“พิชัย” ยอมรับเจรจาสหรัฐฯ ห่วงเรื่องอื่นนอกเหนือภาษี เหตุกติกาแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ยืนยันไทยเป็นกลางสงครามการค้า หลายเรื่องอาเซียนต้องเกาะกลุ่มกัน ไม่ห่วงปมนักวิชาการอเมริกันถูกจับ
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 1 พ.ค. 2596 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมในการเจรจากับสหรัฐอเมริกาว่า ในเรื่องกำแพงภาษีได้เตรียมไปตรงจุดแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปเข้าใจว่าทางฝั่งสหรัฐฯ ต้องการดูแผนที่สามารถจับต้องได้มากขึ้น และทั้ง 2 ประเทศได้ผลประโยชน์อะไรร่วมกันบ้าง เขาคงอยากดูถึงความเป็นไปได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราได้ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แต่ที่เราห่วงคือ อันที่ไม่เกี่ยวกับภาษีมากกว่า เช่น เรื่องกติกาต่าง ๆ ซึ่งแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯ คงพิจารณาว่าบ้านเรามีอะไร น่าจะเป็นส่วนนี้มากกว่าที่เราจะต้องเตรียมโจทย์ เตรียมคำตอบ
เมื่อถามถึงท่าทีของไทยต่อสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการเจรจาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า คงทราบอยู่แล้วว่าเราอยากเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง ประสานผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ฉะนั้น เวลาเราคุยจะไม่ได้ดูว่าเอาผลประโยชน์ของใคร แต่จะดูว่าเราจะเอาอะไรที่สามารถไปแลกเปลี่ยนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจาจะเป็นการเกาะกลุ่มอาเซียนกันไปหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า หลายเรื่องอาเซียนคงต้องเกาะกัน พูดตรง ๆ เราค้าขายในอาเซียนค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าเงื่อนไขในประเทศอาเซียนได้แตกต่างกัน จะกลายเป็นว่าพวกเราจะมีปัญหากันเอง ดังนั้นหลัก ๆ แล้วคงต้องไปด้วยกัน
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีการดำเนินคดี ม.112 กับนักวิชาการชาวสหรัฐฯ เรื่องนี้จะถูกนำมาเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งกระทบต่อการเจรจาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เราต้องสามารถแก้ไขปัญหาได้ ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้
“พิชัย” ยอมรับเจรจาสหรัฐฯ ห่วงเรื่องอื่นนอกเหนือภาษี เหตุกติกาแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ยืนยันไทยเป็นกลางสงครามการค้า หลายเรื่องอาเซียนต้องเกาะกลุ่มกัน ไม่ห่วงปมนักวิชาการอเมริกันถูกจับ
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 1 พ.ค. 2596 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมในการเจรจากับสหรัฐอเมริกาว่า ในเรื่องกำแพงภาษีได้เตรียมไปตรงจุดแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปเข้าใจว่าทางฝั่งสหรัฐฯ ต้องการดูแผนที่สามารถจับต้องได้มากขึ้น และทั้ง 2 ประเทศได้ผลประโยชน์อะไรร่วมกันบ้าง เขาคงอยากดูถึงความเป็นไปได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราได้ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แต่ที่เราห่วงคือ อันที่ไม่เกี่ยวกับภาษีมากกว่า เช่น เรื่องกติกาต่าง ๆ ซึ่งแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯ คงพิจารณาว่าบ้านเรามีอะไร น่าจะเป็นส่วนนี้มากกว่าที่เราจะต้องเตรียมโจทย์ เตรียมคำตอบ
เมื่อถามถึงท่าทีของไทยต่อสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการเจรจาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า คงทราบอยู่แล้วว่าเราอยากเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง ประสานผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ฉะนั้น เวลาเราคุยจะไม่ได้ดูว่าเอาผลประโยชน์ของใคร แต่จะดูว่าเราจะเอาอะไรที่สามารถไปแลกเปลี่ยนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจาจะเป็นการเกาะกลุ่มอาเซียนกันไปหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า หลายเรื่องอาเซียนคงต้องเกาะกัน พูดตรง ๆ เราค้าขายในอาเซียนค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าเงื่อนไขในประเทศอาเซียนได้แตกต่างกัน จะกลายเป็นว่าพวกเราจะมีปัญหากันเอง ดังนั้นหลัก ๆ แล้วคงต้องไปด้วยกัน
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีการดำเนินคดี ม.112 กับนักวิชาการชาวสหรัฐฯ เรื่องนี้จะถูกนำมาเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งกระทบต่อการเจรจาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เราต้องสามารถแก้ไขปัญหาได้ ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้
…
อสส.ไม่ฟ้อง “พอล แชมเบอร์ส”
อย่างไรก็ตาม การให้สัมภาษณ์ของนายพิชัย เกิดขึ้นภายหลังจากที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง ดร.พอล แชมเบอร์ส ในข้อหาฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน สำนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลกจะได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก พร้อมทั้งดำเนินการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 ได้รับทราบ
ที่มา ไทยรัฐ