ผกก.สภ.คลองห้า เผย “ด.ต.” ยังให้การภาคเสธ มอมเหล้าข่มขืน นศ.สาว ถ่ายคลิปตอนย่ำยี

ผกก.สภ.คลองห้า เผย “ด.ต.” ยังให้การภาคเสธ มอมเหล้าข่มขืน นศ.สาว ถ่ายคลิปตอนย่ำยี

นศ.สาว ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกตำรวจมอมเหล้าข่มขืนถ่ายคลิปแบล็คเมล์ พร้อมพาเข้าแจ้งความ ผกก.สภ.คลองห้า เผยคู่กรณียังให้การภาคเสธ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 มี.ค.2566 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.คลองห้า ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายอาชาน โอภาสธนากุร ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้อง ได้พา นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านคลองหก เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผกก.สภ.คลองห้า หลังถูกดาบตำรวจ ในสังกัด สภ.คลองห้า เป็นผู้กระทำในความผิดครั้งนี้ ซึ่งตนเองกลัวที่จะไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายอาชาน โอภาสธนากุร ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้อง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาทางเพจสายไหมต้องรอดได้รับแจ้งจากนายสาวบี น้องไปนั่งทานข้าวกับเพื่อน ได้มีคู่กรณีได้เข้ามาขอทานข้าวด้วย แล้วก็นั่งคุยกัน พอเสร็จแล้วได้ช่วยกันไปดื่มต่อ ซึ่งผมคาดว่าน่าจะเป็นร้านของคู่กรณี แล้วก็พยายามให้ผู้เสียหายดื่มเยอะ พอน้องรู้สึกว่าเมาก็จะขอกลับบ้าน แต่คู่กรณีได้บอกว่า ขอไปต่อร้านที่ 3 แล้วจะไปส่งให้ โดยน้องเห็นว่าจะไปส่งจึงได้ตอบตกลงที่จะไป โดยเพื่อนของน้องนั่งไปเบาะหน้า ส่วนน้องนั่งที่เบาะหลัง

พอไปถึงที่บริเวณร้านที่ 3 คู่กรณีได้บอกให้เพื่อนน้องลงไปจองโต๊ะ ส่วนตนเองจะขับรถวนไปหาที่จอด พอเพื่อนน้องลงจากรถ คู่กรณีได้ขับรถออกจากร้านตรงไปที่โรงแรม ได้ทำการบังคับจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง จากนั้นตอนที่น้องอยู่ภายในโรงแรมกับคู่กรณี ได้มีแฟนหนุ่มของน้องเดินทางมาหา ซึ่งคาดว่าน่าจะเช็คจีพีเอสของโทรศัพท์ แต่เมื่อมาถึงทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมไม่ยอมให้เข้า และให้กันแฟนของน้องออกไป แล้วก็เคลียทางเพื่อที่จะพาน้องไปที่โรงแรมที่ 2 ซึ่งที่น้องเต็มใจไปด้วยเพราะคู่กรณีได้ถ่ายคลิปไว้เพื่อแบล็คเมล์ จึงต้องยอมไปแล้วตอนเช้า คู่กรณีได้พาน้องไปส่งที่บ้านเพื่อน

นายอาชาน กล่าวต่อว่า ทางคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.คลองห้า จริง พร้อมทั้งมีการข่าวว่ามีการโทรมาเคลียร์กับทางเพจและตัวน้องว่าไม่ให้เข้าแจ้งความ ซึ่งทางเพจขอยืนยันว่าทางเพจไม่ได้มีการเรียกรับเงิน เพราะการก่อตั้งเพจขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน และไม่ได้หวังผลประโยชน์ ใครถูกว่าไปตามถูกใครผิดเราก็ว่ากันไปตามผิด แต่เรื่องที่มีคนมาขอเคลียร์นั้นมีจริง แต่น้องต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมมากกว่า ซึ่งน้องมีพยานหลักฐานในมือถือของน้องที่ได้ถ่ายเอาไว้ เพื่อเอามาประกอบในสำนวน

พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผกก.สภ.คลองห้า กล่าวว่า ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ที่ถูกกล่าวหานั้น เป็นข้าราชการตำรวจของ สภ.คลองห้าจริง ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่งานสืบสวน โดยจากการโทรศัพท์พูดคุย ก็บอกว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกเครียด แต่ก็ให้การภาคเสธ รับบ้างไม่รับบ้าง ในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนน้องผู้หญิง และทำการส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อเอามาประกอบสำนวน ซึ่งทางยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ใครผิดก็ว่าไปตามผิด พร้อมกันนี้จะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ควบคู่กันไปด้วย เพราะถ้าหากว่ากระทำตามความผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิดทางวินัยร้ายแรง

ในส่วนที่บอกว่าเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนร้านผับบาร์ดังกล่าวนั้น ซึ่งตอนที่ตนเองสอบถามเขาก็บอกว่าไม่ได้เป็น แต่เป็นคนชอบกินชอบเที่ยว และในส่วนเรื่องเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นั้น ก็ไม่ใช่ เพราะเขาทำงานรับข้าราชการตำรวจที่นี่มา 10 กว่าปี ก็รู้จักคนเยอะเป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรก็ตามทางผู้ใหญ่ก็กำชับในเรื่องนี้มา ให้ดำเนินการตามความถูกต้องยุติธรรม ซึ่งตนเองยืนยันอีกครั้งว่า จะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน และในวันนี้หลังจากการสอบสวนเสร็จแล้ว จะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปเก็บภาพจากกล้องวงจรปิด อย่างละเอียด พร้อมทั้งจะได้เรียกตัว ดาบตำรวจ คู่กรณีมาทำการสอบสวนอย่างละเอียด

ล่าสุดเมื่อ เวลา 17.30 น. พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผกก.สภ.คลองห้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และ พนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันพาตัวนางสาวบีไปชีจุดต่างๆ ตามคำให้การ ตั้งแต่ไปนั่งกินอาหาร และ ไปดื่มสุราจนมาถึง โรงแรมที่ก่อเหตุ ที่อยู่ไม่ไกลร้านเหล้า ลวงไปข่มขืนแล้วถ่ายคลิปไว้ เพื่อนำไปประกอบในสำนวนการสอบสวน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ 27 มี.ค. ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกตัว ดาบตำรวจ เข้าให้การในช่วงเช้าต่อไป

ที่มา:sanook

ผู้นำเสนอข่าว

ยัยแม่มด

Written by:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *