ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 มี.ค.66 ปิดที่ 1,593.37 จุด เพิ่มขึ้น 1.52 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 36,048.98 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 16.37 ล้านบาท
บล.เอเซียพลัส แนะนำซื้อหุ้นใหญ่ CBG, CK และ PTTEP ระบุว่า แม้ทางการสหรัฐฯ และยุโรป จะออกมาสร้างความมั่นใจในระบบสถาบันการเงิน แต่ยังไม่สามารถขจัดความกังวลของนักลงทุนและผู้ฝากเงินไปได้ทั้งหมด โดยยังคงมีการถอนเงินออกจากสถาบันการเงินขนาดกลาง-เล็ก ขณะที่ราคาหุ้นธนาคารปรับตัวลดลง
ทำให้ต้องมีการอัดฉีดเงินเพิ่มสภาพคล่องระบบธนาคารและสถาบันการเงินที่มีปัญหา โดย Fed ประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่งบดุล (Balance Sheet) แล้วกว่า 3.9 แสนล้านเหรียญ ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หนุนงบดุลของสหรัฐฯล่าสุดอยู่ที่ 8.78 ล้านล้านเหรียญ
ซึ่งที่สุดก็จะกลายเป็นเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ สิ่งที่ห่วงคือปัญหาเงินเฟ้อที่อาจลดลงช้ากว่าที่คาด หรืออาจกลับมาสูงขึ้น ขณะที่ต้องพะวงในเรื่องของปัญหาสถาบันการเงินที่ยังไม่จบ ภายใต้สถานการณ์นี้อาจเกิดเหตุการณ์ที่สร้างผลกระทบในเชิง Sentiment ให้กับตลาดหุ้นไทยได้ในอนาคต แม้ SET Index จะดีดตัวขึ้น แต่มูลค่าการซื้อขายลดลง ส่วนปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐาน ก็ยังอยู่ในภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูง
อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น เป็นหนึ่งในปัจจัยช่วยพยุงดัชนีหุ้น เนื่องจากในอดีตเวลามี QE เข้ามาในระบบ มักจะช่วยแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจให้ฟื้นได้ดีในระยะถัดไป สะท้อนได้ช่วงที่เกิด Covid-19 เดือน มี.ค. มีการ เพิ่ม QE เข้ามาในระบบกว่า 3 ล้านล้านเหรียญ หนุน SET ฟื้นขึ้นมาได้เร็ว
เช่นเดียวกับช่วงหลังวิกฤติซับไพร์ม ปี 2009–2012 มีการใช้ QE1, QE2 และ QE3 หุ้นไทยก็ฟื้นขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นใหญ่อย่างดัชนี SET50 ปรับขึ้นได้ดีกว่าหุ้นเล็กอย่างดัชนี MAI ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพคล่องจากต่างประเทศที่เข้ามาช่วยหนุนดัชนี
สอดคล้องกับปัจจุบัน ที่เริ่มเห็น Fund Flow ขายสุทธิน้อยลง และมีการสลับมาซื้อบ้างในบางวัน หลัง Fed มีการเพิ่มสภาพคล่อง ขณะที่หุ้นใหญ่ SET50 และหุ้นเล็ก MAI เคยปรับตัวลงไปเกือบ -7% ในเดือนนี้ แต่ SET50 ฟื้นขึ้นมาได้เร็วกว่าเหลือ -1.37%mtd ส่วนหุ้นเล็กอย่าง MAI ยังฟื้นช้ากว่า -5.2%mtd
ดังนั้น ยามปัจจัยภายนอกไม่แน่นอน แต่มีสภาพคล่องคอยพยุงสินทรัพย์เสี่ยง กลยุทธ์ลงทุน จึงเลือกหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก แนะนำหุ้นอิงราคาน้ำมัน PTTEP, หุ้นรับเหมาใหญ่สุด CK และหุ้นใหญ่รับธีมหน้าร้อน CBG!!
