คืบส่วยอธิบดี ปปป.สอบ 17 เจ้าหน้าที่ เป็นพยานมัด จ่อเรียกอีก 14 ยัดเงิน 21 ซอง

คืบส่วยอธิบดี ปปป.สอบ 17 เจ้าหน้าที่ เป็นพยานมัด จ่อเรียกอีก 14 ยัดเงิน 21 ซอง

เจ้าหน้าที่กรมอุทยาน 17 คน ทยอยเข้าให้ปากคำตำรวจ ปปป. ในฐานะพยานคดีถูกอธิบดีเรียกรับเงินวิ่งเต้นโยกย้าย “ผู้การเต่า” เผยชื่อบนซองเงินของกลาง 21 ซอง ทราบตัวแล้ว 14 คน เป็นระดับหัวหน้าหน่วยงาน ออกหมายเรียก 6 คน ให้มาวันที่ 11 ม.ค. และจะออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 8 คน ให้มาในวันที่ 12 ม.ค. ส่วนเส้นทางการเงิน ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงปลายทางเงินที่ถูกเรียกเก็บ ส่วนกรณี “อธิบดีฉาว” ได้ประกันตัว ชั่วคราว ยังไม่พบมีการข่มขู่หรือยุ่งเหยิงพยาน

ความคืบหน้ากรณีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับเงินโยกย้ายตำแหน่งและถูกตำรวจ บก.ปปป.และหน่วยงานเกี่ยวข้องบุกจับคาห้องทำงาน ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กลุ่มเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ทยอยเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก. ปปป. พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.1 บก.ปปป. และพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เพื่อให้ปากคำกรณีถูกนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับเงินโยกย้ายตำแหน่ง

สำหรับกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่จะมาให้ปากคำในวันนี้ มี 17 คน อยู่ในระดับหัวหน้าหน่วยและเจ้าหน้าที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมี 14 คน ที่นำเงิน 98,000 บาท ไปให้นายรัชฎา กลุ่มที่ 2 พยานที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนจากการที่นายรัชฎาเรียกรับเงิน 3 คน ขณะนี้ทยอยมาเข้าพบแล้วบางส่วน

ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เผยว่า พยานที่มาในวันนี้เป็นกลุ่มของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี เป็นกลุ่มที่นำเงิน 98,000 บาท มาส่งให้นายรัชฎา เป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเรียกรับเงิน จากการสอบปากคำทุกคนให้การเป็นประโยชน์และเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าถูกบังคับ โดยส่วนใหญ่ไม่ยินยอมและไม่สมัครใจ แต่สาเหตุที่ต้องยินยอมเพราะเกรงกลัวอำนาจ ยอมทำตามข้อเรียกร้องของนายรัชฎา

ผบก.ปปป.กล่าวต่อว่า ส่วนรายชื่อที่ปรากฏบนซองเงินของกลางภายในห้องทำงาน 21 ซอง ตรวจสอบทราบบุคคลได้แล้ว 14 คน เป็นระดับหัวหน้าของหน่วยงานนั้นๆที่กล่าวอ้างว่าถูกเรียกเก็บเงิน ล่าสุดได้ออกหมายเรียกแล้ว 6 คนให้มาวันที่ 11 ม.ค. และจะออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 8 คนให้มาในวันที่ 12 ม.ค.เวลา 10.00 น. มีบางส่วนยินยอมจะเข้ามาให้ปากคำในฐานะพยาน ส่วนใครจะมาหรือไม่มาพบพนักงานสอบสวนเป็นสิทธิของพยาน แต่ในทางคดี อนาคตพยานจะต้องถูก ป.ป.ช.เรียกสอบปากคำเพิ่มเติมอยู่ดี

ผบก.ปปป.กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการสอบเส้นทาง การเงิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงปลายทางของเงินที่ถูกเรียกเก็บ ยืนยันว่าหากเชื่อมโยงถึงใคร จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหลังจากที่นายรัชฎาได้รับการประกันตัวแล้วจะเข้ายุ่งเหยิงข่มขู่กับพยานหลักฐานหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีการไปยุ่งเหยิงหรือข่มขู่พยาน

มีรายงานว่า 1 ในพยานที่มาเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เผยกับสื่อมวลชนว่า ยอมรับว่าการให้ข้อมูลครั้งนี้อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคต แต่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและผลประโยชน์ของประเทศชาติ จำเป็นต้องออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องของการถูกตัดงบประมาณการดูแลป่าและสัตว์ป่า ขณะที่ในส่วนของการทำงานมีความยากลำบากมากขึ้น ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าคดีความที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและหน่วยงานทั้งหมด อยากให้สังคมเข้าใจการทำงานของบุคลากรกรมอุทยานฯ เพราะที่ผ่านมาหลายคนมีปัญหาเรื่องหนี้สิน เนื่องจากงบประมาณการดูแลสัตว์ป่าถูกตัดออกไปมากถึง 70% ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำเงินมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ และดูแลลูกน้อง

พยานคนดังกล่าวเผยต่ออีกว่า ขณะที่ในส่วนของการให้ปากคำ รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนรายละเอียดของคดีเป็นไปตามที่หัวหน้าชัยวัฒน์ร้องเรียนไว้ ส่วนที่มีข่าวลือว่า มีการข่มขู่พยานในคดี ส่วนตัวยังไม่ได้รับการข่มขู่จากใคร รวมทั้งไม่มีการกดดันจากผู้ใหญ่ในกระทรวง ส่วนคนอื่นไม่ทราบ ทั้งนี้ ไม่ได้กลัวการถูกข่มขู่

ผู้นำเสนอข่าว

Lemon

Written by:

720 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *