งานเข้าแน่! ปกครอง-ตำรวจ บุกทลาย “บาร์โฮส” เปิดโจ๋งครึ่มกลางเมืองพัทยา ผงะเจอทั้งยาเสพติด ถุงยางใช้แล้วทิ้งเกลื่อน ฉี่ม่วง 15 ราย พบเปิดโดยไม่มีใบอนุญาต เปิดเกินเวลา จ่อชงผู้ว่าฯ ชลบุรี ปิด 5 ปี
เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 16 ก.พ. 66 นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง น.ส.กมลชนก ก้อนสมบัติ ปลัดอำเภอบางละมุง พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เอนกศรี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.พิชิต ฉ่ำฮวบ สวป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังบุกเข้าตรวจสอบจับกุม ดรากอน แมนคลับ พัทยา เลขที่ 80/16 ภายในซอยพัทยากลาง 12 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังพบว่ามีการลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดจำนวนมาก รวมถึงสามารถควบคุมตัวผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วงอีก 15 ราย
โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำกำลังออกตรวจสอบสถานบริการภายในพื้นที่เมืองพัทยา พบว่าร้านดังกล่าวเปิดในลักษณะผับบาร์โฮสผู้ชาย ยังคงเปิดให้บริการ เปิดเพลงดังสนั่น มีนักท่องเที่ยวกว่าครึ่งร้อยกำลังดื่มเครื่องดื่ม เต้นตามจังหวะดนตรีอย่างเมามันส์ โดยมีพนักงานผู้ชายเดินให้บริการ เจ้าหน้าที่สั่งยุติกิจกรรมทั้งหมด ให้ดีเจปิดเพลงพร้อมเปิดไฟ ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนคัดแยกผู้ชายและผู้หญิง ตรวจค้นภายในร้านพบวัตถุคล้ายยาเสพติดจำนวนมาก บรรจุในซองซิป และซองซิปสำหรับแบ่งอีกจำนวนมาก ซุกซ่อนไว้ในตู้ล็อกเกอร์พนักงาน นอกจากนี้ยังพบซองซิปถูกทิ้งอยู่บนพื้นและถังขยะ รวมถึงยังพบพนักงานของร้านมีวัตถุคล้ายยาเสพติดอยู่ในกระเป๋ากางเกงอีกด้วย
แต่เจ้าหน้าที่ต้องถึงกับผงะ เมื่อพบถุงยางอนามัยที่ถูกใช้แล้วทิ้งบนพื้นทั้งฝั่งตัวผับ และภายในห้องแต่งตัวเป็นจำนวนมาก รวมถึงซองถุงยางอนามัยอีกหลายซองวางทิ้งไว้บนโต๊ะและโซฟา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายของกลุ่มนักเที่ยว พบว่ามีปัสสาวะสีม่วงถึง 15 ราย เป็นผู้ชาย 14 ราย ผู้หญิง 1 ราย
เบื้องต้นทางร้านไม่มีเอกสารการขออนุญาตเปิดร้าน เอกสารขออนุญาตจำหน่ายสุรา มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนรับเป็นผู้ดูแลร้าน และกลุ่มผู้มีปัสสาวะสีม่วง จำนวน 15 ราย พร้อมทั้งยาเสพติดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย
นอกจากนี้ นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง ยังกล่าวอีกว่า ร้านดรากอน แมนคลับ พัทยา ที่เปิดโดยไม่รับอนุญาต และเปิดเกินเวลา รวมทั้งปล่อยปะให้มียาเสพติดอยู่ภายในร้าน จะต้องทำหนังสือรายงานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเสนอปิดเป็นเวลา 5 ปีต่อไป.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
