พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิษณุโลก ตชด.31 จิตอาสา ผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเด็กยอดกตัญญู น้องหว้า วัย 10 ขวบ

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิษณุโลก ตชด.31 จิตอาสา ผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเด็กยอดกตัญญู น้องหว้า วัย 10 ขวบ

เด็กยอดกตัญญู น้องหว้า วัย 10 ขวบ เดินเท้ากลับบ้านกลางวันป้อนอาหารทางสายปู่ ย่า ป่วยติดเตียง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิษณุโลก ตชด.31 จิตอาสา ผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ

ตามที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อออนไลน์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 กรณี “เด็ก 10 ขวบ ใช้เวลาพักเที่ยง เดินทางกลับบ้าน ช่วยดูแลปู่ติดเตียง ย่าชรา พ่อป่วยจิต” นั้น

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เวลา 11.30 น. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้มอบหมายให้ นางพิชญา ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการคนพิการ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น และร่วมประชุมกับทีมสหวิชาชีพกับหน่วยงานในพื้นที่แล้ว

โดยได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและการให้ความช่วยเหลือครอบครัว เด็กหญิงธัญญาภรณ์ วุฒิทา อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านลาดเรือ อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 3 ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก มีสมาชิกครอบครัว จำนวน 5 คน รวมตัวเด็ก ประกอบด้วย

1) นายจักร์ วุฒิทา อายุ 85 ปี (ปู่) พิการทางการเคลื่อนไหว นอนติดเตียง และมีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง มะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย และไขมัน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชาติตระการและโรงพยาบาลพุทธชินราช

2) นางทองดี ราชเพียแก้ว อายุ 81 ปี (ย่า) มีโรคประจำตัวคือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง
3) นายนิสม วุฒิทา อายุ 49 ปี (บิดา) ประกอบอาชีพรับจ้าง ติดสุรา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรักษาและบำบัดสุราเรื้อรัง

4) น.ส.ยุพา วุฒิทา อายุ 17 ปี (พี่สาว) กำลังเรียน ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปี 1 วิทยาลัยพณิชยการบึงพระพิษณุโลก ซึ่งได้รับทุนพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี

ส่วนมารดาเด็กเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ตั้งแต่เด็กอายุ 3 ปี ทั้งนี้ เด็กมีพี่สาวอีก 1 คน ชื่อ นางสุนันทา สิงห์คำ มีครอบครัวแล้ว และอาศัยอยู่หมู่ที่ 2 บ้านขวดน้ำมัน ประกอบอาชีพเกษตรกร และมาดูแลความเป็นอยู่ของปู่ย่าทุกวัน

ส่วน รายได้ครอบครัวมาจาก การรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของปู่ย่า คนละ 800 บาทต่อเดือน และเบี้ยความพิการของปู่เดือนละ 800 บาท รวมเดือนละ 2,400 บาท ไม่ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากไม่ได้ไปยืนยันตน เพราะขณะนั้นปู่ของเด็กเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล สมาชิกครอบครัวต้องดูแลปู่ ทำให้ไม่ได้ไปยืนยันตนภายในระยะเวลาที่กำหนด

พบสภาพปัญหา คือ เนื่องจากปู่ของเด็กมีความพิการติดเตียงและป่วยเรื้อรัง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องให้อาหารเหลวผ่านสายยางที่จมูก มีค่าใช้จ่ายในการดูแล ได้แก่ อาหารเหลว ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เป็นต้น ยังต้องพบแพทย์ต่อเนื่อง ย่า บิดา และพี่สาวของเด็กต้องคอยดูแลใกล้ชิด ประกอบกับครอบครัวมีฐานะยากจน ประสบปัญหาด้านรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพและเป็นค่าใช้จ่ายการดูแลปู่ของเด็ก

ครอบครัวของน้องหว้า เด็กหญิงธัญญาภรณ์ วุฒิทา อายุ 10 ปี เคยได้รับการช่วยเหลือแล้ว ดังนี้
ด้านที่อยู่อาศัย : ได้รับงบประมาณสร้างบ้านหลังใหม่จากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 บ้านเลขที่ 19/1 หมู่ที่ 3 ตำบลบ่อภาค ซึ่งสร้างอยู่ใกล้กับบ้านหลังเดิม บิดาเด็กพักอาศัยอยู่คนเดียว ส่วนปู่ย่าและเด็กยังไม่ย้ายไปอยู่อาศัย เนื่องจากเคยชินกับบ้านหลังเดิม และองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค เบิกจ่ายเงินเบี้ยยังชีพแก่ปู่ย่าของเด็กคนละ 800 บาทต่อเดือน และเบี้ยความพิการแก่ปู่ เดือนละ 800 บาท และ ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค ให้การดูแลช่วยเหลือครอบครัวต่อเนื่อง โดยพาไปพบแพทย์ ช่วยเหลือผ้าอ้อมสำเร็จรูป เป็นต้น

ซึ่งในครั้งนี้ได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดย ปลัดอำเภอชาติตระการ และผู้บริหาร องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค เดินทางลงพื้นที่ เยี่ยมครอบครัว และมอบเครื่องอุโภคบริโภค, ตำรวจตระเวนชายที่ 31 และจิตอาสาพระราชทาน เดินทางลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และจักรยานให้แก่เด็ก และ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภค ผ้าห่ม ไม้เท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป และจะพิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง จำนวนเงิน 3,000 บาท เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครอบครัว

สำหรับการให้ความช่วยเหลือในระยะยาว

1) ด้านที่อยู่อาศัย : สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก จะสนับสนุนงบประมาณปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ วงเงิน 40,000 บาท โดย องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค จะประมาณการค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงบ้านเพื่อให้เหมาะสมต่อการพักอาศัยสำหรับปู่ของเด็ก

นอกจากนี้ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 จะช่วยเหลืองบประมาณและกำลังพลในการซ่อมแซมบ้านและห้องน้ำ/สุขา รวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค ประมาณการค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง/ซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัย เพื่อของบประมาณจาก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก รวมถึง เปลี่ยนระบบไฟฟ้าภายในบ้านให้ปลอดภัยและมั่นคง

ด้านการรักษาพยาบาล : โดย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ่อภาค, องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค, อาสาสมัครสาธารณสุข , และผู้นำชุมชน ดูแลด้านสุขภาพสมาชิกครอบครัว สำหรับปู่ของเด็ก จะดูแลอาหารเหลว ยา พาไปพบแพทย์ตามนัด

ส่วนนายนิสมฯ (บิดาเด็ก) โดยพาเข้ารับการรักษาบำบัดสุราอีกครั้ง ดูแลการไปรับยาและพบแพทย์ และผู้นำชุมชนกำกับบิดาเด็กให้ดื่มสุราน้อยลง

และจะพา นางทองดีฯ ซึ่งเป็นย่าของเด็ก ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินความพิการทางการได้ยินที่โรงพยาบาลพุทธชินราช และขอยื่นขอรับเงินเบี้ยความพิการที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค เดือนละ 800 บาท และดูแลความสะอาดบริเวณบ้าน

ด้านค่าใช้จ่ายในการครองชีพของเด็กและครอบครัว : สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ครอบครัว ได้แก่ เงินสงเคราะห์รายบุคคล จากกองทุนคุ้มครองเด็ก เพื่อช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูเด็กค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ทุนประกอบอาชีพ และเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กและครอบครัว, เงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน รวมถึง เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในสภาวะยากลำบาก ต่อไป

และองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค พร้อมผู้นำชุมชน จะติดตามดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวอย่างต่อเนื่อง

ที่มา:ข่าวความมั่นคงออนไลน์

ผู้นำเสนอข่าว

ยัยแม่มด

Written by:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *