รัฐบาล “ไฟเขียว” ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เปิดให้ไทยมี “กาสิโน” ถูกกฎหมายได้ “นายกฯอิ๊งค์” แถลงขอสังคมมองภาพกว้างประเทศได้ประโยชน์ คุยพรรคร่วมแล้ว “เสี่ยหนู” ยันภูมิใจไทยหนุนเต็มสูบ เงื่อนไขค่าธรรมเนียมสำหรับคนไทยเข้าไปเล่นครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท ต้องมีเงินในบัญชีเงินฝาก 50 ล้านบาทไม่น้อยกว่า 6 เดือน “จุลพันธ์” เผยรัฐบาลวางแผนดัน พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสภาฯเป็นเรื่องเร่งด่วน ประสาน “มนพร” เจรจาสภาฯให้เลื่อนระเบียบวาระให้เร็วขึ้นให้ทันสมัยประชุมนี้ ชี้จะมีเม็ดเงินใหม่ลงทุนในประเทศ 1 แสนล้านบาทต่อแห่ง ด้านพรรคประชาชนจวกรัฐบาลเร่งรีบดันคลอดกาสิโน-เอนเตอร์เทนฯ ถามจี้ใจดำ ประชาชนได้ประโยชน์อะไร
ไทยจะมี “กาสิโน” ถูกกฎหมายแล้ว หลังรัฐบาลไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเที่ยงวันที่ 27 มี.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ที่มีวัตถุประสงค์ต้องการสร้างการท่องเที่ยวแบบใหม่ ไม่ต้องรอการท่องเที่ยวตามฤดูกาล ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นกว่า 8 หมื่นราย 80% เห็นด้วย จากนี้จะส่งต่อไปยังสภาฯ พิจารณาต่อไป
นายกฯกล่าวต่อว่า อยากอธิบายว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน จะมีกาสิโนไม่ถึง 10% อีก 90% เป็นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ความจุ 5 หมื่นคน และอินดอร์สเตเดียมที่ไทยไม่เคยมีสถานที่รองรับคอนเสิร์ตใหญ่ขนาดนี้ได้ มีสวนน้ำ โรงแรม อาหาร คาดว่าจะสร้างรายได้ 119,000-238,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี รัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 12,000-39,000 ล้านบาทต่อปี เก็บภาษีจากธุรกิจอื่น 8,000- 35,000 ล้านบาทต่อปี ภาษีกาสิโนขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี มีการจ้างงานและอาชีพใหม่ๆเพิ่มขึ้น นำมาพัฒนาประเทศ ที่สำคัญจะมีกฎหมายควบคุมป้องกันการติดการพนันและกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสของประเทศอย่าไปโฟกัสที่จุดเดียวและจะเดินหน้าอธิบายต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้ช่องทางไหนอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า กาสิโนเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายกฯกล่าวว่า ความจริงยังมีเนื้อหาเพิ่มอีก อาชีพใหม่ๆต้องเกิดขึ้น ธุรกิจที่มีอยู่ในเมืองไทยแล้ว อย่างสวนน้ำ โรงแรม ประชาชนจะเข้าใจ แต่ที่จำเป็นมากคืออินดอร์สเตเดียม ไว้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ฟังหลายกลุ่มที่เขาอยากจัดงานที่ประเทศไทย ต่างชาติชอบประเทศไทย ออร์กาไนเซอร์ก็ชอบ แต่สถานที่เรายังไม่ใหญ่พอรับคอนเสิร์ตใหญ่ๆได้ ทำให้หลายครั้งเราพลาดโอกาสดีๆไป นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้น ต้องมองภาพใหญ่ ไม่ใช่เจาะเฉพาะกาสิโน ต้องมองความจริงทั้งหมดทั้งคอมเพล็กซ์ ว่ามีอีกเยอะ สามารถเที่ยวได้ทั้งปี
เมื่อถามว่ามติในสภาฯทั้งพรรคร่วมรัฐบาล สว.และม็อบ คิดว่าเอาอยู่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องอธิบายไปเรื่อยๆ ไม่อยากพูดว่าจัดการได้ทั้งหมด แต่ยินดีรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด พร้อมตอบถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติม อยากทราบ อยากรู้อะไรจะตอบและสื่อสารให้มากขึ้น เมื่อถามย้ำว่าที่ผ่านมาได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมเรื่องนี้เคลียร์หรือยัง เพื่อไม่ให้มีปัญหาในสภาฯ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “คุยค่ะ คุยแล้ว แต่ในรายละเอียดให้สภาฯเขาทำไป เพราะต้องแก้ให้เหมาะสมที่สุดได้อีก” พร้อมหันไปมองนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่กล่าวเสริมว่า “เข้า ครม.ไปแล้ว” ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะกระเซ้าผู้สื่อข่าวว่า “นี่จะให้มีรอยร้าวในพรรคร่วมอีกแล้ว” ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งขั้นก่อน แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการคุยเรื่องคอนเซปต์ เนื่องจากเป็นการสร้างโอกาสให้ประเทศและยังไม่ได้วางไทม์ไลน์ชัดเจนต้องไปดูอีกที เมื่อถามว่าเรื่องเงินฝาก 50 ล้าน ต้องว่ากันในสภาฯใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ใช่ เรื่องนี้ไปว่าในสภาฯอีกที”
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่ารัฐบาลได้ปรับรายละเอียดมาแล้ว เช่น กาสิโนเหลือแค่ 10% เกณฑ์คนที่เข้าต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 50 ล้านบาท ส่วนกระทรวงมหาดไทยไม่มีความเห็นอะไร หากเป็นไปตามนี้ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยขวางกฎหมายฉบับนี้ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล พูดถึงข้อกังวลไปแล้ว มีการปรับรายละเอียดแล้ว
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว กาสิโนมีไม่ถึง 10% ของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ส่วนใหญ่จะเป็นสวนสนุก ศูนย์ประชุม ห้างสรรพสินค้าและบริการอื่นๆ ที่จะก่อให้เกิดการลงทุน นำรายได้เข้าสู่ประเทศ ส่งเสริมการจ้างแรงงานในประเทศ เป็นการดึงเม็ดเงินลงทุนใหม่ขนาดใหญ่จากต่างประเทศ จากนักลงทุนที่มีประสบการณ์พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกแบบครบวงจร เป็นการลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ทำให้ไทยเป็นผู้นำการท่องเที่ยวในภูมิภาค เป็นการนำธุรกิจกาสิโนและการพนันถูกกฎหมายให้เข้ามาอยู่ในระบบอย่างมีมาตรฐาน ภายใต้การควบคุมของกฎหมาย มีการจัดเก็บรายได้และภาษีอย่างถูกต้อง
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ที่สำคัญไม่ใช่แค่เรื่องการทำกาสิโนแต่จะเป็นการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ที่เป็น Man-made Tourist Destination เป็นโมเดลทางธุรกิจขนาดใหญ่เหมือนดูไบ ญี่ปุ่น การ ลงทุนขนาดใหญ่ที่จะดึงเอกชนมาร่วมลงทุน สร้างรายได้ใหม่ ถือเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทย รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น จากการดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น ปัญหาทางการเงินและหนี้สิน ปัญหาอาชญากรรม เป็นต้น และเตรียมการกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข เยียวยาเพื่อบรรเทาผลกระทบข้างต้น เช่น จำกัดคุณสมบัติผู้เข้าใช้บริการ ห้ามเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเกี่ยวกับกาสิโน กำหนดให้มีสำนักงานและพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล ตรวจสอบ ติดตามผลการดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอย่างใกล้ชิด ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร แล้วดำเนินการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบดังกล่าว” รมช.คลังกล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า สาระของร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย 7 หมวด 104 มาตรา มีสาระสำคัญ ดังนี้ ต้องมีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะนโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต่อ ครม. ออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควบคุมและมาตรการบังคับ พิจารณาและออกคำสั่งเกี่ยวกับการออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การเพิกถอนใบอนุญาต กำหนดให้จัดตั้งสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อควบคุม กำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบ ส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
รมช.คลังกล่าวอีกว่า สถานบันเทิงครบวงจร ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนด โดย ครม. ให้ความเห็นชอบ ต้องประกอบด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายร่างเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานบริการ สนามกีฬา ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ สถานที่เล่นเกม สระว่ายน้ำและสวนน้ำ สวนสนุก เป็นต้น อย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน สัดส่วนไม่เกิน 10% ของที่ดิน หรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร อนุญาตให้มีการพนันได้เฉพาะประเภทที่คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนด ต้องจัดให้มีเขตบริเวณของสถานประกอบการกาสิโน ที่แยกห่างจากสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่นอย่างชัดเจน ห้ามบุคคลที่อายุน้อยกว่า 20 ปี เข้ากาสิโน สถานบันเทิงครบวงจรจะต้องประกอบด้วยพื้นที่สำหรับ ส่งเสริมสินค้า บริการ ศิลปวัฒนธรรมไทย ไม่น้อยกว่า 10% ของพื้นที่ทั้งหมดอีกด้วย
“หลังจากนี้จะมีการนำร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ในที่ประชุม ครม.ไม่มีรัฐมนตรีใดทักท้วง ถือว่าราบรื่น ผู้ที่จะเข้าไปเล่นกาสิโน ต้องมีเงินฝากในบัญชี 50 ล้านบาท ไม่น้อยกว่า 6 เดือน เชื่อว่าต้องนำไปถกกันในรัฐสภา เงื่อนไขค่าเข้าสำหรับคนไทย เพดานอยู่ที่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อครั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการนโยบายฯ จะประกาศกำหนด ทั้งนี้ มีการประเมินว่าจะเกิดการลงทุนที่เป็นเม็ดเงินลงทุนใหม่มากกว่า 100,000 ล้านบาท รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 110,000-230,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นปีละ 5-10% เกิดการสร้างงาน 9,000-15,300 คน ก่อให้เกิดรายได้ใหม่ของรัฐเพิ่มขึ้น 12,037-39,427 ล้านบาท รายได้จากภาษีธุรกิจเกี่ยวข้อง 8,773-35,093 ล้านบาท ภาษีจากกาสิโน 3,264 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมเข้ากาสิโนขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาท” รมช.คลังกล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวตอนท้ายว่า หน้าที่ต่อไปจะเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยจะต้องดูว่ามีการแก้ไขอย่างไรกับกฎหมายฉบับนี้ เบื้องต้นไทม์ไลน์ของการเสนอกฎหมาย ขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ คือวันที่ 2-3 เม.ย. และ 9-10 เม.ย. จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลจึงเสนอรัฐสภาให้บรรจุเป็นเรื่องเร่งด่วนและจะเร่งผลักดันกฎหมายออกมาให้เร็วที่สุด ได้คุยกับนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะวิปของ ครม.จะไปเจรจากับสภาว่าจะมีทางเลื่อนระเบียบวาระให้เร็วขึ้น เพื่อจะเข้าได้ทันสมัยประชุมนี้ จากนั้นจึงตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณารายละเอียดในชั้นนี้ ก่อนจะเข้าวาระ 2-3 ต่อไป
อีกด้านที่รัฐสภา นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการ พัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี รัฐบาลไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ว่า สส.พรรคประชาชนติดตามอยู่ มีหลายเรื่องที่เราเรียกร้องถึงรัฐบาลว่า ควรสื่อสารตรงไปตรงมาให้สังคมหายสงสัย เช่น ใครจะเป็นผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ หรือกระบวนการออกใบอนุญาตเอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีความโปร่งใส เพราะรัฐบาลจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคประชาชนว่า กระบวนการให้สิทธิประโยชน์และใบอนุญาตต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้จริง เป็นการเร่งรีบไปหรือไม่เพราะเพิ่งจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปเมื่อวันที่ 26 มี.ค.
เมื่อถามว่า ท่าทีของพรรคประชาชน จะดำเนินการ อย่างไรต่อจากนี้ นายสิทธิพลกล่าวว่า ต้องนำไปพูดคุยกันภายในพรรคอีกครั้ง แต่จุดยืนของพรรคประชาชนยังเหมือนเดิม เกิดคำถามว่ากฎหมายที่ออกมาจะช่วยแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ มีปัญหาหลายอย่างที่รัฐบาลตั้งใจไว้ว่าจะช่วยแก้ได้ผ่าน พ.ร.บ.นี้ เช่น ปัญหาการพนันช่วยแก้หรือไม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจดึงดูดการท่องเที่ยวดึงดูดได้จริงหรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขคนไทยที่จะเข้าไปเล่นกาสิโนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเท่าไหร่ มีเงื่อนไขเป็นอย่างไร ทั้งหมดคือรายละเอียดที่พรรคประชาชนอยากเห็น ใครจะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตต่างๆ แต่มีการบอกว่ามีการล็อกสเปกไว้แล้ว รัฐบาลควรจะทำให้โปร่งใส ทำให้ประชาชนเห็นว่า ถ้าจะมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เกิดขึ้นแล้ว ประชาชนได้ประโยชน์อะไร เมื่อถามย้ำว่า พรรคประชาชนจะยื่นร่างประกบร่างของรัฐบาลหรือไม่ นายสิทธิพลกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธาน กมธ.คณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎร ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการเรื่องนี้
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/