ปมล่วงละเมิดทางเพศของพิธีกรดัง กับจุดเปลี่ยนของสิทธิสตรีในญี่ปุ่น

ปมล่วงละเมิดทางเพศของพิธีกรดัง กับจุดเปลี่ยนของสิทธิสตรีในญี่ปุ่น

  • หลังพิธีกรชื่อดังของญี่ปุ่นถูกเปิดโปงว่ามีการใช้กำลังล่วงละเมิดหญิงสาว จนเกิดแรงกดดันอย่างหนักจากสาธารณชน จนต้องลาออก ขณะที่สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ก็ต้องยกเลิกการออกอากาศรายการของเขา หลายฝ่ายต่างมีความหวังว่า เรื่องนี้จะช่วยจุดประเด็นให้คนในสังคมหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิสตรีมากขึ้น
  • ก่อนหน้านี้วงการบันเทิงญี่ปุ่นก็สั่นสะเทือนจากกรณีของ จอห์นนี คิตากาวะ อดีตเจ้าพ่อวงการบันเทิงที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งถูกเปิดโปงว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายและชายหนุ่มหลายร้อยคนตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี
  • แม้ว่าคดีนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ แต่วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ของญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่งผู้หญิงยังถูกมองเป็นผู้ดูแลบ้าน ส่วนผู้ชายคือผู้นำครอบครัว และในวงการบันเทิงยังใช้ผู้หญิงเป็นเหมือนวัตถุให้ความบันเทิงแก่ฝ่ายชายตามงานเลี้ยงต่างๆ จึงยังคาดเดาได้ยากว่ากระแสความตื่นตัวในเรื่องสิทธิสตรีนี้จะจุดติดในระยะยาวหรือไม่

ในสังคมญี่ปุ่น คดีล่วงละเมิดทางเพศในอดีต เหยื่อมักถูกทำให้อับอายจนต้องเงียบเฉยและไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องราว ทำให้ผู้ที่ก่อเหตุก็ย่ามใจ และไม่เคยได้รับผลกรรมที่ตัวเองได้ก่อไว้

แต่เมื่อมีคดีของ มาซาฮิโระ นาคาอิ บุคคลที่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศจากการเป็นสมาชิกของวงบอยแบนด์ J-Pop ชื่อดัง SMAPและยังเป็นพิธีกรระดับแนวหน้าของสถานีโทรทัศน์ Fuji TV หนึ่งในสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ก็ทำให้หลายฝ่ายหวังว่ากระแสเรื่องสิทธิสตรีในประเทศญี่ปุ่นจะถูกจุดติดขึ้นได้ในที่สุด

นาคาอิ ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวคนหนึ่งระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำในปี 2023 โดยข้อกล่าวหานี้ถูกเปิดเผยครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วโดย ชุกัน บุนชุน นิตยสารแท็บลอยด์รายสัปดาห์ของญี่ปุ่น และถือเป็นเรื่องอื้อฉาวล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับคนดังในญี่ปุ่น

แม้ว่านาคาอิจะไม่ยอมรับผิดและปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ใช้กำลังบังคับหญิงสาว แต่เขาก็ออกแถลงการณ์ขอโทษที่ก่อให้เกิดปัญหา และกล่าวว่าเขาได้ยุติเรื่องนี้ ผ่านการเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งมีรายงานว่ามูลค่าการชดเชยสูงถึง กว่าครึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เมื่อกระแสความไม่พอใจของสาธารณชนเพิ่มขึ้น นาคาอิถูกบังคับให้ประกาศลาออกจากวงการบันเทิงในเดือนมกราคม ขณะที่สถานีโทรทัศน์ Tokyo Broadcasting System (TBS) ก็ยกเลิกการออกอากาศรายการที่เขาเคยเป็นพิธีกรประจำ

ผลกระทบต่อ Fuji TV


ผลกระทบต่อ Fuji TV นั้นรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง เพราะเรื่องอื้อฉาวนี้ ทำให้ชื่อเสียงของสถานีโทรทัศน์ถูกทำลายย่อยยับ รายได้ของบริษัทอยู่ภายใต้ความเสี่ยง และผู้บริหารระดับสูงหลายคนต้องลาออกจากตำแหน่ง

แม้แต่บริษัทชั้นนำอย่าง Nissan และ Toyota ต่างพากันถอนโฆษณาออกจากสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ เนื่องจากแรงกดดันจากสาธารณชน Fuji TV ยังยอมรับว่า พวกเขายังคงให้นาคาอิทำหน้าที่พิธีกรในรายการต่อไป แม้จะทราบข้อกล่าวหานี้แล้วก็ตาม

“จงเงียบไว้ ถ้าอยากรักษางาน”

เคอิโกะ โคจิมะ อดีตผู้ประกาศข่าวที่ทำงานในวงการสื่อของญี่ปุ่นมา 15 ปี ให้สัมภาษณ์กับ BBCว่า ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คงไม่มีเสียงประณามขนาดนี้ เพราะการล่วงละเมิดทางเพศในญี่ปุ่นถือเป็นความลับที่ทุกคนรู้กันดี

เธอกล่าวว่าวงการสื่อญี่ปุ่นเป็นพื้นที่ที่ผู้ชายสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่มีความรับผิดชอบ และ ผู้หญิงหลายคนต้องเงียบไว้เพื่อรักษางานของตัวเอง เธอเล่าว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะพูดจาลามกเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาหรืออายุของผู้หญิง และตัวเธอเองเคยถูกถามตรงๆ ว่ามีเพศสัมพันธ์มาแล้วกี่ครั้ง และผู้หญิงก็ถูกคาดหวังให้ตอบแบบขำๆ โดยห้ามโกรธหรือรู้สึกแย่ นอกจากนี้เธอยังเห็นการล่วงละเมิดทางเพศและพฤติกรรมดูถูกผู้หญิงแทบทุกวัน

การสำรวจในปี 2020 พบว่า มากกว่า 70% ของคดีล่วงละเมิดทางเพศในญี่ปุ่นไม่เคยถูกแจ้งความ
และผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Asian Studies ปี 2024 ระบุว่า ในจำนวนคดีข่มขืน 1,000 คดี มีเพียง 10–20 คดีที่นำไปสู่การตัดสินลงโทษ และมีน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่ถูกตัดสินว่าผิดจริงต้องโทษจำคุก

มาจิโกะ โอซาวะศาสตราจารย์กิตติคุณจากมหาวิทยาลัยสตรีแห่งญี่ปุ่น กล่าวว่าญี่ปุ่นยังคงมีแนวคิดแบบ “Shoganai” หรือ “ไม่มีอะไรที่เราจะทำได้” ซึ่งปลูกฝังให้ผู้หญิงต้องเงียบ โดยผู้หญิงญี่ปุ่นมักไม่ได้รับความเชื่อถือ และพวกเธอแทบไม่มีช่องทางที่เหมาะสมในการแจ้งเหตุเหล่านี้ ซึ่งยิ่งตอกย้ำวัฒนธรรมแห่งความเงียบ

วัฒนธรรม “ผู้หญิงเป็นแค่เครื่องมือเอ็นเตอร์เทน”

กรณีของ Fuji TV ยังทำให้เกิดคำถามว่า “งานเลี้ยงและปาร์ตี้ดื่มเหล้าระหว่างคนดังและหญิงสาวนั้นเป็นเรื่องปกติหรือไม่?” แม้ว่า “ชุกัน บุนชุน” จะถอนรายงานที่กล่าวว่าการล่วงละเมิดเกิดขึ้นในงานเลี้ยงที่ Fuji TV เป็นผู้จัด แต่โคจิมะอดีตผู้ประกาศข่าวสาว บอกกับ BBC ว่า เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับความบันเทิง โดยในวัฒนธรรมการทำงานของญี่ปุ่น มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะถูกบังคับกลายๆ ให้ไปเข้าร่วมงานสังสรรค์ ผู้ชายจะรู้สึกดีถ้ามีสาวๆ อยู่รอบตัว แนวคิดที่ว่าผู้หญิงเป็นของขวัญ และการพาผู้หญิงไปงานเลี้ยงคือการแสดงน้ำใจต่อแขก ยังคงฝังรากลึกในสังคมญี่ปุ่น

การเอาเปรียบผู้หญิงในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง

อุตสาหกรรมบันเทิงของญี่ปุ่นมีประวัติการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้แสดงและการละเมิดอำนาจทั้งทางเพศและด้านอื่น ๆ มาอย่างยาวนาน การเคลื่อนไหว #MeToo ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในฮอลลีวูดเมื่อปี 2017 ได้ช่วยเพิ่มความตระหนักเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในวงการบันเทิงของญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ

กรณีของ จอห์นนี คิตากาวะ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของความล้มเหลวในระบบอุตสาหกรรมบันเทิงที่ไม่สามารถปกป้องผู้แสดงและบุคลากรในสื่อได้ มีเหยื่อที่เคยเป็นเยาวชนมากกว่า 1,000 คน ออกมาเรียกร้องความยุติธรรม แต่ถึงแม้ว่าจะมีรายงานข่าวและข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศต่อคิตากาวะเป็นเวลาหลายปี บริษัทที่เกี่ยวข้องกลับล้มเหลวในการจัดการและยับยั้งความเสี่ยงดังกล่าว แม้ว่ากรณีนี้เหยื่อจะเป็นผู้ชายทั้งหมด แต่ผู้หญิงก็ยังคงเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศในอุตสาหกรรมนี้เช่นกัน

จากผลสำรวจในปี 2023 พบว่า 1 ใน 5 ของผู้หญิงในอุตสาหกรรมบันเทิงเคยถูกคุกคามทางเพศ นอกจากนี้ ผลสำรวจจากภาคเอกชนในปี 2024 ที่เก็บข้อมูลจากบุคลากรในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง พบว่า

51.4% (131 คน) เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือใช้ความรุนแรงทางเพศ
22.7% (58 คน) เคยได้รับคำขอให้ให้บริการทางเพศ
27.5% (70 คน) เคยถูกใช้ความรุนแรงทางร่างกาย
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาที่แพร่หลายในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงของญี่ปุ่น

ที่มา ไทยรัฐ

ผู้นำเสนอข่าว

yoko

Written by:

4,110 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

3 thoughts on “ปมล่วงละเมิดทางเพศของพิธีกรดัง กับจุดเปลี่ยนของสิทธิสตรีในญี่ปุ่น

  1. The construction and real estate sectors feature prominently on BusinessIraq.com, with regular updates on major infrastructure projects, urban development initiatives, and property market trends. Our coverage includes detailed reporting on government tenders, private sector developments, and international construction partnerships. From residential projects to commercial developments, we track the building blocks of Iraq’s economic growth, providing valuable insights for industry stakeholders.