ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ เสด็จทรงร่วมงาน “ITB Berlin 2025 ” ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทรงให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย “เสน่ห์ไทย” ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ตามแนวทาง 5 Must Do in Thailand หรือ 5 เรื่องที่ต้องทำเมื่อมาประเทศไทย ชวนนักท่องเที่ยวร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่เป็นบิ๊กอีเวนต์ในปีนี้ พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างความประทับใจแบบ Grand Moment
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวระดับโลก Internationale Tourismus Börse หรือ ITB Berlin 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค.2568 ณ Berlin Expo Center City กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อเยี่ยมชม คูหาประเทศไทย เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มี.ค.2568 ตามเวลาท้องถิ่นเยอรมนี ที่ช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง มีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน นางนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วย รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้บริหาร และพนักงานเฝ้าฯ รับเสด็จ ณ คูหาประเทศไทย
ในการนี้ ททท. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไทยถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ในโอกาสที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism&Sports Year 2025 ว่า จะต้องใช้ “เสน่ห์ไทย” เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มา เที่ยวประเทศไทย โดยเสน่ห์ของความเป็นไทยที่สำคัญ ที่สุดคือ การเป็นคนไทยที่มีน้ำใจ มีการอนุรักษ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย อาหาร ศิลปวัฒนธรรม ภูมิประเทศที่สวยงาม ก็เป็นเสน่ห์ไทยทั้งสิ้น ประเทศไทยสามารถ นำเสนอเสน่ห์ไทยผ่านสินค้าและบริการท่องเที่ยว ผ่านแนวคิด 5 Must Do in Thailand หรือ 5 เรื่อง ที่ต้องทำเมื่อมาประเทศไทย ประกอบด้วย Must Taste คือ อาหารไทยที่ทุกคนทั่วโลกยอมรับว่าเป็น เอกลักษณ์ของไทยที่ดีที่สุด เป็นที่นิยมของคนทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น เช่น ข้าวซอยที่ได้รับการ โหวตจากนักรีวิวทั่วโลกว่าเป็นซุปที่ดีที่สุดของโลก อาหารอีสานมีส้มตำ ลาบ ภาคใต้มีอาหารแกงเหลือง แกงไตปลา และอีกมากมาย รวมทั้งมีวัตถุดิบของไทย ผลไม้ของไทยที่ชูเสน่ห์ไทยให้ชัดเจนมากขึ้น Must Try เวลาต่างชาติมาเมืองไทย มาร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ที่เด่นๆคือ การต่อยมวยศิลปะการต่อสู้ที่ชัดเจนที่คนทั้งโลกรู้จัก Must Buy ทั่วโลกมาเมืองไทยก็มา ช็อปปิ้งมาซื้อของที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ เช่น จ.แพร่ มีผ้าย้อม สีคราม ทางภาคอีสานมีผ้าไทยที่สวยงาม มีเครื่องจักสานกระเป๋าจากหวาย และมีเครื่องเงิน เครื่องทอง ของ จ.สุโขทัย
ต่อมาคือ Must Seek คือการไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักที่เป็น Hidden Gems หรือเมืองน่าเที่ยว ที่มีสิ่งมากมายที่ซ่อนอยู่ตามต่างจังหวัด ต่างๆ และ Must See เราจะเชิดชูประเพณีต่างๆ ของไทย เช่น สงกรานต์ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ รวมทั้ง ศิลปวัฒนธรรมไทยต่างๆ เช่น โขน ภาคอีสานมีหมอลำ ภาคใต้มีมโนราห์ สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ และยังมีอีก มากมาย ทั้งหมดนี้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย อยาก ให้ทุกคนได้มาสัมผัสประสบการณ์ของเสน่ห์ไทย
“การจัดงานปีนี้ดีมากเลยที่ ททท.ได้ขยายพื้นที่เต็มทั้งฮอลล์ ทำให้ประเทศไทยได้พื้นที่นี้มากขึ้น สำหรับผู้ประกอบการของไทยจะได้ดึงผู้ประกอบการ ประเทศอื่นๆมาพูดคุย เมื่อมีพื้นที่เยอะก็สามารถแสดงกิจกรรมและแสดงสินค้าต่างๆได้เยอะขึ้นตามแนวทางเสน่ห์ไทย ภูมิปัญญาไทย วัฒนธรรมไทย ผ้าไทย มีการแสดงมวยไทย” ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ กล่าว และเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมอีเวนต์ในประเทศไทยว่า ในปี 2568 จะมีการจัดเทศกาล สงกรานต์เป็นงานใหญ่ยิ่งขึ้นกว่าปีก่อน จะมีขบวนคาร์นิวัลเหมือนที่ประเทศบราซิล น่าตื่นตาตื่นใจ ในด้านกีฬา ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ใน 3 จังหวัด กรุงเทพฯ ชลบุรี สงขลา ในเดือน ธ.ค.2568 ขอเชิญชวนให้ไปดูการแข่งขันในพื้นที่ นักท่องเที่ยวจะได้มาร่วมชมกีฬา ไปช็อปปิ้งและท่องเที่ยวได้ด้วย
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่มองว่าเป็น Grand Moment ที่อยากแนะนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น การชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นและตกผ่าน 15 ช่องประตูปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ การทำ กิจกรรมถ้วยชามสังคโลก จ.สุโขทัย การไปชมวาฬ บรูด้าที่อ่าวไทย ที่อยากให้รักษาเอาไว้ ทุกคนต้องร่วม รักษาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ในช่วงท้าย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ได้แนะนำการโปรโมตเสน่ห์ไทยในกลุ่มคนรุ่นใหม่ว่า สามารถผ่านทางงานคราฟต์ เช่น นำเศษผ้าไทยมาทำ เป็นพวงกุญแจ หรือนำผ้าไทยมาพันหูกระเป๋าที่เป็น เครื่องจักสาน อย่างตอนนี้มีฮิตห้อยอาร์ตทอย “ลาบูบู้” ก็สามารถนำผ้าไทยมาประดิษฐ์เป็นตุ๊กตาได้เช่นกัน
ในการนี้ ททท. ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงสาธิตการพันผ้าหูกระเป๋าจากผ้าไทย (Twilly) และการทำส้มตำเมนูเด็ดต้องลองชิม (MUST TASTE) เพื่อนำเสนอการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว 5 Must Do in Thailand จากนั้นได้เยี่ยมชมคูหา ประเทศไทยที่ปีนี้ให้ความสำคัญนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ ภายใต้แนวคิด Sustainable Thailand Soft Power มีการจัดสรร พื้นที่แบ่งออกเป็นหลากหลายโซน มีไฮไลต์ ได้แก่ โซน Hidden Gem Cities พื้นที่เจรจาธุรกิจของ ผู้ประกอบการจากเมืองน่าเที่ยว 17 จังหวัด จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย เป็นต้น
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
