แก๊งเด็ก ม.4 คะนอง ขว้างมีดใส่สาว แข็งใจขี่รถไปหาตำรวจแต่ไม่เจอเพราะไปดูแลความเรียบร้อยที่งานงิ้ว สุดท้ายคนเจ็บจบชีวิตคาป้อม
(19 มี.ค.66) เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพัก สภ.ไพศาลี อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ หลังมีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมแก๊งวัยรุ่น รวมกลุ่มไปก่อเหตุใช้อาวุธมีดไปทำร้ายหญิงสาววัยรุ่นจนเสียชีวิต ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขนง 634 สระบุรี พาเพื่อนสาวรุ่นน้องกลับบ้านพัก
โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา บริเวณใกล้ตู้สายตรวจไดตาล พื้นที่หมู่ 1 ต.โคกเดือ อ.ไพศาลี สำหรับการจับกุมในคดีดังกล่าว พบว่า มีผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ทั้งหมด 14 คน เป็นวัยรุ่นเยาวชน ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลาย ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของพื้นที่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์
ส่วนคนที่เสียชีวิต ทราบชื่อคือ น.ส.สุวนันท์ หรือ โบว์ อายุ 22 ปี ทราบว่า เสียชีวิตจากการถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่หัวไหล่ข้างขวาจนเกือบขาด และทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงสิ้นใจในจุดเกิดเหตุ โดยขณะนี้ ศพของ น.ส.สุวนันท์ ถูกส่งไปไว้ยังวัดหนองปล้องโพช ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก เพื่อทำพิธีรดน้ำ และสวดอภิธรรมศพแล้ว
ขณะที่การสอบปากคำของตำรวจในขณะนี้ ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนหลายราย แต่พอจะทราบตัวผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธมีดฟันแล้ว คือ นายเปา ซึ่งให้การอ้างว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านพักในพื้นที่ อ.ท่าตะโก พร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่ถูกจับกุมทั้งหมด ไปเที่ยวงานงิ้วในพื้นที่ อ.ไพศาลี แล้วในช่วงขากลับบ้าน ได้นำมีดยาวที่พกมาด้วย นำมาแกว่งโชว์ไปมา ระหว่างที่รถจักรยานยนต์กำลังวิ่งด้วยความเร็ว จึงทำให้แกว่งไปโดนที่ไหนของ น.ส.สุวนันท์ อย่างแรง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว แต่ทางตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การ
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายมนู พิมพา เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรไพศาลี เปิดเผยว่า ตอนที่ตนได้เดินทางเข้าไปถึงจุดเจอ น.ส.สุวนันท์ พบว่ากำลังนอนหายใจรวยริน เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรณ์จากของมีคม ฟันเข้าที่ไหล่ยาวจนเกือบถึงคอ ซึ่งทางกู้ภัยก็พยายามช่วยปั๊มหัวใจปฐมพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว แต่น้องเขาเสียเลือดมาก จึงไม่สามารถยื้อชีวิตน้องเขาไว้ได้
ส่วนการสอบถามเพื่อนสาวของ น.ส.สุวนันท์ ที่มาด้วย ให้การว่า ขณะที่ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากงานงิ้ว เพื่อพาเขากลับบ้าน ก็ได้ไปเจอกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ในระหว่างทาง แล้วหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที น.ส.สุวนันท์ ที่กำลังขี่รถ ก็ไปโดนของมีคมเข้ามากระทบร่างอย่างแรงจนเลือดโชก ซึ่ง น.ส.สุวนันท์ ก็ยังแข็งใจทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บหนัก รีบขี่รถไปยังป้อมตำรวจจุดสี่แยกไดตาล ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่า ตอนนั้น ไม่มีตำรวจอยู่ประจำป้อม เนื่องจากไปดูแลความสงบเรียบร้อยในงานงิ้วกันหมด กว่าจะรีบออกจากงานงิ้วมาถึง ก็ช่วยไม่ทันการณ์เสียแล้ว
ด้านญาติของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นน้าชายของนายเปา ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พอรู้เรื่องว่านายเปาถูกจับ เรื่องก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายคนจนตาย ตนก็รีบมาโรงพักทันที เพราะต้องการจะถามว่าไปก่อเหตุอย่างนั้นทำไม ทำไปเพื่ออะไร แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับหลาน เนื่องจากยังถูกสอบปากคำ และโดยส่วนตัวมองว่า หลานและกลุ่มเพื่อนน่าจะทำด้วยความคะนอง เรื่องจากหลานและกลุ่มเพื่อนที่ถูกจับทั้งหมด ยังมีอายุเพียงแค่ 16-17 ปีเท่านั้น และทั้งหมด ยังเรียนอยู่แค่ชั้น ม.4
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนเส้นทางถนนสายไพศาลี-ท่าตะโก ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกิดเหตุ พบว่า มีกล้องวงจรปิดของอู่ตรวจสภาพรถแห่งหนึ่ง จับภาพไว้ได้ ว่ามีกลุ่มแก๊งรถจักรยานยนต์ ลักษณะคล้ายแต่งซิ่ง เนื่องจากแต่ละคัน มีความสูงของรถต่ำกว่ารถจักรยานยนต์แบบปกติ ซึ่งในกล้องจะเห็นว่ามีการจับกลุ่มขี่วนเวียนไปมาด้วยความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นกลุ่มของผู้ก่อเหตุใช้มีดฟัน น.ส.สุวนันท์ หรือไม่
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดหนองปล้องโพช ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสวนอภิธรรมศพ น.ส.สุวนันท์ พบว่า ครอบครัว รวมถึงญาติพี่น้อง ต่างพาการเดิมทางมาร่วมพิธีรถน้ำศพด้วยความโศกเศร้าเสียใจ โดยมีนางกัลยา อายุ 47 ปี มารดาของ น.ส.สุวนันท์ เปิดเผยทั้งน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกช็อกตกใจอย่างมาก หัวใจแทบสลายที่ต้องมาเสียลูกสาวไป เนื่องจากเป็นลูกคนเดียวของตน ขอให้ทางตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่มันทำลูกสาวของตนอย่างเด็ดขาดด้วย ตนไม่ให้อภัยพวกมันอย่างแน่นอน ขอให้มันตายตามกรรมที่มันก่อไว้
นางกัลยา กล่าว ส่วนนางบังออน ป้าของ น.ส.สุวนันท์ ผู้เสียชีวิต กล่าวระบุว่า ได้เข้าไปสอบถามตำรวจถึงสาเหตุที่หลานสาวโดนฟันจนตายแล้ว ตนยิ่งอึ้งหนัก เพราะไม่เชื่อในคำให้การที่อ้างว่า แกว่ง และเขวี้ยงมีดไปกลางถนน จนไปถูกหลานสาวตายด้วยความบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจนั้น มันฟังไม่ขึ้น และญาติทุกคนไม่เชื่อในคำให้การเลย จึงขอให้ตำรวจเจ้าของคดี สอบปากคำอย่างละเอียด และทำหน้าที่ของท่านอย่างตรงไปตรงมาด้วย เพราะญาติๆ เริ่มชักจะไม่ไว้ใจแล้ว
ขณะที่ น.ส.จ๋า (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้ซ้อนท้ายผู้ตายแล้วมาประสบเหตุด้วยกัน ระบุยืนยันว่า ขณะที่ตนซ้อนท้ายรถผู้ตายเพื่อเดินทางกลับบ้าน ปรากฏว่า พบเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มใหญ่ ยืนจับกลุ่มกันอยู่ที่ริมทางถนน ประมาณ 20 คน จอดรถจักรยานยนต์เรียงรายอยู่ริมทางเต็มไปหมด และเห็นว่ามีผู้ก่อเหตุคนหนึ่ง เดินถือมีดดาบยาวออกมาจากข้างทางก่อนจะเขวี้ยงใส่เข้ามากระแทกร่างของผู้ตาย
“วินาทีนั้น หนูเห็นกลุ่มพวกมันแต่ไกลแล้ว จึงรีบบอกพี่โบว์ ให้รีบเร่งรถขี่ไปให้พ้นจุดที่พวกมันอยู่ เพราะหนูกลัวว่าพวกมันจะตามมาทำมิดีมิร้าย แต่เมื่อพี่หนูเร่งเครื่อง ก็พบว่ามีวัยรุ่นคนหนึ่ง รีบปรี่ออกมาจากข้างทาง แล้วเขวี้ยงมีดดาบยาวสวนมาโดนพี่หนูทันที ซึ่งตอนนั้น พี่หนูบอกกันหนูว่าโดน แต่ยังไม่รู้สึกเจ็บอะไร พี่บอกหนูว่ามันชาๆ แต่หนูก็เห็นว่าไหล่ของพี่เริ่มมีเลือดปลิวออกมา หนูจึงรีบค่อมตัวพี่โบว์ มาขี่รถต่ออีกประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อไปขอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจ แต่สุดท้าย พี่โบว์ก็สิ้นใจตายที่จุดนั้น”
น.ส.จ๋า ยังระบุด้วยว่า กลุ่มคนที่ทำร้ายพี่โบว์ เป็นแก๊งวัยรุ่น ซึ่งถือว่าก๋ากั่นพอสมควร และทราบว่า พึ่งจะไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนต้องขึ้นโรงพักเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ส่วนสาเหตุ ที่กลุ่มเขามาเขวี้ยงมีดใส่พี่โบว์นั้น คนที่ทำชื่อเปา อ้างว่ามันก็ไม่รู้สาเหตุ บอกแค่ว่ามันเมาแค่นั้น และหลังจากตนได้ให้ปากคำกับตำรวจเสร็จ ปรากฏว่า ตำรวจก็มาบอกกับตนหลังจากที่สอบปากคำแล้ว ว่าอย่าไปบอกอะไรกับนักข่าวว่า เพราะมันจะเสียรูปคดี จึงทำให้ตนมองไม่ออกว่า เขาต้องการสื่ออะไร
ที่มา:sanook