“อิ๊งค์” กระเซ้า “คุณพ่อ” เข้าสภาแจงซักฟอกไม่ได้ ยื่นคำขาดต้องทำตามกฎข้อบังคับการประชุม ประชดเล็กๆซักฟอกเดือนนึงพอมั้ย พท.ระดม สส.รับมือเต็มร้อย “วันนอร์” โยนจะได้อภิปราย 24 มี.ค.หรือไม่ อยู่ที่ทุกฝ่ายร่วมมือ เลขาฯสภาลั่นไม่แก้ญัตติก็ไม่บรรจุวาระให้ แจงไม่มีเดดไลน์กำหนดตายตัว แต่ควรยื่นให้ทัน 17 มี.ค. “คัมภีร์” กางข้อบังคับย้ำอำนาจประธานฯคนคุมเกม ฝ่ายค้านเสียงแข็งไม่แก้ไขญัตติ ยกเคส “ราเกซ” เหมือนมานั่งกลางสภา ผู้นำฝ่ายค้านขอ ปธ.สภารับฟังกันบ้าง วางตัวให้สมกับประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เชื่อยังมีเวลาเจรจา นายกฯยาหอมเงินหมื่นได้ทุกกลุ่ม คลังกลับลำใช้จ่ายค่าเทอม-ค่าน้ำ-ค่าไฟไม่ได้ ทสท.ชี้คนวัยทำงานเริ่มบ่จอย 30 สว.ชะงักชง ป.ป.ช.สอย “ทวี”
ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยกข้อบังคับการประชุมย้ำพรรคฝ่ายค้าน ต้องปรับแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถอนชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออก ไม่เช่นนั้นก็ไม่บรรจุวาระให้ แจงไทม์ไลน์ควรส่งกลับให้สภาฯภายในวันที่ 17 มี.ค. ให้ทันกรอบเวลาอภิปรายวันที่ 24 มี.ค.นี้
นายกฯอุดหนุนพัฒนาบทบาทสตรี
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นำคณะเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรม กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี นำเสนอผลิตภัณฑ์ของ 4 กลุ่มอาชีพ นายกฯร่วมอุดหนุนเสื้อเบลเซอร์ใยกัญชง ลายชนเผ่า กลุ่มแปรรูปผ้าฝ้ายใยกัญชงสำเร็จรูป อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และกิ๊บติดผมทำจากผ้าฝ้ายของกลุ่มผ้าคลุมผมสตรีบ้านลาเวง (LAVA LAWAENG) อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส พร้อมกล่าวทักทายเจ้าของร้านที่เป็นแม่และลูกสาว ในวัยเจนวายว่า น่าชื่นชมลูกสาวเรียนจบมาเป็นกำลังสำคัญ เป็นความภูมิใจของแม่ “เราก็เจนแม่ๆ แต่มีลูก ลูกน่าจะเจนอัลฟ่า ดีใจที่เจนรุ่นใหม่ทำงานกับเจนรุ่นแม่”
กระเซ้า “คุณพ่อ” เข้าสภาไม่ได้
น.ส.แพทองธารแถลงหลังการประชุม ครม. ถึงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีชื่ออยู่ในญัตติหรือไม่ว่า ท่านไม่ว่าอะไร เพียงแต่ถามว่าเข้าได้หรือ เพราะ ไม่ได้อยู่ในสภาฯ หรือจะให้เข้าไปสภาฯ แต่เข้าไม่ได้อยู่แล้ว เป็นการถามเล่นๆไม่มีอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าติดหรือไม่หากมีชื่อนายทักษิณอยู่ในญัตติ น.ส.แพทองธารตอบว่า เอาข้อเท็จจริง อย่าใช้อารมณ์ หลักการ กฎ คืออะไรดีกว่า ถ้าเราไม่ทำตามกฎ ตามหลักการ จะตั้งไว้ทำไม ถ้าไม่ได้จะฝืนหลักการคงไม่ได้ เมื่อถามว่าจะตั้งโต๊ะแถลงต่อสาธารณชนว่านายทักษิณไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารเลยหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “ท่านทักษิณจะแถลงเพื่ออะไรหรือคะ ถ้าเพื่อให้มีประเด็นอื่นต่อ ก็ไม่จำเป็น ท่านทักษิณเป็นคุณพ่อของนายกฯ คนที่ 31 เท่านั้น ไม่ได้เป็นนายกฯด้วย แต่ถ้าฮอลลีวูดชวนท่านไปเป็นดารา ท่านแถลงได้” ผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่าอาจถูกอภิปราย 5 วัน นายกฯหัวเราะก่อนกระเซ้ากลับว่า “เดือนนึงเลยมั้ย แต่ได้หมด กี่วันก็มา”
พท.พร้อมรับศึกซักฟอกเต็มร้อย
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการ ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรค ร่วมเป็นประธานการประชุม จากนั้นนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคแบ่งทีมทำงานหลายส่วน ทั้งการเตรียมข้อมูล ดูแลเรื่องข้อบังคับ รวมถึงนโยบายพรรค ขณะนี้ถือว่าพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิน 100% คอยสนับสนุนนายกฯ และ ครม. แต่ยังคงกังวลที่พรรคประชาชนยืนยันจะไม่แก้ไขญัตติ ขอให้พรรคฝ่ายค้านรีบพูดคุยและแก้ปัญหาเรื่องญัตติ เพราะนายกฯจัดสรรเวลาไว้เรียบร้อยแล้วในช่วงวันที่ 24 มี.ค. และยินดีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะลุกขึ้นอภิปรายด้วย จากสายข่าวของเราในพรรค พปชร. ทำให้ทราบว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร มีคนส่งข้อมูลให้ และเราเตรียมข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ชี้แจงแล้ว
“วันนอร์” โยนอยู่ที่ทุกฝ่ายร่วมมือ
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นหนังสือโต้แย้งอำนาจประธานสภาฯ ในการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รับหนังสือโต้แย้งจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านแล้ว สำนักประชุม สำนักกฎหมาย และสำนักประธานสภาผู้แทนราษฎร กำลังประมวลเรื่องเพื่อเตรียมชี้แจง เพื่อขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้การประชุมสภาฯ ในวาระอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่กำหนดไว้วันที่ 24 มี.ค. ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ไม่มีการประท้วงให้เกิดความวุ่นวาย ยืนยันว่าการใส่ชื่อบุคคลภายนอกไปในญัตติถือว่าผิดข้อบังคับ ไม่สามารถทำได้ เมื่อถามว่าต้องเป็นไปตามที่ประธานสภาฯวินิจฉัยตั้งแต่แรกใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า หากมีการโต้แย้งขึ้นมา ต้องดูว่ามีอะไรที่แก้ไขบ้าง คิดว่าทันบรรจุวาระการประชุม นี่เพิ่งวันที่ 11 มี.ค. แต่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ที่จะทำให้ญัตติสามารถเดินไปได้ ไม่มีเจตนาอย่างอื่น นอกจากอยากทำให้ถูกต้องตามกติกา เมื่อถามว่าได้อภิปรายแน่นอนใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า รอดู
กางข้อบังคับย้ำอำนาจประธานฯ
นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จากข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรข้อ 178 และข้อ 69 การอภิปรายไม่ไว้วางใจห้ามผู้อภิปรายออกชื่อบุคคลใดโดยไม่จำเป็น และการอภิปรายที่อาจทำให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่นายก รัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี หรือ สส.ได้รับความเสียหาย ถือเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจริยธรรม สส.ผู้นั้นต้องรับผิดชอบ ประธานสภาฯเห็นว่าหากปล่อยให้ชื่อบุคคลภายนอกอยู่ในญัตติต่อไปจะเกิดความเสียหาย มีความไม่เรียบร้อยในที่ประชุม ท่านต้องรับผิดชอบฐานไม่ควบคุมรักษาความสงบในที่ประชุม จึงต้องใช้ดุลพินิจวินิจฉัยข้อบกพร่องของญัตติ นอกจากนี้จากการตรวจสอบญัตติ พบว่ามี สส.พรรคฝ่ายค้านจำนวน 10 ราย ที่ลายมือชื่อไม่ตรงกับที่ลงไว้กับสภาฯ จึงให้ไปแก้ไข เมื่อแก้ไขกลับมาได้นำเสนอเรื่องต่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา และพบว่าญัตติมีการกำหนดชื่อบุคคลภายนอกไว้ เป็นเหตุให้ไม่สามารถบรรจุเข้าระเบียบวาระได้ นายพิเชษฐ์จึงเสนอต่อประธานสภาฯเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ยังอยู่ในกรอบเวลา
เลขาฯสภาลั่นไม่แก้ไม่บรรจุญัตติ
ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การบรรจุวาระญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นดุลพินิจของประธานสภาฯ และท่านให้สำนักการประชุมตรวจสอบข้อมูลในอดีต การกล่าวถึงบุคคลภายนอกนั้นไม่มี มีแต่ใช้คำว่าบุคคลในครอบครัว อดีตสมาชิกฯ ไม่ระบุชื่อโดยตรง เฉพาะญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องอยู่ในกรอบนี้ ไม่ใช่ญัตติทั่วไป ญัตติทั่วไปอาจมีการเอ่ยถึงบุคคลภายนอกได้ ประธานสภาฯถือเป็นบรรทัดฐานครั้งนี้ จริงอยู่ที่ผู้เสนอญัตติพร้อมรับผิดชอบในการกล่าวถึงบุคคลภายนอก แต่ในฐานะประธานสภาฯท่านต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นคนใช้อำนาจให้บรรจุญัตติ จึงเห็นควรให้ตัดบุคคลภายนอกออกไป เมื่อถามย้ำว่า หากไม่แก้ญัตติก็ไม่บรรจุวาระใช่หรือไม่ เลขาธิการสภาฯตอบว่า “ครับ ท่านมีดำริให้นโยบายมา ภายในวันที่ 11-12 มีนาคมนี้ ผมจะทำหนังสือชี้แจงที่ผู้นำฝ่ายค้านโต้แย้งมา ยืนยันหนังสืออย่างเป็นทางการไปอีกครั้งหนึ่ง”
แจงไม่มีเดดไลน์กำหนดไว้ตายตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านต้องส่งญัตติที่แก้ไขแล้วมาก่อนวันที่ 19 มี.ค. เพื่อให้ทันการบรรจุวาระหรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ตอบว่า ไม่มีเดดไลน์ไม่มีกำหนดตายตัวว่าต้องส่งกลับมาให้สภาเมื่อใด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของ ครม. จะมาตอบได้เมื่อใด หากเป็นไปตามกระแสข่าวว่าจะอภิปรายวันที่ 24 มี.ค. ฝ่ายค้านควรส่งญัตติที่แก้ไขแล้วมาให้สภาฯ ภายในวันที่ 17 มี.ค. เพื่อให้สภาฯแจ้งเรื่องให้ ครม.ทราบทันการประชุม ครม.วันที่ 18 มี.ค. แต่ถ้าฝ่ายค้านส่งญัตติที่แก้ไขกลับมาหลังวันที่ 17 มี.ค.ไปแล้ว สภาฯก็ส่งเรื่องให้ ครม.ทราบได้ ขึ้นอยู่กับ ครม.จะพร้อมมาตอบให้หรือไม่ ไม่มีกำหนดตายตัวว่าต้องส่งญัตติกลับมาก่อนวันอภิปรายกี่วัน
“มุข” ชี้ไม่มีชื่อแต่สังคมรู้ถล่มใคร
นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ฝ่ายค้านน่าจะถอยก้าวหนึ่ง การอภิปรายฯ แม้ไม่ระบุชื่อและนามสกุล ก็สามารถอภิปรายทำให้ประชาชนเข้าใจว่าบุคคลที่กำลังพูดถึงเป็นใคร ไม่มีข้อแตกต่างว่าจะระบุชื่อหรือไม่ หากสุดท้ายแล้วไม่มีการอภิปรายฯถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ประชาชนก็อยากฟัง ฝากให้ฝ่ายค้านพิจารณาคำนึงถึงสาระสำคัญสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ฝ่ายค้านเสียงแข็งไม่แก้ไขญัตติ
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจคงเกิดขึ้นอยู่แล้วภายในสมัยประชุมนี้ ไม่เช่นนั้นประชาชนคงต้องตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่าพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบถ่วงดุลในระบบสภาหรือไม่ คำโต้แย้ง และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ค่อนข้างชัดเจนว่า ข้อบังคับไม่ได้ห้ามอย่างเด็ดขาดในการพูดถึงบุคคลภายนอก มี สส.อาวุโสท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจ ช่วงค่าเงินบาทวิกฤติเศรษฐกิจวันนั้นเขารู้สึกว่านายราเกซ สักเสนา นั่งอยู่ในสภาด้วย เพราะทุกคนลุกขึ้นมาพูดชื่อนายราเกซตลอด เมื่อถามว่าฝ่ายค้านยืนยันไม่แก้ญัตติใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า เรายืนยันว่าทำถูกต้องตามข้อบังคับ แต่ถ้าจะใช้อำนาจ หรือขอความร่วมมืออะไร ควรมาพูดคุยกัน ไม่ใช่พูดคุยอะไรไม่ได้เลย จะหาทางออกกันตรงไหน แต่ไม่ใช่การใช้อำนาจหรืออ้างข้อกฎหมายข้อบังคับที่ไม่ตรงไปตรงมา หรือทำตามอำเภอใจ อยากให้มีข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้าก็ยังทัน เพราะมีการคุยกันแล้วว่าการอภิปรายควรเกิดขึ้นวันไหน
“เท้ง”ขอประธานฯรับฟังกันบ้าง
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ให้รอการประชุมสภาวันที่ 12 มี.ค. พรรคฝ่ายค้านเตรียมสะท้อนต่อประธานสภาโดยตรงเรื่องแก้ไขญัตติ เชื่อว่าน้ำหนักที่ให้ไว้ในหนังสือคัดค้าน ชี้ให้เห็นว่าในประวัติศาสตร์หลายครั้งมีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกได้ หากจำเป็น อยากให้ประธานรับฟังเหตุผลฝ่ายค้านบ้าง และตัดสินใจอีกครั้ง แต่สุดท้ายจะตัดสินใจอย่างไรเป็นอำนาจของประธานสภา ยังมีเวลาหารืออยู่ภายในสัปดาห์นี้ เมื่อถามว่าจะตัดชื่อนายทักษิณออกแล้วใส่เพียงแค่บิดา หรือคนในครอบครัวนายกฯได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า การใช้คำระบุลงไปในญัตติอาจไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือกระบวนการอภิปรายในสภา ถ้าระบุชื่อนายทักษิณตรงไปตรงมา การอภิปรายก็จะสามารถกล่าวถึงนายทักษิณได้ตรงไปตรงมา การประท้วงก็ทำได้ยากขึ้น กลับกันหากใช้คำอื่นเลี่ยงบาลีก็ได้ แต่คงลุกขึ้นประท้วงกันทุกครั้งที่กล่าวถึงนายทักษิณ
วางตัวให้สมประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า อยากให้ประธานวางตัวเป็นกลางในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่อยากให้ใช้อำนาจที่ดูเหมือนเป็นการปกป้องนายทักษิณ หรือฝั่งรัฐบาลมากไปกว่านี้ พรรคฝ่ายค้านไม่ได้ดื้อดึง ไม่ได้พยายามสู้ชนฝา พวกเราพยายามยืนยันในหลักการ เชื่อว่าประธานสภายังมีเวลาตัดสินใจ ภายในวันที่ 14 มี.ค. จะได้รับความชัดเจนแน่นอน ส่วนวันอภิปรายเป็นเรื่องของวิป พรรคประชาชนเรามีความพร้อมเต็มที่ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาข้อสรุปเรื่องการบรรจุญัตติ
อิ๊งค์” ยาหอมเงินหมื่นได้ทุกกลุ่ม
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กล่าวถึงโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ให้กลุ่มอายุ 16-20 ปี ผ่านแอปฯทางรัฐว่า ขอให้โหลดแอปทางรัฐไว้ก่อน เมื่อถามว่ากลุ่มอายุ 20-59 ปี กังวลว่าจะไม่ได้รับเงินหมื่น นายกฯตอบว่า “ขอย้ำให้ความมั่นใจว่าทุกกลุ่มจะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต้องกังวล ที่เราให้กลุ่มอายุ 16-20 ปีก่อน เพราะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี บางคนอาจพูดว่าทำไมไม่ให้เงินสดเหมือนเดิม ความจริงเป็นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตตั้งแต่ตอนหาเสียง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเข้าสู่เทคโนโลยี แต่ระบบต้องใช้เวลา ขณะนี้ระบบใกล้เสร็จจึงกลับมาแจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ต และไม่จบแค่นี้ การมีฐานข้อมูลประชาชนไว้ มีประโยชน์มาก เวลาเกิดอะไรขึ้น เช่น การเยียวยา ทำให้ทำงานง่ายและเร็วขึ้น
คลังกลับลำใช้จ่ายค่าเทอมไม่ได้
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า หลังให้สัมภาษณ์ว่าการแจกเงิน 1 หมื่นบาทเฟส 3 ให้กลุ่มอายุ 16-20 ปี ว่าสามารถจ่ายค่าเทอมการศึกษาได้นั้น ขอชี้แจงว่าค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ ถือเป็นค่าบริการ จึงไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เงินต้องเอาไปแลกสินค้าและบริการ อุปโภคหรือบริโภค แต่บริการไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าเมื่อวานทำไมถึงบอกว่าจ่ายค่าเทอมได้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ที่ยืนอยู่ข้างๆตอบกลับด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า เมื่อวานสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจันหน้าไปหน่อย ยืนยันยังสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้ เมื่อถามย้ำว่าค่าน้ำ-ค่าไฟก็ถือเป็นค่าบริการ นายจุลพันธ์และนายเผ่าภูมิตอบพร้อมกันว่า เป็นค่าบริการเหมือนกัน ก่อนที่นายเผ่าภูมิขยายความคุณสมบัติร้านค้าต้องห้ามเข้าโครงการ 8 ข้อ เช่น สถานบริการน้ำมัน สถานบริการร้านอาหาร ร้านขายสลาก ร้านขายสุรา ร้านขายบุหรี่ หากเจาะเป็นรายสินค้าเลยจะทำให้การบริหารจัดการยาก และทำให้เกิดความสับสนกับประชาชนได้
ทสท.ชี้คนวัยทำงานเริ่มบ่จอย
นายทิวากร สุระชน กรรมการบริหารและรองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงความกังวลต่อความไม่พอใจของประชาชนวัยทำงาน ที่เป็นกลุ่มผู้เสียภาษีหลักแต่กลับได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นกลุ่มสุดท้ายว่า คนวัยทำงานคือกระดูกสันหลังของประเทศ พวกเขาเสียภาษีเพื่อนำไปใช้พัฒนาประเทศ แต่กลับถูกจัดให้อยู่ในลำดับท้ายสุด ทั้งที่เป็นกลุ่มที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากที่สุด มีการตั้ง
คำถามว่าเหตุใดรัฐบาลจึงเลือกแจกเงินให้กลุ่มผู้สูงอายุและเยาวชนอายุ 16-20 ปีก่อน ขณะที่พวกเขาเป็นผู้สร้างรายได้และต้องดูแลคนในครอบครัว หลายฝ่ายกังวลว่าเงินที่แจกให้กลุ่มเยาวชน อาจไม่ได้ถูกใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะยังไม่มีประสบการณ์ทำงานและยังไม่อยู่ในระบบภาษี ทำให้เกิดคำถามว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ มองว่าที่เลือกแจกเงินให้กลุ่มเยาวชนก่อน อาจเพราะต้องการสร้างฐานเสียงมากกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
รบ.ไม่รีบดัน “เอนเตอร์เทนเมนต์”
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ยังกล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า ต้องดูก่อนว่าจะนำเข้าที่ประชุม ครม.เมื่อใด ตอนนี้ยังไม่พร้อม ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านเราก็รับฟัง ความเห็นประชาชนสำคัญเรารับฟังทุกอย่าง การอธิบายทำความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญมาก สุดท้ายจะมาพร้อมกับความเข้าใจ เมื่อถามว่าที่บอกว่ายังไม่พร้อมเพราะอะไร เพราะก่อนหน้านี้เร่งเครื่องมาตลอด น.ส.แพทองธารตอบว่า เราเร่งในเรื่องรวบรวมความเห็นและรายละเอียดต่างๆ ไม่อยากรีบเพราะประเทศไทยยังไม่เคยมี บอกไปว่ายังไม่ต้องรีบให้มันชัดเจนก่อน เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับแนวทางที่ต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาทถึงจะเข้ากาสิโนได้หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่าในรายละเอียดขอว่ากันอีกที พูดไปตอนนี้กลับไปกลับมาจะยิ่งงง ขอให้ได้ข้อสรุปแล้วบอกอีกที
“เดชอิศม์” ปัดดึงกาสิโนลงหาดใหญ่
นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พูดคุยเรื่องสร้างกาสิโนว่า ไม่ทราบว่าใครพูด ชอบสร้างความขัดแย้ง ชอบนั่งเทียนคิด นายทักษิณไปพักผ่อนไม่ได้ไปหาดใหญ่นานมาก ไม่ได้พูดถึงเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สักคำ พูดกันเรื่องพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ นายทักษิณโทรศัพท์หาตน 2 วันก่อนลงหาดใหญ่ว่าไม่ได้ไปหาดใหญ่มานานมาก อยากไปเยี่ยมไปเดินตลาด ซึ่งประชาชนให้การต้อนรับดีมาก เป็นบุคลิกคนใต้อยู่แล้ว เป็นคนคบเพื่อน เพื่อนคบ แต่มีบางกลุ่มเพื่อนไม่คบและไม่คบเพื่อน เมื่อถามว่ามองว่า อ.หาดใหญ่ ควรมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหรือไม่ นายเดชอิศม์ตอบว่า ต้องถามประชาชนชาวสงขลาด้วย ตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องฟังรอบด้าน 360 องศา ว่าทำไมประเทศเพื่อนบ้านเรามีกันหมดแล้ว ความจริงภูมิศาสตร์บ้านเราได้เปรียบกว่า
30 สว.ชะงักเลื่อนชง ป.ป.ช.สอย “ทวี”
อีกเรื่อง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. กล่าวว่า วันนี้ (11 มี.ค.) จะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หลังคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติรับคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ ข้อหาฟอกเงิน เป็นการดำเนินการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะดีเอสไอสามารถรวบรวมหลักฐานส่งให้ กกต.ดำเนินการได้ ไม่ต้องทำเอง แต่ดีเอสไอเก็บไว้ทำเอง ไม่ส่ง กกต. ถูกอำนาจอะไรครอบงำอยู่ แสดงว่าขาดจริยธรรมจงใจกลั่นแกล้ง
ที่มา ไทยรัฐ
