เบรกขึ้นราคา “นมผงเด็ก-ปลากระป๋อง” รัฐบาลย้ำเป็นสินค้าควบคุม

เบรกขึ้นราคา “นมผงเด็ก-ปลากระป๋อง” รัฐบาลย้ำเป็นสินค้าควบคุม

“จุรินทร์” สั่งตามติดราคาสินค้าควบคุมใกล้ชิด กรมการค้าภายในเบรกขึ้นราคา “นมผงเด็กและปลากระป๋อง” ย้ำ ยังไม่มีการอนุมัติให้ปรับขึ้น

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (29 มกราคม 2566) ว่า ด้วยสถานการณ์เงินเฟ้อที่ประสบอยู่ทั่วโลก ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศขยับตัวสูงขึ้นตาม รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจ โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปกำกับดูแลราคาอย่างเต็มที่ ให้นโยบาย และการดำเนินการใดให้ถือหลักทุกฝ่ายสามารถอยู่ได้ ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ให้เกิดความสมดุล ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย

ล่าสุดมีข่าวว่าจะปรับราคานมผงเลี้ยงเด็กแรกเกิด เพิ่มขึ้น 10% ส่วนปลากระป๋องปรับขึ้นราคากระป๋องละ 2 บาทนั้น ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า สินค้าทั้ง 2 รายการ เป็นสินค้าควบคุม หากจะปรับราคาจะต้องยื่นขออนุญาตมายังกรมการค้าภายใน และทางกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตสินค้าตรึงราคาสินค้าในราคาเดิมเพื่อไม่ซ้ำเติมค่าครองชีพประชาชน พร้อมย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติให้สินค้าทั้ง 2 รายการปรับขึ้นจากราคาเดิม ส่วนราคาที่ขยับขึ้นบ้างขณะนี้อาจเป็นการขอปรับส่วนลดทางการค้าของผู้ผลิตให้น้อยลง ทำให้ราคาจำหน่ายในท้องตลาดสูงขึ้น

ส่วนกรณีนมถั่วเหลืองจะปรับขึ้นราคากล่องละ 1-2 บาท เนื่องจากนมถั่วเหลืองเป็นสินค้าทางเลือก ไม่ใช่สินค้าควบคุมที่ต้องขออนุญาต แต่จะต้องกำหนดราคาให้สอดคล้องตามต้นทุนไม่ให้สูงเกินจริง ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประสานขอดูโครงสร้างต้นทุนว่าอัตราที่ปรับเหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนหรือไม่

รองโฆษกรัฐบาล ระบุต่อไปว่า ขณะนี้มีสินค้าและบริการควบคุมจำนวน 56 รายการ ซึ่ง นายจุรินทร์ สั่งการให้ติดตามการปรับเปลี่ยนราคาอย่างใกล้ชิด โดยระบบของกรมการค้าภายใน กำหนดแนวทางไว้คือ สินค้าและบริการที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ เช่น เนื้อหมูชำแหละ ไก่สด น้ำมันพืช จะมีการติดตามราคาและภาวะทั้งในประเทศ รวมถึงต่างประเทศเป็นประจำทุกวัน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบและปฏิบัติการตรวจสอบราคาจำหน่ายเข้มงวดและต่อเนื่อง

ขณะที่สินค้าสินค้าและบริการที่ต้องติดตามภาวะและสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เช่น สบู่ น้ำยาล้างจาน อาหารปรุงสำเร็จ นมผง กระดาษชำระ หากตรวจพบภาวะวิกฤติ ทางกรมการค้าภายในอาจกำหนดมาตรการเพิ่มเติม ทั้งการกำหนดสินค้าและบริการควบคุมเพิ่มเติม ควบคุมราคาขาย กำหนดให้ปันส่วน เป็นต้น นอกจากนี้ สินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น เช่น แชมพู สบู่เหลว หากจะมีการเปลี่ยนขนาดบรรจุ เปลี่ยนสูตร หรือเปลี่ยนกลิ่น เพื่อวางจำหน่ายใหม่ ผู้ประกอบการต้องแจ้งมายังกรมการค้าภายในให้ทราบทุกครั้งก่อนจะนำไปวางจำหน่ายไม่เช่นนั้นถือว่ามีความผิดตามระเบียบของกรมการค้าภายใน.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,257 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed