“น้องไข่มุก” เด็กวัย 14 กลับสู่อ้อมกอดครอบครัว หลังถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา

“น้องไข่มุก” เด็กวัย 14 กลับสู่อ้อมกอดครอบครัว หลังถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา

“น้องไข่มุก” เด็กหญิงวัย 14 ปี เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับสู่อ้อมกอดพ่อแม่ได้สำเร็จ หลังถูกหลอกไปทำงานในกัมพูชา บังคับให้หาเหยื่อ อดข้าว โดนทำร้าย

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีเคสน้องไข่มุก อายุ 14 ปี หายออกจากบ้านพักที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และพบข้อมูลว่าถูกชายคนหนึ่งทักแชตเข้ามาในแอปพลิเคชันไลน์ หลอกให้ไปทำงานที่จังหวัดสระแก้ว โดยขับรถมารับน้องไข่มุกถึงที่บ้าน และบอกว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด

หลังจากที่น้องไข่มุกหายตัวไปหลายวัน แม่เชื่อว่าลูกสาวถูกหลอก หลังพบว่าถูกพาเดินทางไปอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าพาน้องไข่มุกไปทำงานผิดกฎหมาย ซึ่งผู้เป็นแม่พยายามติดต่อหาลูกสาว แต่กลับติดต่อไม่ได้ในทุกช่องทาง เกิดความไม่สบายใจ เป็นห่วงลูกสาวอย่างมาก ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.ปลวกแดง จังหวัดระยอง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 แม่และป้าพร้อมพ่อที่ได้เลิกรากับแม่น้อง ร่วมเดินทางจากจังหวัดระยอง พร้อมกับตำรวจ ปคม. ตำรวจ ตม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้นอ้อเป็นหนึ่ง และมูลนิธิวินวิน ไปรอรับน้องไข่มุกที่บริเวณหน้าด่านถาวรคลองลึก อำเภออรัญประเทศ พร้อมผู้การทหารพรานที่ 12 ผู้กำกับ ตม. สระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กระทั่งเวลา 20.00 น. น้องไข่มุกได้รับการช่วยเหลือพาเดินทางกลับมาถึงไทย บริเวณหน้าด่านถาวรบ้านคลองลึก ซึ่งทันทีที่มาถึง น้องไข่มุกได้โผเข้ากอดแม่และพ่อ ร้องไห้ด้วยความดีใจ ได้มีโอกาสเข้าสู่อ้อมกอดแม่และพ่อ ซึ่งครั้งนี้ยังถือว่าโชคดี

ด้าน พ.ต.อ.ภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก.ตม.จังหวัดสระแก้ว และ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา จังหวัดสระแก้ว ได้ช่วยประสานงานกับทีมของเจ้าหน้าที่กัมพูชาแบบเร่งด่วน เพื่อที่จะช่วยเหลือน้องไข่มุกเด็ก 14 กลับคืนสู่อ้อมกอดพ่อและแม่ได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากน้องไข่มุกเดินทางมาถึงโผเข้ากอดแม่และพ่อทันที ซึ่งสภาพร่างกายดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับให้ข้อมูลว่าตนเองถูกพาไปทำงานที่ฝั่งประเทศกัมพูชา ชายแดนติดกับประเทศเวียดนาม ตลอด 5 วันที่อยู่ที่นั่น น้องไข่มุกถูกบังคับให้ทำงานตั้งแต่ 09.00 น. และต้องหาเหยื่อให้ได้ร้อยราย หากทำไม่ได้ก็จะไม่ได้กินข้าว และจะถูกทำร้าย ถูกกักขัง

หลังจากที่ให้ข้อมูลเบื้องต้น น้องไข่มุกร้องขอข้าวกิน โดยแม่ได้ซื้อกะเพราหมูสับไข่ดาวให้กินเป็นมื้อแรกของวัน เพราะตลอดทั้งวันที่เดินทางมา ซึ่งห่างจากประเทศไทยประมาณ 200-300 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง น้องไข่มุกไม่ได้กินข้าวและระหว่างเดินทางกลับมายังฝั่งไทยนั้น ได้มีการสลับรถตลอดการเดินทาง ซึ่งบางจุดไม่มีสัญญาณ ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้ ซึ่งได้แต่ภาวนาให้คนที่ขับรถมาส่งน้อง ส่งน้องกลับให้ถึงฝั่งไทย เพราะไม่สามารถที่จะคาดเดาได้เลยว่าน้องจะถูกส่งขายไปยังบ่อนต่างๆ อีกหรือไม่ จนกระทั่งทาง ผกก.ตม.ไทยได้ประสานไปยัง ตม. ฝั่งกัมพูชา จนได้รับคำยืนยันมาเจอตัวน้องแล้ว ตลอดทั้งวัน ทีมงานต้องคอยสอบถามและให้น้องไข่มุกรายงานพิกัดตลอดเวลา จนสามารถช่วยเหลือน้องไข่มุกได้สำเร็จ

สำหรับเคสของน้องไข่มุก ถือเป็นเคสที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไป และอายุน้อยที่สุดที่สามารถช่วยเหลือกลับมาได้ ทั้งนี้น้องไข่มุกยังบอกอีกว่ายังมีคนอื่น ๆ ที่เป็นคนไทยและอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

ขณะที่แม่ของน้องไข่มุกขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและสื่อมวลชนที่ช่วยเหลือลูกสาวกลับมาสู่อ้อมอกได้สำเร็จ บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มบนคราบน้ำตาแห่งความยินดีของทุกหน่วยงานที่ได้เข้าช่วยเหลือและทุกภาคส่วน

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ บก.ปคม. และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว จะสอบปากคำน้องไข่มุกว่าการเดินทางข้ามประเทศไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้ เป็นเหยื่อถูกหลอกหรือเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ พ.ม.จ สระแก้วร่วมสอบในครั้งนี้ด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก. ต.ม. สระแก้ว หลังจากได้รับการประสานงานจากทางเจ้าหน้าที่ สภ. ปลวกแดง ตนเองก็ไม่รอช้า รีบประสานงานไปยังฝั่งตม.ประเทศกัมพูชา ซึ่งเคสนี้ถือว่าพบตัวน้องได้เร็ว และยังโชคดีที่สามารถนำตัวน้องกลับคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ได้ และยังอยากฝากเตือนสำหรับคนที่คิดว่าจะมาทำงานโดยที่มีข้อเสนอรายได้สูงๆ นั้นมันไม่มีอยู่จริง มันจะมีแต่พวกที่ทำงานไม่สุจริตเท่านั้น.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

4,304 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *