ตร.ตามรวบ เฒ่าวัย 83 ใช้มีดแทงอดีตคนรัก วัย 60 ปีเสียชีวิต อ้างหึงหวง และถูกทำร้ายก่อน ขณะที่ลูกสาวผู้ตายไม่เชื่อ ลั่นไม่ต้องมาขอขมา พร้อมจะไปค้านการประกันตัว
จากกรณี นายบุญศรี สงจินดา อายุ 83 ปี ชาว ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง หึงโหดใช้มีดแทง น.ส.ณัฐธิดา มีล้อม หรือ ป้ามาลี อายุ 60 ปี ชาว ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง อดีตคนรักเสียชีวิต ก่อนใช้รถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.33 น. วันที่ 23 ก.พ. 68 พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงศ์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง แจ้งว่า ชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบลุงบุญศรี หลบหนีมาอยู่ที่บ่อเลี้ยงกุ้ง ในพื้นที่ ต.สระกระเทียม จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเข้าจับกุม นายบุญศรี ได้ที่เพิงพักไม่มีเลขที่ ม.9 ต.สระกระเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม และนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจสอบเส้นทางที่ใช้หลบหนี ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.บ้านโป่ง
ทันทีที่ นายบุญศรี ลงจากรถมาด้วยสีหน้าอิดโรย และตกใจ ก่อนพูดสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้ว่าทำไมถึงลงมือก่อเหตุ และไม่ขอโทษในสิ่งที่ทำไป
ระหว่างรอสอบปากคำ นายบุญศรี ผู้ก่อเหตุ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว อ้างว่าวันที่เกิดเหตุตนเจอกับผู้ตาย และโต้เถียงกัน เรื่องให้ผู้ตายไปถอนแจ้งความ กล่าวหาว่าตนลักจักรยาน ทั้งที่รถจักรยานนั้นตนเป็นผู้ซื้อให้ แต่ผู้ตายไม่ยอมแล้วยังจะมาขอเงินอีก 5,000 บาท ตนไม่มีไม่ให้ ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ จึงโต้เถียงกัน ก่อนผู้ตายใช้มีดปอกผลไม้ที่พกมาฟันเข้าที่หัวตนก่อน ตนจึงแย่งอาวุธมีด และแทงผู้ตายไป 3 ครั้งจนล้มลง ซึ่งตอนนั้นตนไม่รู้ว่าผู้ตายจะเสียชีวิต
หลังก่อเหตุจึงคว้ารถจักรยานยนต์ของคนอื่น ที่จอดบริเวณนั้นขี่หลบหนีไป โดยใช้ถนนเส้นเลียบคลองชลประทาน ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง แล้วทิ้งรถไว้ ต.โค้กหม้อ ก่อนจะเดินเท้าไปโบกรถชาวบ้านตั้งแต่ ต.หนองอ้อ จนถึง ต.สระกระเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม รวม 5 ครั้ง แล้วขอชาวบ้านอาศัยที่เพิงพักข้างบ่อกุ้ง โดยอ้างกับชาวบ้านว่า ทะเลาะกับเมีย ชาวบ้านจึงยอมให้อยู่
ส่วนปมเหตุในการก่อเหตุ เพราะโมโหที่ผู้ตายไม่ยอมถอนแจ้งความ และหึงหวงที่มีผู้ชายมาพัวพันด้วย ก่อนก่อเหตุไม่ได้มีการดักรอหรือวางแผนไว้ก่อน สาเหตุที่หนีเพราะตกใจ และไม่คิดว่าผู้ตายจะถึงขั้นเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ยืมโทรศัพท์ชาวบ้านติดต่อกับลูกสาว และตั้งใจจะมอบตัวในวันอังคาร 25 ก.พ. แต่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ก่อน
ลุงบุญศรี ยังบอกอีกว่า ประเด็นที่ตนบอกว่า “ไม่ยอมโดนจับ จะยอมฆ่าตัวตายนั้น” ตนไม่ได้พูด และที่ผ่านมาผู้ตายมักจะมาเงินตนตลอด ตนรักก็ยอมให้มาตลอด ตนไม่เคยไปทำร้ายร่างกายผู้ตายถึงบ้าน
เมื่อถามว่า เคยมีคดีฆ่าแทงคนตายหรือไม่ ลุงบุญศรี ยอมรับว่าเคย เมื่อ 40 ปีที่แล้ว และว่า อยากจะขอโทษครอบครัวและญาติของผู้ตาย แต่คงจะไม่ไปขอขมาที่งานศพ เพราะกลัวไม่ปลอดภัย และไม่อยากมีปัญหา ซึ่งทางญาติผู้ตายคงไม่อนุญาตด้วย ซึ่งในระหว่างที่ตอบคำถาม บางช่วง ลุงบุญศรี มีน้ำตาคลอ
อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปศาลาอเนกประสงค์ วัดท่าผา อ.บ้านโป่ง ซึ่งสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ป้ามาลี โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ลูกสาวของป้ามาลี เปิดใจว่า หลังเกิดเหตุและยังจับตัวนายบุญศรีไม่ได้ ชาวบ้านในพื้นที่หวาดระแวง และกลัวการให้ข้อมูลต่างๆ จนล่าสุดสามารถจับตัว นายบุญศรี ได้ ทางครอบครัวรู้สึกดีใจและโล่งใจ ตามที่นายบุญศรีกล่าวอ้างว่า เถียงกันเรื่องรถจักรยาน ยืมเงิน 5,000 บาท และแม่ลงมือก่อเหตุทำร้ายก่อนจึงแทงกลับ ตนไม่เชื่อเพราะแม่ตนไม่มีทางทำใครก่อนแน่นอน แม่เธอกลับจะหลีกเลี่ยงการปะทะ หรือเจอกันด้วยซ้ำ
หลังจากนี้จะมาร่วมงานศพหรือมาขอขมา พวกเธอไม่ยินดีและไม่ยอมให้มาร่วมเด็ดขาด ยังทำใจยอมรับไม่ได้ ยืนยันว่าไม่ให้อภัยเด็ดขาด แต่อยากเจอผู้ก่อเหตุและถามว่าฆ่าแม่ทำไม ต่อจากนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะคัดค้านการประกันตัวด้วย
ที่มาไทยรัฐ