สภาพศพถูกแขวนคอกับราวบันได ไล่เรียงความสูงตั้งแต่ “พ่อ-ลูก-ลูก-ลูก” เป็นภาพชวนสะท้อนใจให้กับผู้พบเห็น เรื่องราวของคนร้ายที่มีรอยยิ้มไม่สะทกสะท้านกับการกระทำที่เกิดขึ้น แม้ผ่านมา 26 ปี แต่ยังมีเรื่องราวเล่าบอกต่อไม่จบ แม้ว่าคนร้ายรายนี้จะถูกปลิดชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่ชื่อของ “ศักดิ์ ปากรอ” ยังเป็นบทเรียนให้กับสังคมไทย
ยิ่งมีการบอกเล่าเรื่องชวนหัวลุกผ่านรายการผีรายการหนึ่ง จากคนในละแวกพื้นที่ จ.สงขลา เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับถ่ายทอดมาจากคนเก่าแก่ว่า… บ้านสองชั้นที่เคยอบอุ่น บัดนี้รกร้างด้วยหญ้าและต้นไม้แซมขึ้นทั่วบ้าน เรื่องราวอันสุดเหี้ยมโหดค่อยๆ ก่อตัวขึ้น สัญญาณไฟหน้ารถกะพริบ 3 ครั้ง เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่กวักมือให้ผู้ถูกว่าจ้าง ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในป่า ออกมาพบนายจ้างในที่เปลี่ยวลับตาคน โดยผู้ว่าจ้างส่งมอบรูป 2 ใบ ให้คนรับงาน
ความมืดกลางป่ารกทำให้มองไม่ถนัด เมื่อตกลงรับงานแล้ว จึงได้เพ่งพินิจรูปถ่ายทีละใบ โดยใบแรกเป็นชายทราบข้อมูลว่าเป็นหมอของอนามัย ส่วนรูปอีกใบเป็นภรรยา และทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน
หลังจากนั้นผู้ถูกว่าจ้างได้ส่งงานต่อให้กับชายวัยรุ่น ที่เล่นวัวชนจนหมดตัว โดยพูดหว่านล้อมให้ทั้งคู่รับงาน เมื่อตอบตกลงแผนการอันเหี้ยมโหดได้เริ่มขึ้นในอีกวันทันที…
คนร้ายออกอุบายเดินเข้าไปขอน้ำดื่มภายในบ้าน ก่อนใช้ปืนจี้ลูกทั้ง 3 คน โดยผู้ว่าจ้างกำชับให้มัดเด็กและขังไว้ในห้อง เพราะเป้าหมายสำคัญคือบุคคลในรูปทั้ง 2 ใบ
แต่คนร้ายทั้งคู่กลับทำเกินคำสั่ง เมื่อใช้ไฟช็อตร่างเหยื่ออย่างทรมาน แล้วพาหญิงผู้เป็นแม่เข้าไปในห้องชั้นบน ก่อนใช้เนกไทมัดคอจนตาย แล้วทิ้งศพไว้บนเตียงอย่างไร้ความปรานี ความโหดเหี้ยมยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะมีอีก 4 ชีวิต ดิ้นรนขอความช่วยเหลืออยู่ในบ้าน
ใครจะรู้ว่าบ้านอันแสนอบอุ่น ในช่วงเวลาฆาตกรรมได้กลายเป็นนรกอันเหี้ยมโหดยาวนาน คนร้ายเลือกมัดคอพ่อไว้กับราวบันไดขั้นสูงสุด ก่อนมัดคอลูกอีก 3 คน โดยแขวนคอกับราวบันไดที่ขึ้นชั้น 2 ไล่ตามความสูง ร่างทั้งหมดดิ้นรนไขว่คว้าหาอากาศหายใจ ไม่นานความตายก็พรากทั้งหมดไปจากโลกนี้
กลิ่นความตายอบอวลไปทั้งบ้าน เมื่อแม่ของผู้ตายมาพบภาพอนาถของบุคคลอันเป็นที่รัก ตำรวจทั้งจังหวัดถูกระดมมายังที่เกิดเหตุ ข่าวหนังสือพิมพ์ตีพิมพ์หัวหน้าหนึ่ง ตามล่าฆาตกรโหด ขณะที่ชาวบ้านละแวกนั้นแทบไม่กล้าออกจากบ้าน เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน
ความโหดเหี้ยมของคนร้ายถูกแต้มแต่งด้วยข่าวลือ แต่เบาะแสสำคัญคือ พระเครื่อง ที่คนร้ายลักลอบขโมยจากบ้านคนตาย แล้วเอาไปขายหลังเกิดเหตุ นำมาสู่การจับกุม โดยคนร้ายยอมรับด้วยรอยยิ้ม ถึงความเหี้ยมเกรียมที่ได้กระทำไป วันทำแผนรับคำสารภาพในที่เกิดเหตุ ชาวบ้านทั่วสารทิศต่างมามุงดูการจำลองเหตุการณ์
แต่ที่เจ็บปวดคือ ระหว่างสัมภาษณ์กับนักข่าว มือฆ่าไม่ได้สะทกสะท้าน แต่ยังยิ้มกับสิ่งที่ทำลงไป ส่วนเพื่อนร่วมกระทำผิดได้เข้ามามอบตัว โดยอ้างว่ามีวิญญาณเด็กตามหลอกหลอน จนแทบใช้ชีวิตปกติไม่ได้
ภายหลังศาลตัดสินประหารชีวิตมือฆ่า แต่ได้รับการลดโทษ จนเหลือจำคุก 15 ปี เมื่อพ้นโทษได้ออกมาสร้างครอบครัว และเริ่มต้นชีวิตใหม่
กระทั่งปี 2558 ศักดิ์ ปากรอ ถูกมือปืนดักซุ่มยิงที่กลางหลัง 2 นัด หน้าบ้านพัก จ.สงขลา ร่างที่เคยแข็งแกร่งล้มลง ลิ่มเลือดไหลเป็นทางด้วยคมกระสุนวิ่งทะลุไปถึงไต จนทำให้เสียเลือดมาก จากนั้นจึงสิ้นใจในที่สุด
ฉากชีวิตของ ‘ศักดิ์ ปากรอ’ จนบัดนี้ยังถูกเล่าต่อในโลกออนไลน์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนรุ่นต่อไป ตระหนักถึงพฤติกรรมการกระทำผิด และไม่หลงไปกับความคิดชั่ววูบ ที่นำไปสู่การฆาตกรรม ดังเช่นคดีสะเทือนขวัญ 5 ศพ เมื่อปี 2540.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
