อดีตครูสาว ที่ก่อเหตุวิ่งราวทองร้านทองที่เสลภูมิ ร้อยเอ็ด ในวันครู สารภาพติดหนี้นอกระบบ ถูกตามทวงจนกดดัน แม่ก็ป่วยต้องรักษาตา เลยตัดสินใจยืม จยย.คนรู้จักมาก่อเหตุ แต่ไม่รอดถูกพนักงานสาวตามกระโดดถีบ แล้วรุมกันจับตัว ห่วงลูกวัย 6 ขวบ ตัวเองติดคุก ตายายจะเลี้ยงหลานอย่างไร
วันที่ 17 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป สภ.เสลภูมิ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีกรณี น.ส.แมว (นามสมมติ) อายุ 32 ปี อดีตครูสาววิ่งราวทองในร้านทอง ต.เกาะแก้ว อ.เสลภูมิ ถูกพนักงานหญิงในร้านถีบเพื่อหยุดยั้งคนร้าย ขณะกำลังจะขี่ จยย.หลบหนี จากการสอบสวนล่าสุด ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ส่วนปมเหตุเกิดจากก่อนหน้านี้ได้ไปกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้มา 70,000 บาท และได้จ่ายคืนไป 20,000 บาท แต่โดนข่มขู่จากเจ้าหนี้ กลัวว่าทางครอบครัวจะโดนเจ้าหนี้ทำร้าย จึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุโดยไปยืมรถ จยย.คนรู้จักมาใช้ก่อเหตุ ส่วนที่บอกว่าเป็นครู ตนเคยเป็นครูอัตราจ้างโรงเรียนเอกชน ใน อ.ธวัชบุรี เพียง 1 เดือนแล้วลาออกเพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว ตอนนี้เป็นห่วงพ่อและแม่ที่ต้องผ่าตัดรักษาดวงตา ว่าจะเลี้ยงดูลูกของตนอายุ 6 ขวบ ต่อไปได้อย่างไร เพราะพ่อแม่อายุมากแล้ว
ด้าน ดร.ครรชิต วรรณชา ศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เดินทางมาให้กำลังใจกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอดีตครูอัตราจ้างโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอธวัชบุรี จากการสอบถามพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ บอกว่ามีความจำเป็น และหาทางออกไม่ได้เรื่องหนี้สินที่กู้ยืมมาจากแหล่งเงินทุน ประกอบกับจะนำเงินไปใช้รักษาดวงตาของแม่ จึงตัดสินใจก่อเหตุโดยไม่มีการวางแผนไว้ก่อน แต่เป็นการฉุกคิดขึ้นชั่วขณะ ซึ่งตนก็ได้พูดให้กำลังใจว่า ขอให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี หลังจากพ้นโทษออกมาก็ขอให้ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง มีระเบียบวินัยในการใช้เงิน เพื่อไม่ให้เป็นหนี้อีก
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/