืองได้นานนับเดือน

ผู้นำเสนอข่าว

Lemon

Written by:

720 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *