เหตุสะเทือนขวัญพบศพหญิงสาวย้อมผมสีทอง ถูกฆาตกรรมยัดในถังขยะ นำมาโยนทิ้งอำพรางคดี ในพื้นที่ป่าริมทางบนเขาสก รอยต่อจังหวัดพังงา-สุราษฎร์ธานี ล่าสุดแม่ผู้เสียชีวิตยืนยันเป็นศพลูกสาว ส่วนกู้ภัยระบุพิรุธ คนร้ายปิดปากถังแน่นหนา คาดว่าจะโยนให้ถึงก้นเหวลึก 200 เมตร แต่ถังกลับติดต้นไม้ จนมีคนมาพบ
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 65 มีรายงานการพบศพหญิงสาว โดยลูกจ้างหมวดการทางคุระบุรี พบกลิ่นเน่าตลบอบอวลทั่วทั้งบริเวณ แม้ป่าข้างทางจะเป็นเหวลึก แต่กลิ่นนั้นเหมือนสัญญาณร้าย ทำให้ลูกจ้างหมวดการทางคุระบุรีที่ทำความสะอาดไหล่ทาง เตรียมรับนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ในพื้นที่เขาสก ต้องหาต้นตอของกลิ่น
แต่กลิ่นนั้นทำให้คนที่พบต้นเหตุถึงกับขนลุก… ถังขยะสีฟ้าขนาด 200 ลิตร นอนตะแคงค้างอยู่บริเวณต้นไม้ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ เห็นปากถังเปิดอ้าเผยให้เห็นกระจุกผมสีทอง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
เมื่อทีมกู้ภัยมาถึง ต้องค่อยๆ โรยตัวลงไปในป่าเหว เพื่อนำถังขยะสีฟ้าขึ้นมาด้านบน ภายในถังพบบัตรประชาชนหญิงผู้เสียชีวิต และกระเป๋าเสื้อผ้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 ห่อ กระเป๋าเครื่องสำอางของผู้ตาย
มูลนิธิกุศลศรัทธา จุดสเเตนด์บายเขาสกที่เข้าร่วมปฏิบัติการ ให้ข้อมูลกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ว่า การนำถังที่บรรจุศพขึ้นมาบนไหล่ทางเป็นไปด้วยความลำบาก ปากถังมีการมัดด้วยถุงพลาสติก โดยสันนิษฐานว่า คนร้ายมัดเพื่อไม่ให้กลิ่นเน่าของศพลอยออกมาภายนอก
แต่ด้วยแรงกระแทกที่คนร้ายโยนถังลงมาจากไหล่ทาง ทำให้ถุงพลาสติกบริเวณปากถังหลุดออกจากส่วนที่มัดไว้ และทำให้มีกลิ่นเน่าของศพโชยไปทั่วบริเวณ ขณะเดียวกัน ต้นไม้บริเวณไหล่ทางมีจำนวนมาก ทำให้ถังติดค้างอยู่บริเวณต้นไม้ จากไหล่ทาง 15 เมตร โดยไม่หล่นลงไปในเหวที่มีความลึก 200 เมตร จนทำให้มีผู้มาพบเห็น
เมื่อตรวจสอบร่างกายของศพ พบศีรษะด้านซ้ายมีรอยยุบ คาดว่าถูกทำร้ายด้วยของแข็ง ขณะที่ร่างกายส่วนอื่น มีรอยช้ำจากการถูกทำร้าย เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 5 วัน เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่า และผมบนศีรษะเริ่มหลุดร่วง เบื้องต้นได้นำศพไปชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลในท้องที่
จากการติดตามคนร้าย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหารถต้องสงสัย เนื่องจากถังมีขนาดใหญ่ กล้องวงจรปิดน่าจะจับภาพรถที่นำมาได้ ซึ่งลักษณะถังขยะที่คนร้ายอำพรางศพ ตรวจสอบไม่พบว่ามีในพื้นที่ คาดว่าคนร้ายนำศพมาจากที่อื่น ก่อนนำมาทิ้งในพื้นที่ โดยเบื้องต้นกล้องวงจรปิดในพื้นที่มี 2 จุด คือบริเวณทางเข้า-ออก อุทยานฯ
“ที่ผ่านมาในพื้นที่มีศพที่ถูกฆาตกรรมอำพรางมาทิ้งในเหวข้างทางบ่อยครั้ง โดยศพนี้เป็นรายที่ 5 ในรอบ 3 ปี เนื่องจากเวลากลางคืนในพื้นที่ ไม่มีไฟส่องทาง โดยเฉพาะกิโลเมตรที่ 109–119 มักมีการนำศพมาทิ้งอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาเพิ่มไฟส่องสว่าง และติดกล้องวงจรปิดมากขึ้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่”
ขณะเดียวกันวันนี้ (27 ธ.ค. 65) แม่ของผู้เสียชีวิต อยู่ใน อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เข้าพบตำรวจและยืนยันว่าเป็นศพลูกสาววัย 30 ปี โดยก่อนวันเกิดเหตุ ลูกสาวมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง ได้มีรถยนต์ปริศนาคันหนึ่งมารับในละแวกบ้าน หลังจากนั้นลูกสาวไม่ได้ติดต่อมาอีก แต่มีคนที่พบเห็นลูกสาวมาบอกอยู่ตลอด จนมาถึงวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าพบศพลูกสาว จึงได้เข้ามาตรวจสอบและยืนยัน เบื้องต้นอยากให้ตำรวจตามจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้
เหตุฆาตกรรมโหดครั้งนี้ ตำรวจท้องที่กำลังเร่งตรวจสอบ และสืบหาคนร้ายทั้งในที่เกิดเหตุ รวมถึงเบาะแสในวันที่หญิงสาวออกจากบ้าน เพื่อนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน และหาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
