“มาโน” ลั่น ไทยได้เปรียบกัมพูชาทุกประตู มั่นใจชนะ เข้ารอบชัวร์ ส่วนคู่แข่งก็บอก อย่าหวังจะผ่านไปง่ายๆ
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริคคัพ 2022” นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ในวันที่ 2 ม.ค.66 เกมแย่งเข้ารอบ ในกลุ่ม A “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พบ “นักรบอังกอร์” กัมพูชา เตะเวลา 19.30 น. ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถ่ายทอดสด MCOT HD (ช่อง 9) และ ทีสปอร์ตส์ อีกคู่กลุ่มเดียวกัน ฟิลิปปินส์ พบ อินโดนีเซีย
ผลงานของทีมชาติไทย 3 นัดแรก ถล่ม บรูไน 5-0, ชนะ ฟิลิปปินส์ 4-0, เสมอ อินโดนีเซีย 1-1 ส่วน กัมพูชา ของกุนซือคู่ชาวญี่ปุ่น เคสึเกะ ฮอนดะ ตำนานแข้งซามูไร กับ ริว ฮิโรเสะ ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-2, แพ้ อินโดนีเซีย 1-2 และล่าสุด ชนะ บรูไน 5-1
สถานการณ์กลุ่มนี้ มี 3 ทีม แย่งกันเข้ารอบรองชนะเลิศ คือ “จ่าฝูง” ไทย กับ อินโดนีเซีย 7 แต้ม และ กัมพูชา 6 แต้ม โดย ไทย ขอแค่เสมอ ก็การันตีเข้ารอบ เช่นเดียวกับ อินโดฯ ที่จ่อเต็มที หากมีแต้มจากฟิลิปปินส์ ก็ฉลุยชัวร์ ส่วนกัมพูชา จะสร้างประวัติศาสตร์ เข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก โจทย์เดียวคือต้องบุกชนะไทย
ล่าสุดวันที่ 1 ม.ค. มีการแถลงข่าวก่อนเกม มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เป้าหมายคือผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และต้องเก็บชัยชนะ ไทยอยู่ในจุดที่ดี ได้เล่นในบ้าน ทุกคนก็พร้อมและมั่นใจว่าจะเก็บชัยชนะ ส่วนจะหมุนเวียนนักเตะหรือไม่นั้น ต้องตัดสินใจกันอีกครั้งเพราะยังมีเวลา
มาโน ยังกล่าวถึง เคสึเกะ ฮอนดะ ตำนานแข้งทีมชาติญี่ปุ่น ที่เป็นโค้ชกัมพูชาว่า ฮอนดะ เป็นโค้ชที่ดีและมีแนวทางที่ชัดเจนในการคุมกัมพูชา ทำทีมมาหลายปีแล้ว และได้เจอกันในซีเกมส์ และจากนั้นก็มาชุดนี้หลายคน สำหรับไทยไม่ใช่ปัญหา แต่ก็ประมาทไม่ได้ มั่นใจว่าจะชนะ กัมพูชาเป็นทีมที่มีนักเตะอายุไม่เยอะ และเล่นด้วยกันมานาน มีแนวทางชัดเจนคือการเล่นเกมรุก สร้างเกมจากแดนหลัง
ด้าน ริว ฮิโรเซะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติกัมพูชา กล่าวว่า เกมนี้มีความหมายกับทุกทีม มาเยือนไทยด้วยความหวัง แม้เกมนี้ทีมชาติไทยจะได้เล่นในบ้าน แต่กัมพูชาไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆ ทีมชาติไทย ครองบอลได้ดี ต้องหาวิธีหยุดและสร้างโอกาสทำประตู ผมเห็นนักเตะกัมพูชา พัฒนามาตลอด 3 เกม ส่วนเกมนี้มีอาการล้าจากการเดินทาง แต่มั่นใจว่าพร้อม… สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/1851398/?dc_data=18796911_vivo-browser-thailand-top&utm_source=taboola&utm_medium=taboola_news
