รวบปลัดอําเภอคนอิทธิพล ขัดแย้งประมูลงาน ร่วมสมุนเผาเสาไฟ

“บิ๊กโจ๊ก” นำทีมลุยจี้จับปลัดอำเภอห้วยคต จ.อุทัยธานี ร่วมวางเพลิงเผาเสาไฟฟ้าส่องสว่างถึง 28 ต้นเมื่อกลางปี 65 หลังชุดสืบสวนล็อกตัวคนก่อเหตุ ก่อนเค้นสอบขยายผลนำกำลังบุกรวบเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคาร้านค้าสวัสดิการ วนอุทยานห้วยคต ส่วนปลัดชิงมอบตัวปฏิเสธข้อหาพร้อมยื่นประกันสู้คดี แฉเบื้องหลังปมขัดแย้งประมูลงาน โยงถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

จับปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าร่วมเผาเสาไฟฟ้าส่องสว่างวอดเสียหายถึง 28 ต้น เปิดเผยกลางดึกวันที่ 4 ม.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปที่ สภ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบวางเพลิงเผาเสาไฟฟ้าส่องสว่างเสียหายจำนวน 28 ต้น บริเวณถนนสายห้วยช้าง-คูคต ต.ห้วยคต อ.ห้วยคต เมื่อวันที่ 19-20 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา หลังรับมอบหมายจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้เข้าควบคุมสั่งการการสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ มีความเกี่ยวเนื่องกับคดีอื่นๆหลายคดีในลักษณะเดียวกันอีก 9 เหตุการณ์ใน 7 พื้นที่ 2 จังหวัดที่มีลักษณะพฤติการณ์ใกล้เคียงกัน อาจมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางธุรกิจ เกี่ยวข้องกับการประมูลงานในระดับท้องถิ่น และอาจมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวสั่งการให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จ.ตราด และ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมด้วยทีมพนักงานสืบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 587/2565 ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อเร่งรัดสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว คดีดังกล่าวตำรวจทำงานอย่างหนัก เพื่อกดดันผู้ร่วมก่อเหตุจนกระทั่งวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายอนุชา หรือบีม สงวนทรัพย์ อายุ 19 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาตัดสินใจเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยคต พร้อมให้การ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุวางเพลิงเผาเสาไฟฟ้าส่องสว่างดังกล่าว และรับว่าก่อเหตุเพียงผู้เดียว พนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคำให้การมีพิรุธหลายอย่าง เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายอนุชากระทำความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ทำให้เสียทรัพย์

ต่อมาชุดสืบสวนสอบสวนเดินหน้าสอบขยายผลเพิ่มเติม ทำให้ทราบว่าพฤติการณ์ตามที่นายอนุชาให้การรับสารภาพไม่เป็นความจริง ก่อนนำไปสู่การ รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ได้ร่วมก่อเหตุในคดีดังกล่าวเพิ่มเติม ประกอบด้วย นายสุรสีห์ ศิลาภิวัฒน์ หรือปลัดแมว อายุ 45 ปี ปลัดอำเภอห้วยคต ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1/2566 ลงวันที่ 2 ม.ค.2566 และนายวิรัตน์ หรือต้อม จันทร์แทน อายุ 34 ปี พนักงานราชการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า วนอุทยานห้วยคต ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2/2566 ลงวันที่ 2 ม.ค.2566 ข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และซ่องโจร ต่อมาวันที่ 3 ม.ค. ชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมนายวิรัตน์ได้ที่ร้านค้าสวัสดิการ วนอุทยานห้วยคต ส่วนนายสุรสีห์ หลบหนีก่อนติดต่อมอบตัวพร้อมให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวไป

“คดีนี้เป็นหนึ่งในคดีที่มีลักษณะพฤติการณ์สร้างความหวาดกลัวให้กับบุคคลและประชาชนในพื้นที่ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ หลังจากสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏขึ้น ก่อนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และสืบสวนเพิ่มเติมว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ รวมถึงขยายผลไปยังคดีอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.อุทัยธานี และ จ.นครสวรรค์ด้วย” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว