เด็กชายวัย 4 ขวบ เสียชีวิต พ่อแม่ตัดสินใจทำบุญใหญ่ให้ลูก บริจาคดวงตาช่วยส่งต่อแสงสวางให้คนอื่นได้ถึง 2 คน
วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ นายแพทย์นพดล พิษณุวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ มอบประกาศเกียรติคุณ และหรีดเคารพศพ ให้แก่ ด.ช.ธนกฤติ ภาโนมัย อายุ 4 ปี ชาว ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ที่เสียชีวิต และญาติได้บริจาคดวงตาให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตาให้สามารถมองเห็นได้ถึง 2 คน โดยมีพ่อแม่ และญาติของผู้เสียชีวิต เป็นตัวแทนรับมอบ ณ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
นางสาววารุณี และนายธนวัฒน์ ภาโนมัย พ่อแม่ของ ด.ช.ธนกฤติ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาลูกชายบ่นว่าปวดหัวและมีอาการอาเจียนเล็กน้อย ตนจึงได้พาไปตรวจที่โรงพยาบาลวังโป่ง แต่อาการไม่ดีขึ้น เริ่มบ่นว่ามีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง จนบางครั้งใช้มือทุบไปที่หัวของตนเอง รวมทั้งมีอาการซึม
โรงพยาบาลวังโป่งจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ แพทย์ได้ทำการเอ็กเรย์ด้วยเครื่อง CT สแกน จึงพบว่าในกะโหลกมีปริมาณน้ำมากผิดปกติ และพบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่บริเวณสมองด้านหลัง โดยก้อนเนื้อได้กดทับเนื้อสมองจนสมองตายไปบางส่วน จึงได้ทำการเจาะเพื่อระบายน้ำออกจากสมอง แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
กระทั่งหมอมาแจ้งว่าลูกชายมีภาวะสมองตาย ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว ตนจึงเอ่ยปากถามคุณหมอว่า ร่างกายและอวัยวะของลูกชาย จะสามารถนำไปช่วยเหลือหรือบริจาคได้หรือไม่ เพราะตนเห็นว่าอยากจะทำบุญใหญ่ให้ลูกชาย
ซึ่งหมอก็ได้แจ้งว่าสามารถบริจาคได้เพียงกระจกตาทั้ง 2 ข้าง เท่านั้น เนื่องจากติดข้อจำกัดหลายอย่าง ตนจึงได้บริจาคกระจกตาให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่น เป็นการทำบุญให้ลูกเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อที่ผลบุญจะได้ส่งให้ลูกชายไปอยู่ในภพภูมิที่ดี
พ่อแม่ของ ด.ช.ธนกฤติ เปิดเผยอีกว่า ตามปกติลูกชายมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลย กำลังเรียนอยู่ระดับชั้นอนุบาล เป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส ชอบแสดงออก เป็นที่รักของเพื่อน ๆ ในห้องเรียน
กระทั่งวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไปเที่ยวและร่วมงานวันเด็กของโรงเรียน หลังจากกลับมาแล้วลูกชายบ่นว่าปวดหัวและมีอาการอาเจียนเล็กน้อย ตนจึงได้พาไปตรวจที่โรงพยาบาล ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการเข้าโรงพยาบาลครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้าย
ขณะที่ นายแพทย์นพดล พิษณุวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า คนไข้มาด้วยอาการปวดหัวอย่างรุนแรง แพทย์จึงได้รีบนำเข้าเครื่อง CTสแกน จึงทำให้พบว่าสมองส่วนท้ายทอยมีก้อนเนื้อกดทับอยู่จนเนื้อสมองบางส่วนตาย จึงได้ให้การรักษาและดูแลอย่างเต็มความสามารถ
แต่เนื่องจากคนไข้เกิดภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้เรียกพ่อกับแม่ของคนไข้มาพูดคุย ซึ่งพ่อกับแม่ของคนไข้ก็เข้าใจ และได้แจ้งความประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะทุกส่วนของลูกชาย เพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือคนไข้รายอื่น ๆ แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดของภาวะร่างกายของคนไข้ จึงสามารถบริจาคได้เพียงกระจกตาทั้ง 2 ข้าง
อย่างไรก็ตาม ก็สามารถนำไปช่วยเหลือให้ผู้อื่นสามารถมองเห็นแสงสว่างได้อีกถึง 2 คน
ที่มา:sanook