องคมนตรี ติดตามผลการดำเนินงานรร.พระดาบถ จ.ยะลา ย้ำ!! ยึดหลักพระบรมราโชบาย
ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน และกวดขันต่อเนื่อง เตรียมดันสู่ตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ
วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรีในฐานะประธาน คณะกรรมการบริหาร
สถานุศึกษาโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงพื้นโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้
อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานและการจัดการเรียนการสอนของเยาวชนในรุ่นที่ ๑๒และมอบของที่ระลึกแก่ผู้สนับสนุนโครงการ ฯ โดยมีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมพลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ ๔ /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน เข้าร่วม
พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี กล่าวว่า การริเริ่มที่จะพัฒนาเยาวชนของโรงเรียนพระดาบถจะต้อง
ยึดหลักพระบรมราโขบายนำมาสร้างความมั่นคงในอาชีพให้กับเยาวชนอย่างมีคุณภาพ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน
และสอดคล้องกับตลาดแรงงาน อีกทั้งยังได้เน้นย้ำให้ทางโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันติดตาม
การเรียนการสอนของเด็กอย่างต่อเนื่องทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อให้เยาวชนได้มีการพัฒนาและนำความรู้ไปต่อยอดเป็นอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้อย่างมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานได้ในอนาคต
นอกจากนี้องคมนตรี ฯ ยังได้เยี่ยมชมบูธการให้บริการจากศิษย์เก่าโรงเรียนพระดาบถที่ร่วมกับเครือข่าย
ร้านค้าและผู้ประกอบการภาคเอกชน อาทิ การตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์และรถยนต์ การตรวจเช็คสภาพ
เครื่องจักรกลการเกษตร การให้บริการตรวจเช็คสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า การให้บริการเชื่อมงานเหล็ก และอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามการจัดตั้งโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการสนองแนวทางพระราชดำริฯ
ที่ทรงห่วงใยเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา
จึงได้มีการพระราชทานแนวทางทางการศึกษาตามรูปแบบโรงเรียนพระดาบสมาขยายผลให้เหมาะสมกับบริบท
ทางสังคม ศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่น แก่เยาวชนนอกระบบการศึกษาในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมูลนิธิพระดาบสร่วมกับศอ.บต.ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน พัฒนาชุมชนและสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน
จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ จนถึงปัจจุบัน โดยมีหลักสูตรสาขา อาทิ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์
ช่างซ่อมรถยนต์และเครื่องจักรกลการเกษตร ช่างเชื่อม และช่างไฟฟ้า และศิษย์เก่าที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วตั้งแต่รุ่นที่ ๑ – รุ่นที่ ๑6 รวมจำนวน ๗๖๘ คน และในรุ่นที่ ๑๓ เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ถึงวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๖
หากสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0๗๓-๒๕๙-๙๔๙ ทั้งนี้เพื่อมุ่งให้เยาวชนสามารถเติบโต
เป็นคนดีพร้อมนำความรู้กลับมาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างสุจริต ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาบ้านเกิดและสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
Very interesting details you have mentioned, thank you for posting.Blog range