จากกรณีที่ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ได้เห็นชอบการกำหนดออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน RO ลดลงเหลือจำนวน 510,043,387 หุ้น เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และเปลี่ยนอัตราการใช้สิทธิเป็น 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขาย 3 บาทต่อหุ้น ทดแทนมติเก่าที่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในอัตรา 1 ต่อ 1 โดย ในการออกหุ้นเพิ่มทุน และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน RO จำนวน 1,019,917,296 หุ้น
และมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อขายเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ PP) ให้แก่ บริษัท ยูนิสเตรทช์ จำกัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ GP Group จำนวน 66,666,666 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขาย 4.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 300,000,000 ล้านบาท โดยจะเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาในวันที่ 14 มี.ค. นี้
นางพิสมัย ลิขิตอำนวย กรรมการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สาเหตุของการปรับลดการเพิ่มทุนแบบ RO นั้น เนื่องจากหลังจาก JKN จัดมิสยูนิเวิร์สนั้น เราเห็นโอกาสที่จะเติบโตอย่างมาก ซึ่งการเพิ่มทุนจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งในระดับโลกได้ โดยเราจะมีเม็ดเงินเข้ามาจากการธุรกิจ MUO 1,200 ล้านบาท และเพิ่มทุน PP อีก 300 ล้านบาท ทำให้เรามีเงินทุนเพียงพอที่จะทำธุรกิจได้
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่า หากผู้ถือหุ้นรายย่อยใช้สิทธิไม่ครบจะไม่กระทบกับบริษัท เพราะบริษัทยังมีการเติบโตสูง ซึ่งเรามองว่าเรามีกระแสเงินสดเข้ามาสร้างการเติบโตในอนาคต และปัจจุบันเรามีเงินทุนมากพอที่จะชำระหนี้ที่จะครบกำหนด นอกจากนี้และสัดส่วนการเพิ่มทุนใหญ่ยังเป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่จะใส่เงินเพิ่มทุนอีกด้วย
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีกระแสข่าวเกี่ยวกับการลงทุนใน กลุ่มธุรกิจองค์กรมิสยูนิเวิร์ส หรือ MUO จำนวนมาก ทั้งนี้บริษัทขอยืนยันว่าการลงทุนดังกล่าวคุ้มค่า และปัจจุบันบริษัทได้สร้างรายได้และผ่านจุดคุ้มทุนเรียบร้อยแล้ว
“ที่ผ่านมาเราลงทุนใน MUO มีคำถามมาตลอด แต่เราก็สามารถคืนทุนใน 2 เดือนครึ่ง ดังนั้นเราไม่อยากให้ทุนในหุ้น JKN แบบการเล่นกาสิโน ลงเงินปุ๊บได้เงินเมื่อไหร่ แต่เราอยากให้ลงทุนกับเราไปในระยะยาวแบบ VI”
ทั้งนี้ JKN ตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2566 คาดว่าจะมีรายได้ 4,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโตถึง 80% โดยในฝั่ง MUO มั่นใจว่าปีนี้จะทำรายได้ 1,200 ล้านบาท โดยจะมีรายได้จากการประเทศเอลซัลวาดอร์เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โดยได้รับเงินประมาณ 400 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือน ก.พ.นี้
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมที่จะประกาศผู้ที่เข้าถือสิทธิเป็นเจ้าภาพอีก 2 ประเทศ 2568 อยู่ระหว่างการเตรียมเซ็นสัญญาในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกัน JKN มีแผนนำแบรนด์มิสยูนิเวิร์สต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคอีกหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์แรกที่จะเริ่มทำตลาดเครื่องดื่ม คาดจะเปิดตัวได้ในไตรมาสแรกปีนี้
สำหรับสัดส่วนรายได้ของ JKN ในปีนี้ จะมาจากรายได้หลักจะอยู่ที่ขายคอนเทนต์ 50% องค์กร MOU จะอยู่ที่ 25-30% และคอมเมิร์ซ 20-25% ทั้งนี้ในกลุ่ม GP Group ที่เข้ามาเพิ่มทุน นั้นมีความเข้มแข็งทางธุรกิจ มูลค่าของธุรกิจสูงถึง 4.2 หมื่นล้านบาท โดยทางกลุ่ม GP Group เข้ามาซื้อในราคาพรีเมียม ลงเงิน PP กว่า 300 ล้านบาท และมีศักยภาพในการร่วมกันช่วยสร้างการเติบโตทั้งร่วมกันได้